“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คุณมีลูกที่น่ารักทั้งสามคน นี่แหละคือของขวัญจากพระเจ้า” แม่จูปลอบโยน “ถ้าคุณสามารถหาผู้ชายที่ดีในอนาคต ชีวิตของคุณจะสมบูรณ์แบบ”
“ในโลกใบนี้จะมีที่ไหนมากมายขนาดนั้น…”
ก่อนที่เฟิงเชียนเสวี่ยจะพูดจบ เธอก็ได้รับข้อความทางโทรศัพท์
“ผู้ชายใจดี!” เฟิงเชียนเสวี่ยอุทานด้วยรอยยิ้ม
“หา? คุณเคยเจอแล้วเหรอ” แม่จูถามอย่างรีบเร่ง
“แม่จูคุณไปนอนก่อนนะ ฉันจะกลับห้องแล้ว”
เฟิงเชียนเสวี่ยทักทายแม่จูแล้วกลับไปที่ห้องพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของเธอเพื่อส่งข้อความถึง “โฮสต์หนุ่มลูกหนี้”
“วันนี้รับลูกค้าไหม”
[อืม]
“นี่นายรับแบบเหมาคืนหรือ”
[อืม]
“ไม่เลวเลย รู้จักโอนเงินมาด้วยตัวเอง” เฟิงเชียนเสวี่ยยิ้มอย่างมีความสุข “ฉันต้องสู้ต่อไป ผ่านไปสองสามวันคุณโอนเงินให้ฉันแค่สองครั้ง จำนวนเงินนี้ไม่พอซื้อนม…”
เฟิงเชียนเสวี่ยกำลังจะพูดว่า “ไม่เพียงพอที่จะซื้อนมผง” เปลี่ยนเป็น “ไม่พอกิน” อย่างรวดเร็ว
“เธอต้องทำงานหนักด้วยตัวเอง”
“อย่าพูดถึงเลย ฉันเพิ่งจะไล่เจ้านายโรคจิตออกไปวันนี้”
[?]
“เขาโรคจิตมากเลย เขาจงใจตามรังควานฉัน ฉันไม่รู้ว่าไปทำให้เขาขุ่นเคืองตอนไหน”
ท้องของเฟิงเชียนเสวี่ยเหมือนเต็มไปด้วยไฟ เมื่อนึกถึงเจ้าปิศาจเยี่ย วันนี้เขาเหวี่ยงเธออย่างหนัก เธอปีนบันไดจนถึงตอนนี้ก็ยังคงเจ็บ แต่อาจจะเป็นเพราะเธอเหงื่อออก ไข้หวัดเลยดีขึ้นมาก
[เพราะงั้นในอนาคตเธอจะหวังพึ่งฉันทั้งหมดเลย?]
“ไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน ความสามารถในการแสดงของนายแย่มากหาเงินได้มาแค่นี้ฉันจะใช้พอได้อย่างไร พรุ่งนี้ฉันจะไปหางานทำ วางใจเถอะ”
[มันไม่ง่ายเลยที่จะหางานทำในตอนนี้…]
“ใช่”
เฟิงเชียนเสวี่ยจำได้ว่าเธอส่งเรซูเม่ไปมากกว่าสามสิบงานและสัมภาษณ์ไปสิบเจ็ดบริษัทก่อนหน้านี้ มีเพียงแค่เซิ่งเทียนที่ตอบรับเธอ แต่นั่นก็เป็นเพราะเฮ่อเหวินเจ๋อที่ติดต่อให้เป็นการส่วนตัว
เธออดไม่ได้ที่จะกังวล เธอจะหางานได้จริงๆเหรอ
“เฮ้อ ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันยังจะกลับไปทำงานที่เซิ่งเทียนได้ไหม ฉันยังไม่ได้ส่งจดหมายลาออก บางทีฝ่ายบุคคลอาจจะยังไม่ได้ยื่นเรื่อง…”
[เธอสามารถลองดูได้]
“แต่ตอนที่ฉันจะออก ฉันด่าเจ้านายของฉันไปแล้ว เขาต้องไม่ให้ฉันกลับไปทำงานแน่ๆเลย”
เฟิงเชียนเสวี่ยจับคางอ่างเป็นกังวล ตอนนี้เธอเสียใจมาก วันนี้ฉันไม่ควรรีบร้อนลาออกจากงานเลย
แม้ว่าการเป็นรปภ.จะไม่สดใส ทั้งยังเหน็ดเหนื่อย แต่เงินเดือนก็ไม่ลดลงอยู่ดี
นอกจากนี้ บริษัทไหนจะดีไปกว่ากลุ่มบริษัทเซิ่งเทียนกันล่ะ?
[การดุด่าเจ้านายเป็นความผิดใหญ่ ชดใช้ด้วยความตายก็ไม่เพียงพอ]
“นายจะไปเข้าใจอะไร นายรู้ไหมว่าเจ้านายของฉันนิสัยเสียขนาดไหน”
[งั้นเธอเพี้ยนหรือเปล่า]
“…”
เฟิงเชียนเสวี่ยโดน ‘โฮสต์หนุ่มลูกหนี้’ ถามจนพูดไม่ออก ดูเหมือนเธอก็จะค่อนข้างเพี้ยน เมื่อพูดถึงตอนที่เป็นเจ้านาย
บังคับให้เขารับใช้เศรษฐีผู้หญิงสามคนที่น้ำหนักรวมกันได้สามร้อยห้าสิบกิโลกรัม และบังคับให้เขาไปหาเศรษฐีผู้หญิงอีกสองสามคนเพื่อสนับสนุนและแบ่งปันเงินกับเธอ แม้กระทั่งซื้อยาบำรุงไต…
พฤติกรรมเหล่านี้เลวร้ายยิ่งกว่าของเจ้าปิศาจเยี่ยเสียอีก!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เฟิงเชียนเสวี่ยก็รู้สึกว่าเจ้าปิศาจเยี่ยไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น…
อย่างไรก็ตาม สาวรุ่นใหญ่ยากที่จะคืนคำ เนื่องจากเธอบอกไปแล้วว่า “ฉันจะลาออกจากงาน” ก็จะไม่หันหลังกลับ
เธอไม่เชื่อว่าจะไม่มีที่สำหรับเธอในไห่เฉิงที่ใหญ่ขนาดนี้!
แต่ความจริงก็คือ ในไห่เฉิงที่ขนาดใหญ่นี้ไม่มีที่สำหรับเฟิงเชียนเสวี่ยจริงๆ!
เช้าวันรุ่งขึ้น เฟิงเชียนเสวี่ยส่งเรซูเม่ของเธอไปยังทุกบริษัทในไห่เฉิง แต่หลังจากที่รอมาสามวันติดกัน ก็ไม่มีการแจ้งให้ไปสัมภาษณ์แม้แต่ครั้งเดียว
เธอรีบโทรจากบริษัทหนึ่งไปยังอีกบริษัทหนึ่งเพื่อถาม
แต่ผลที่ได้คือไม่บอกว่าไม่ได้เปิดรับ ก็บอกว่าไม่ได้ขาดคน หรือไม่ก็เธอมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ
ท้ายที่สุด เธอเริ่มที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดถัดไป ไปห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเพื่อสมัครงาน แต่ไม่มีใครต้องการเธอเลย แม้แต่พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารก็ไม่มีการตอบรับ
ราวกับว่านัดกันมาอย่างไงอย่างงั้น…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก