สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก นิยาย บท 53

เฟิงเชียนเสวี่ยรีบดึงเฉินเฉินเข้ามาสอบถามเรื่องราว

“วันนี้มีคนแปลกๆ มาหาผมและถามถึงเรื่องชิป ตอนนั้นผมก็งงไปหมด ตอนหลังได้ดูคลิปกล้องวงจรปิด ถึงรู้ว่าพวกเขาเข้าใจว่าผมคือหลงหลง”

เฉินเฉินเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟังอย่างละเอียด

เฟิงเชียนเสวี่ยแทบไม่อยากเชื่อ คิดไม่ถึงว่าชิปที่หลงหลงพูดถึงจะเป็นเรื่องจริง แถมชิปนั้นก็ยังเป็นชิปของบริษัทเซิ่งเทียนที่ถูกขโมยไปด้วย

“ว้าว ที่แท้ชิปนั่นก็เก็บบันทึกความลับของเทคโนโลยีล้ำสมัย มิน่าล่ะ พวกเขาถึงอยากจะแย่งมัน”

หลงหลงยิ้มแฉ่งเพราะรู้สึกว่าตนนั้นได้ทำเรื่องที่สุดยอดลงไป “ผมดูแลชิปล้ำค่านั้นมาตั้งนาน ถือว่ามีความชอบเลยนะ”

“ยังจะกล้าพูดอีก นายเพิ่งจะชักศึกเข้าบ้านนะ” เฉินเฉินขมวดคิ้วและติเตียนน้องชายอย่างรุนแรง “นายไม่รู้จักชายชุดดำนั่นเลย นายไม่ควรรับของจากเขา ดีที่วันนี้ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรขึ้น ถ้านายกับเย่ว์เย่ว์เป็นอะไรไป จะทำยังไง!”

“ตอนนั้นฉันยังไม่ทันรู้ตัวเลย เขาก็ยัดใส่กระเป๋าของฉันแล้ว” หลงหลงทำหน้ามุ่ยไม่ยอมรับผิด “แล้วฉันก็บอกไปแล้วว่าเจ้าซื่อเป่ากลืนชิปเข้าไป แต่ไม่มีใครเชื่อฉันเลย”

“หม่ามี๊ผิดเองจ๊ะ หม่ามี๊ไม่คิดว่าเรื่องจะร้ายแรงขนาดนี้” เฟิงเชียนเสวี่ยขอโทษหลงหลง “ถ้าหม่ามี๊ใส่ใจกับเรื่องนี้แต่แรก ก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”

“แต่ตอนนี้ชิปได้ถูกคนร้ายขโมยไปแล้ว คนของเซิ่งเทียนก็กำลังไล่ตามอยู่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้วล่ะ” เฉินเฉินเอียงคอวิเคราะห์ด้วยเหตุผล

“นั่นก็ไม่แน่หรอกค่ะ...” แม่จูเอ่ยขึ้นในทันใด

“หา? ทำไมล่ะ” เฟิงเชียนเสวี่ยมองแม่จูด้วยความงุนงง

แม่จูเดินไปที่ประตูมองซ้ายมองขวา เมื่อมั่นใจว่าด้านนอกไม่มีใคร จึงรีบปิดประตูที่ถูกทุบเสียหาย แล้วเดินกลับมา เธอกดเสียงต่ำและกล่าวขึ้น “ของที่ใส่อยู่ในกล่องใบนั้น...ไม่ใช่ชิป!”

“หา?” ทุกคนในบ้านมองไปที่แม่จูแล้วเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ไม่ใช่ชิป? แล้วมันคืออะไร”

“มันคือ...” แม่จูมองไปที่เจ้าซื่อเป่าน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเย่ว์เย่ว์

เจ้านกน้อยมุดหัวที่มีขนปุกปุยแอบเข้าไปใต้ปีก ท่าทางเขินอาย

**

“ประธานเยี่ยครับ ชิปถูกเฮยหู่แย่งชิงไปได้ พวกเรากำลังพยายามไล่ตามอยู่ครับ”

ในระหว่างที่เยี่ยฮุยกำลังไล่ตามเฮยหู่ เขาโทรศัพท์รายงานความคืบหน้าให้แก่เยี่ยเจิ้นถิง

“ไม่ได้เรื่องเลย!” เยี่ยเจิ้นถิงตะโกนด้วยความเดือดดาล “ถ้าเอาชิปมาไม่ได้ ก็ไม่ต้องกลับมา”

“ครับ!” เยี่ยฮุยหันไปโบกมือและพูดกับเหล่าบอดี้การ์ดอย่างฮึกเหิมว่า “ต่อให้ต้องตายในคืนนี้ พวกเราก็ต้องเอาชิปคืนมาให้ได้!”

“ต่อให้ต้องตายก็ต้องเอาชิปมาให้ได้!”

ทีมบอดี้การ์ดมือทองของตระกูลเยี่ยออกไล่ล่าเฮยหู่และปูพรมล้อมดักไว้ทุกทิศทาง

เฮยหู่หนีเอาชีวิตรอด เขาพบกับภัยอันตรายตลอดทางและเกือบเดินผ่านประตูผีอยู่หลายครั้ง

แต่ทว่า ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด เฮยหู่ต้องกัดฟันอดทน เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะนำชิปไปให้ถึงมือผู้ว่าจ้างให้ได้!

ถ้าทำสำเร็จ เขาจะได้รับเงินหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์เป็นค่าตอบแทน ชาตินี้ทั้งชาติ เขาและพี่น้องของเขาจะไม่ต้องลำบากอีกต่อไป!

เวลาตีสองครึ่ง เยี่ยฮุยนำกำลังคนไล่ล่าเฮยหู่มาจนถึงชายฝั่งหนานเจวี๋ย

แสงไฟเจิดจ้านับไม่ถ้วนส่องตรงไปที่เฮยหู่ ขณะเดียวกันปืนนับสิบกระบอกก็เล็งไปที่เขาเช่นกัน

หากเขากล้าขัดขืนก็คงจะถูกยิงจนพรุนไปทั้งตัว!

เยี่ยฮุยตะโกนอย่างดุดัน: เฮยหู่ ส่งชิปมาซะ แล้วพวกเราจะไว้ชีวิตแก!”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิกฤต เฮยหู่ตัดสินใจเดิมพัน : กลืนชิปซะ แล้วกระโดดลงทะเล อาจจะมีโอกาสรอด...

เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาจึงหยิบกล่องสีเงินที่ใส่ชิปออกมา เร่งรีบแกะโบสีชมพูและเปิดกล่องเตรียมจะหยิบชิปออกมา...

แต่ทว่า เขาชะงักทันทีเมื่อเห็นของในกล่อง...

ชั่วขณะนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนจากมึนงงเป็นตกใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง จนท้ายที่สุดใบหน้าเขากระตุกเกร็ง ปากสั่น เบ้าตาเปียกชุ่ม...

ใบหน้าเฉลียวฉลาดของเด็กแก่นหลงหลงนั้นแวบเข้ามาในสมองของเขา

เฮยหู่โมโหจนบรรยายไม่ถูก เขากัดฟันสบถ: “ไอ้ปีศาจ ไอ้ครอบครัวปีศาจ...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก