สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก นิยาย บท 56

ด้านนอกไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ความหวาดกลัวของพวกเด็กๆ ยิ่งเพิ่มทวีมากขึ้น มือที่ถือมีดหั่นผักของแม่จูกำลังสั่นเทา

เฟิงเชียนเสวี่ยหยิบมีดปอกผลไม้ ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้อย่างระแวดระวัง เธอมองลอดช่องประตูที่เสียหายออกไปด้านนอก

ขณะเดียวกัน ด้านนอกเองกลับมีดวงตาคู่หนึ่งมองสวนเข้ามา

เมื่อดวงตาทั้งสองประสาน ต่างฝ่ายต่างก็ตกใจร้องออกมา....

“อ๊ากกก” เด็กๆ ตกใจกลัวและร้องตามกันใหญ่

“แจ้งตำรวจเร็ว แจ้งตำรวจเร็วเข้า!” เฟิงเชียนเสวี่ยรีบร้อนหาโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรแจ้งความ

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน ดูเหมือนว่าจะเป็นลุงหวัง เจ้าหน้าที่ รปภ. นะ”

แม่จูมองลอดช่องประตูออกไป เมื่อแน่ใจว่าเป็นลุงหวัง ก็รีบเปิดประตู

“พี่จู คุณอยู่บ้านหรือ” เดิมทีลุงหวังเตรียมจะใช้วิทยุสื่อสารตามคนมา แต่เมื่อเห็นแม่จู จึงลดวิทยุสื่อสารลง “ตกใจหมดเลย ผมคิดว่าพวกคุณจะเกิดเรื่องขึ้น”

“เกิดเรื่องขึ้นแล้วค่ะ เมื่อกี้นี้...”

“เมื่อกี้นี้มีหัวขโมยบุกเข้ามาขโมยของค่ะ แต่ถูกพวกเราช่วยกันไล่หนีไปแล้ว”

เฟิงเชียนเสวี่ยขัดจังหวะคำพูดของแม่จู เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาวุ่นวาย เธอไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องชิป

“หา? แล้วแจ้งความหรือยัง” ลุงหวังถามด้วยความเป็นกังวล

“ฉันต้องสำรวจดูก่อนค่ะว่ามีอะไรหายไปบ้างไหมแล้วค่อยตัดสินใจแจ้งความค่ะ” เฟิงเชียนเสวี่ยยิ้มพลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ลุงหวังคะ ส่วนกลางสามารถซ่อมประตูได้ไหมคะ”

“ประตูนี้ดูท่าจะต้องเปลี่ยนบานใหม่” ลุงหวังตรวจสอบประตูที่เสียหาย “ทางส่วนกลางมีประตูบานใหม่อยู่ ราคาสี่พันแปดร้อย รวมกลอนแล้ว!”

“สี่พันแปดร้อย?” เฟิงเชียนเสวี่ยรู้สึกปวดขมับขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าต้องจ่ายมากขนาดนี้

“เปลี่ยนไหมครับ” ลุงหวังถาม “ผมลดให้สิบเปอร์เซ็นต์”

“ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ!” แม่จูต่อราคา “เพื่อนบ้านกัน ช่วยกันหน่อยนะคะ”

ลุงหวังเห็นมีหั่นผักในมือเธอก็กลัวจนตัวสั่น “ก็ได้ ยี่สิบก็ยี่สิบ”

“รีบเลยค่ะ ตอนนี้ให้คนรีบมาเปลี่ยนได้เลยค่ะ ไม่อย่างนั้นคืนนี้พวกเราคงไม่ต้องนอนกันพอดี” แม่จูเร่งรัด

“ได้ครับ” ลุงหวังใช้วิทยุสื่อสารเรียกเพื่อนร่วมงานมาช่วยกันเปลี่ยนประตู

แม่จูคอยคุมงานอยู่ข้างๆ

เฟิงเชียนเสวี่ยอุ่นอาหารเย็นง่ายๆ ให้เด็กๆ ทั้งสาม จากนั้นก็จัดแจงให้พวกล้างหน้าแปรงฟันและเข้านอน

เมื่อเสร็จธุระแล้ว เฟิงเชียนเสวี่ยนั่งจับโทรศัพท์มือถืออยู่บนโซฟาพลางคิดพิจารณา สรุปแล้วเธอควรจะแจ้งตำรวจไหม?

หากแจ้งตำรวจ พวกตำรวจก็ต้องสอบปากคำอย่างละเอียด เช่นนั้นเจ้าปีศาจเยี่ยก็จะรู้ว่าเด็กน้อยที่ได้รับชิปมาโดยบังเอิญคือลูกของเธอ

ถึงตอนนั้น เขาจะคิดว่าเธอตั้งใจยุให้ลูกขโมยชิปไปหรือไม่?

เกรงว่า ไม่เพียงแค่เธอจะตกงาน แล้วยังต้องโดนข้อหาลักทรัพย์อีกด้วย

เจ้าปีศาจเยี่ยขี้โมโหจะตาย อารมณ์ก็ขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ หากเธอถูกคาดโทษแล้ว เธอก็ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร

นอกจากนี้ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ตัวตนของเด็กทั้งสามก็จะถูกเปิดเผย โฮสหนุ่มนั่นจะมาเอาเด็กๆ ไปจากเธอหรือไม่?

เมื่อคิดถึงปัญหาเหล่านี้ เฟิงเชียนเสวี่ยถอนนิ้วออกจากโทรศัพท์ แล้วกดออกจากหน้าจอโทรออก...

แต่วกกลับมาคิดอีกที หากไม่แจ้งตำรวจ แล้วชายชุดดำคนนั้นย้อนกลับมาอีก จะทำอย่างไร?

ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง แต่หากมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีก ทุกคนคงจะรับไม่ไหวเป็นแน่

“ในที่สุดประตูก็ติดตั้งเสร็จเสียที แค่เปลี่ยนประตูบานหนึ่งได้ไปสี่พันกว่า รายได้ดีจริงๆ น่าจะต่อราคาพวกเขามากกว่านี้อีกสักหน่อย”

แม่จูปิดประตูลง เธอเปิดโทรทัศน์แล้วหรี่เสียงลง เธอเคยชินกับการทำความสะอาดและดูโทรทัศน์ไปด้วยพร้อมๆ กัน

โทรทัศน์กำลังถ่ายทอดข่าวภาคดึก...

“ข่าวล่าสุด วันนี้เวลาตีสองครึ่งเกิดเหตุยิงกันที่ชายฝั่งหนานเจวี๋ย

“คนร้ายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีลักทรัพย์ ซึ่งต้องสงสัยว่าขโมยชิปบรรจุข้อมูลเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เป็นงานวิจัยล่าสุดของกลุ่มบริษัทเซิ่งเทียน ซึ่งในขณะนี้ได้ถูกตำรวจจับกุมตัวไปดำเนินคดีแล้ว”

“แต่ก่อนที่ผู้กระทำผิดจะถูกจับกุม ได้ทำชิปตกลงไปในทะเล ขณะนี้กลุ่มบริษัทเซิ่งเทียนและตำรวจกำลังร่วมกันค้นหาชิป...”

เมื่อได้ยินข่าวนี้ แม่จูรีบปรี่เข้ามาพร้อมไม้กวาด

เฟิงเชียนเสวี่ยก็เบิกตากว้าง เปิดเสียงให้ดังขึ้น และเพ่งไปที่โทรทัศน์อย่างตั้งใจ

ในจอภาพ มีชายชุดดำหนึ่งคนถูกตำรวจจับกุมและส่งตัวขึ้นรถ

ก่อนที่ประตูรถจะปิด ชายชุดดำแสยะยิ้มชั่วร้ายพลางพูดด้วยเสียงเบา “ค่อยๆ งมไปเถอะ ถ้างมเจอ ก็ถือว่าฉันแพ้แล้วกัน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก