“คนที่ตายคือเเก!” เยี่ยเจิ้นถิงเย็นชาเเละหยิ่งผยอง ราวกับพระเจ้าที่ควบคุมชีวิตความตาย
“คุณ คุณพูดอะไร……”
แม้ว่าเยี่ยเจิ้นถิงไม่ได้ทำอะไร แต่เฮ้อเหวินเจ๋อก็ตื่นตระหนกเเล้ว มือที่ถือมีดสั่นเทา
เมื่อเยี่ยเจิ้นถิงหรี่ตา เเววสังหารก็ปรากฏออกมา
เฮ้อเหวินเจ๋อไม่ทันโต้ตอบ จู่ๆก็มีมือหนึ่งคว้ามีดของเขาราวกับสายฟ้า
เขายังอยากขัดขืน ข้อมือของเขาก็โดนกุมไว้ทันที
“กร๊อบ”เสียงกระดูกหักดังขึ้น ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังก้องทะลุฟ้า….
‘กล้าขู่ประธานเยี่ย ช่างกล้ามากนะ!”
เยี่ยฮุยตะโกนอย่างเดือดจัด ลากเฮ้อเหวินเจ๋อลงไป เหมือนกับลากสุนัขป่าที่กำลังจะตาย……
ดวงตาของเฟิงเชียนเสวี่ยมืดลง ล้มตัวลงอย่างช้าๆ
เเขนที่เเข็งเเรงเเละทรงพลังคู่หนึ่งรองรับเธอได้ทันเวลา สายตาที่พร่ามัว เธอเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาเเละโกรธของเยี่ยเจิ้นถิง……
“เรียกหมอ!”
“ครับ”
.......
จำไม่ได้ว่าหลับไปนานเเค่ไหน เฟิงเชียนเสวี่ยตื่นมาด้วยความมึนงง พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่เเข็งเล็กน้อย การจัดห้องเป็นโทนสีเย็นทั้งหมด
โคมระย้าบนเพดานสลักสัญลักษณ์คำว่าSสีทอง นี่เป็นสัญลักษณ์ของเยี่ยเจิ้นถิง!
หรือว่า เธออยู่ในห้องของเขา
เฟิงเชียนเสวี่ยพยุงร่างกายที่อ่อนเเอขึ้นมานั่ง พบว่าเสื้อผ้าบนตัวถูกเปลี่ยนออกไป สวมใส่ชุดนอนสีขาว ที่ข้างในไม่ได้สวมใส่อะไร……
ในสมองมีเสียงก้องดัง ใกล้ระเบิดเต็มที
เเย่เเล้ว เเล้วชิปล่ะ
หรือว่าโดนเยี่ยเจิ้นถิงค้นพบเเล้ว
คุณตื่นเเล้ว?
เสียงอันอ่อนโยนลอยมา ขัดจังหวะความคิดของเฟิงเชียนเสวี่ย
เฟิงเชียนเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมอง หมอผู้หญิงเข็นรถพยาบาลเดินเข้ามา วัดไข้ ตรวจบาดเเผล:“ยังดี ไม่อักเสบ เเต่ว่าบาดเเผลลึกมาก ไม่ควรประมาท ควรสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง”
“คุณคือ……” เฟิงเชียนเสวี่ยมองเธออย่างมึนงง
“ฉันเป็นเเพทย์ประจำตระกูลเย่ค่ะ ฉันชื่อเหลยอวี่” หมอหญิงยิ้มเเล้วมองเธอ “คุณชายเยี่ยให้ฉันมาดูเเลคุณค่ะ ในเวลานี้ ฉันจะเป็นผู้รับผิดชอบดูเเลอาการบาดเจ็บของคุณนะคะ”
“เอ่อ…….” เฟิงเชียนเสวี่ยตะลึงงัน เป็นเวลานานเท่าไรเเล้วนะที่ไม่ได้รู้สึกถึงท่าทีที่ให้เกียรติเช่นนี้ ในภวังค์เธอคิดว่าเธอได้กลับไปในอดีต เเล้วกลับกลายเป็นสตรีผู้มั่งคั่งคนนั้น
ในเวลานั้น ตระกูลเฟิงก็มีเเพทย์ประจำตระกูล ยามเธอเจ็บป่วย ก็จะมีคนดูเเลเธอเเบบนี้
เเต่ทว่า เมื่อเฟิงเชียนเสวี่ยเห็นเครื่องเเบบรักษาความปลอดภัยที่พับไว้อย่างเรียบร้อย ความคิดที่ล่องลอยไปก็ถูกดึงกลับมาทันที
“ฉันเป็นเเค่พนักงานรักษาความปลอดภัย!”
เฟิงเชียนเสวี่ยคิดอยากลงจากเตียง ทันใดนั้นก็รู้สึกปวดที่คอ ปวดจนต้องถอนหายใจ ตอนนี้ถึงรู้ว่าคอของตัวเองถูกพันไว้เเน่น เเละยังมีเฝือกคอ
ไหล่ข้างซ้ายก็ถูกพันไว้เเน่น ตอนนี้ขยับอะไรก็ไม่ได้
“อย่าขยับค่ะ”เหลยอวี่รีบมาพยุงเธอให้เอนนอนลง “ถึงเเม้อาการบาดเจ็บที่คอจะไม่ถึงหลอดเลือด เเต่บาดเเผลก็ยังลึกมาก ต้องระมัดระวังนะคะ”
“เสื้อผ้าของชั้น…….” เฟิงเชียนเสวี่ยเอื้อมมือไปหยิบเครื่องเเบบรักษาความปลอดภัย
“ฉันให้คนเอาเสื้อผ้าของคุณไปซักให้สะอาดเเล้วค่ะ”เหลยอวี่วางเสื้อผ้าไว้จ้างหมอนของเธอ นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าเอกสารใส “โทรศัพท์ของคุณเเละของใช้ในกระเป๋าก็อยู่ตรงนี้ทั้งหมดค่ะ คุณดูซิคะ มีของอะไรหายบ้างมั้ยคะ”
เฟิงเชียนเสวี่ยมองปราดเดียวก็เห็นกล่องเล็กๆสีดำใบนั้น เธอรีบหยิบกระเป๋าเเล้วกำไว้เเน่นในมือ กระวนกระวายถาม:“พวกคุณ……มีเปิดของของฉันมั้ย”
“ไม่มีเเน่นอนค่ะ”เหลยอวี่หัวเราะพลาง “คุณเป็นเเขกผู้มีเกียรติ พวกเราจะละเมิดความเป็นส่วนตัวของคุณได้ยังไงคะ”
“งั้นเจ้าปีศาจเยี่ย……...ประธานเยี่ย มีเปิด……”
เฟิงเชียนlวี่ยในใจรู้สึกไม่สบายใจ ถ้าหากเยี่ยเจิ้นถิงเห็นชิบ จะต้องเข้าใจเธอผิดเเน่ๆว่าเธอเป็นเเก๊งเดียวกันกับพวกนักเลงที่ขโมยชิบไป งั้นเธอก็เสร็จหน่ะสิ
“คุณชายเยี่ยพาคุณมาส่งเเล้วก็ไปเลยค่ะ” ตอนเหลยอวี่พูดถึงเยี่ยเจิ้นถิง น้ำเสียงยิ่งมีความเคารพเกรงกลัว “เขาบอกว่าเขาจะมาคืนนี้ค่ะ”
“โอ้……” เฟิงเชียนเสวี่ยถอนหายใจ ขณะนั้นข้างนอกมีเสียงฝีเท้า เเละยังมีเสียงคนรับใช้ทักทายด้วยน้ำเสียงเคารพ “คุณชายเยี่ย คุณชายกลับมาเเล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก