ณ ห้องผู้อำนวยการ โรงเรียนอนุบาลแอปเปิลน้อย
“คุณเยี่ย วันนี้ที่มา หรือว่ามาเพราะเรื่องของเด็กทั้งสามคนนั้นอีกคะ” ผู้อำนวยการหลิวมองกลุ่มคนที่ใส่ชุดสูทดำสุดเนี้ยบแล้วรู้สึกหวาดกลัว “ฉันจะบอกคุณครูให้พาพวกเขามา”
“ไม่จำเป็น” เยี่ยจวินพูดตัดบทผู้อำนวยการหลิว“เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขาจะรู้อะไร? ต่อให้มีปัญหา ก็เป็นปัญหาของผู้ปกครอง”
“ความหมายของคุณคือ...”
“หาข้อมูลผู้ปกครองของเด็กทั้งสามมาให้ผม”
“ได้ จะรีบจัดการให้ทันทีค่ะ”
……
บริษัทเซิ่งเทียนกรุ๊ป ห้องท่านประธาน
เยี่ยเจิ้งถิงนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ สายตาเยือกเย็นจ้องมองไปทางเฟิงเชียนเสวี่ยที่ก้มหน้าก้มตาไม่ส่งเสียงใดๆ “ถ้าบอกความจริงมา ก็จะไม่ถือสาหาความ”
เฟิงเชียนเสวี่ยก้มหัวต่ำสุดเท่าที่ต่ำได้ ไม่กล้าหายใจแรง ใจเต้นตึกตึกไม่หยุด ในสมองใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว...
ทำยังไงดี ทำยังไงดี
จริงอยู่ว่ากาแฟเธอเป็นคนยกเข้าไป ตอนกรรมการเจียงกำลังติดคออยู่ ก็มีเพียงแค่เธอที่บอกให้เขาอ้วกออกมา แถมยังช่วยล้วงคออีก...
ใครที่มีหัวคิดหน่อย ก็คงรู้ว่าเป็นเธอที่ใส่ชิปลงไป? ต่อให้หาหลักฐานไม่ได้ว่าเธอเป็นคนใส่ แต่ก็มั่นใจได้แน่ ๆ ว่าเธอรู้ว่าในแก้วกาแฟมีชิปอยู่…
เรื่องนี้ จะอธิบายอย่างไงดี เธออาจจะโกหกแต่งเรื่องขึ้นมาก็ได้
แต่ประเด็นก็คือ เยี่ยเจิ้นถิงรู้ตั้งแต่แรกว่าชิปนั้นถูกหลงหลงเผลอเอาไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วแบบนี้เธอจะอธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหลงหลงกับเธอยังไง?
ตอนนี้มือถือก็ยังเงียบอยู่ แม่จูกับที่โรงเรียนอนุบาลก็ยังไม่มีใครโทรมา แสดงว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือไม่ก็เพราะว่าทางนี้หาชิปเจอแล้ว ดังนั้นทางนั้นก็เลยหยุดการเคลื่อนไหว?
“พูดมา! ”เยี่ยเจิ้นถิงตะโกนอย่างโกรธเคือง
เฟิงเชียนเสวี่ยตกใจจนตัวสั่น เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างอ่อนแรง รังสีอาฆาตอย่างกับพญายมทำเอาขาเธอแทบอ่อนแรง ความคิดในสมองตอนนี้พันกันยุ่งเหยิงดั่งฝอยขัดหม้อ
ไม่สามารถคิดไตร่ตรองอะไรได้เลย
“ไม่พูดใช่ไหม?”เยี่ยเจิ้นถิงหมดความอดทน ออกคำสั่งกับเยี่ยฮุยที่รออยู่ด้านข้างประตู “ส่งไปสถานีตำรวจ บอกว่าเธอขโมยชิปไป!”
“ครับ! ”เยียฮุยรีบเดินตรงเข้ามา...
“ฉันไม่ได้ ฉันไม่ได้ขโมยของ”เฟิงเชียนเสวี่ยรีบแก้ตัวทันที
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็บอกฉันมา ทำไมชิปถึงไปอยู่ในแก้วกาแฟได้? ”เยี่ยเจิ้นถิงเอานิ้วเคาะเป็นจังหวะลงบนแผ่นฟิล์มเอกซเรย์ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “ฉันไม่มีความอดทนยืดเยื้อไปกับเธอหรอกนะ ให้เวลาหนึ่งนาที! ”
“ฉัน...”เฟิงเชียนเสวี่ยรู้สึกยุ่งเหยิงไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร
“เหลือแค่สิบวิ! ”นิ้วของเยี่ยเจิ้นถิงเคาะเป็นจังหวะเร็วขึ้น แทนความอดทนของเขาที่เสียไป “10 9 8 7....”
ทำยังไงดี?
เฟิงเชียนเสวี่ยหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ในตอนนั้นเอง มือถือเธอมีสายเข้ามา โทรมาจากครูโรงเรียนอนุบาล
ในใจเธอยิ่งตื่นกลัวขึ้นไปอีก แย่แล้ว คนของเยี่ยเจิ้งถิงหาเจอถึงโรงเรียนอนุบาลแล้ว!
ในหัวเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาทันที ปกป้องลูกไว้ก่อน
“3 2 1!”
“ฉันเก็บได้!”
ขณะที่เยี่ยเจิ้นถิงกำลังนับถึงเลขสุดท้ายนั้น เฟิงเชียนเสวี่ยก็โพล่งออกมาก่อน
เยี่ยเจิ้นถิงหยุดเคาะโต๊ะ ขมวดคิ้วมองเธอ “เก็บได้?”
“ใช่...”เฟิงเชียนเสวี่ยกลืนน้ำลายหนึ่งอึก แต่งเรื่องโกหกอย่างระมัดระวัง
“สัตว์เลี้ยงบ้านฉันป่วย ฉันพามันไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ แล้วบังเอิญเจอชิปในกองมูลสัตว์ ฉันเห็นบนชิปนั้นสลักตัวอักษร S สีทอง ก็นึกขึ้นได้ว่าบริษัทก็ทำชิปหายไปหนึ่งอัน
ฉันสงสัยว่านี่อาจเป็นสิ่งนั้นที่พวกคุณทำหาย แต่ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ ฉันอยากจะคืนให้คุณ แต่ก็กลัวคุณสงสัยว่าฉันเป็นคนขโมย ดังนั้นจึงคิดจะแอบเอาไปวางไว้ที่ห้องทำงานของคุณ
แต่ว่าฉันเข้าห้องทำงานคุณไม่ได้ ตอนนั้นเอง สยงหมิ่นต้องการให้ฉันถือกาแฟไปให้คุณ ฉันเลยเอาชิปใส่ไปในแก้วกาแฟ ฉันคิดว่า แบบนี้คุณน่าจะพบ ใครจะไปนึก...”
เธอพูดทั้งหมดออกมาแบบไม่หายใจ เฟิงเชียนเสวี่ยชำเลืองมองเยี่ยเจิ้นถิง “เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ ใครโกหกคนนั้นเป็นหมา! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก