“เธอ…เธอจะทำอะไร” ไป๋ชิวอวี่กลัวจนตัวสั่น ค่อยๆ เดินถอยหลัง
“วางใจเถอะ ถึงฉันอยากจะฆ่าคุณก็ไม่ลงมือที่นี่หรอก……” เฟิงเชียนเสวี่ยใช้มีดกดไป๋ชิวอวี่ไว้กับผนัง เามอง พูดเสียงเย็นเฉียบ “ฉันเเค่อยากบอกคุณว่าฉันไม่กลัวตาย แต่อย่าให้ฉันต้องเหลืออดถ้าฉันทนไม่ได้ฉันทำได้ทุกอย่าง!”
พูดเสร็จเธอก็เอามีดปอกผลไม้เเทงไปยังไป๋ชิวอวี่……
“โอ๊ยยย!”
ไป๋ชิวอวี่กรีดร้องเสียงดัง
เเต่ว่ามีดไม่ได้เเทงไปที่คน มันเเทงไปที่ประตูไม้ด้านหลังเธอ
เเต่ไป๋ชิวอวี่คงกลัวไม่น้อย ถือบัตรธนาคารเเล้วรีบเผ่นเเน่บ…
เฟิงเชียนเสวี่ยมองตามหลังเธอไป พลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก หันตัวกลับเตรียมเข้าบ้าน เเต่เห็นเเม่จูมายืนที่หน้าประตู มองเธอน้ำตาไหลคลอเบ้า “ลำบากคุณหนูเเล้วนะคะ”
เเม่จูปวดร้าวใจ เมื่อก่อนเฟิงเชียนเสวี่ยเป็นคุณหนู ตั้งเเต่เด็กจนโตไม่เคยแม้ต้องหยิบของหนัก ตอนนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกๆ กลับต้องมาหยิบมีดปอกผลไม้มาขู่คน
“เเม่จู เป็นอะไรไป”
แต่เฟิงเชียนเสวี่ยไม่ได้ใส่ใจ เธอรู้เเค่ว่าเป้าหมายในชีวิตของเธอคือการได้อยู่กับเเม่จูเเละลูกๆ อย่างมีความสุข ไม่มีใครสามารถทำลายความสวยงามนี้ได้
“หม่ามี้ หม่ามี้……” ซื่อเป่าน้อยกระพือปีกบินออกมา “กินข้าวเเล้ว กินข้าวเเล้ว”
“ฮ่าๆ ซื่อเป่าน้อยหิวเเล้ว พวกเราเข้าไปกันเถอะ” เฟิงเชียนเสวี่ยใช้เเขนซ้ายโอบเเม่จู พูดติดตลกว่า “เเม่จูของบ้านเรากลายเป็นเด็กไปเเล้ว นิดๆ หน่อยๆ ก็ร้องไห้น้ำมูกไหล”
“ฉันปวดใจเเทนคุณเหลือเกิน”
เเม่จูสูดจมูกฟืดฟาด ปาดน้ำตาทิ้ง ไม่ให้เด็กๆเห็น
“คุณยาย หม่ามี้ อาหารเย็นพร้อมเเล้ว”
เด็กๆ ทั้งสามคนช่วยกันยกอาหารออกมาเสริฟ
ทั้งครอบครัวรับประทานอาหารกันอย่างมีความสุข
เฟิงเชียนเสวี่ยเพิ่งจะยกตะเกียบขึ้น จู่ๆโทรศัพท์ก็ได้รับเงินโอนมาโฮสต์หนุ่มลูกหนี้โอนมาแปดหมื่นหยวน
เฟิงเชียนเสวี่ยดีใจมาก รีบส่งข้อความไป “ทำไมเงินมากขนาดนี้”
“รับงานใหญ่มาสองสามงาน” โฮสต์หนุ่มลูกหนี้ตอบกลับ
“ว้าว ยอดไปเลย ยังคิดว่าช่วงนี้นายจะขี้เกียจอีกซะอีก”
“อยากเป็นโฮสต์หนุ่มที่มีอนาคตน่ะ!”
“ฮ่าๆๆ คิดได้ดี พัฒนาการ!”
“ธุรกิจฉันดี เธอก็มีความสุขมากใช่ไม๊”
“เเน่นอนล่ะ อย่างนี้ฉันก็ได้ส่วนเเบ่งเยอะขึ้น สู้ๆต่อไปนะ!”
ส่งข้อความนี้ไป อีกฝ่ายไม่ได้ตอบกลับมา
“หม่ามี้ กินปีกไก่”
เย่ว์เย่ว์น้อยคีบปีกไก่ชิ้นนึงด้วยมือเล็กอ้วนอูมให้เฟิงเชียนเสวี่ย
“ขอบใจนะลูก ซานเป่า”
เฟิงเชียนเสวี่ยวางโทรศัพท์ลง ตั้งใจกินข้าวกับลูกๆ
แต่ในสมองกลับคิดวน ตอนนี้ไป๋ชิวอวี่กับไป๋ลู่แพร่ข่าวเกี่ยวกับลูกสามคนของเธอไปทั่ว คงรอเเทบไม่ไหวที่จะประกาศให้โลกรู้
เกรงว่าอีกไม่นานคงเเพร่กระจายไป ถึงตอนนั้นโฮสต์หนุ่มลูกหนี้ก็คงรู้…
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฟิงเชียนเสวี่ยรู้สึกไม่สบายใจ เธอตัดสินใจว่ารอให้อาการบาดเจ็บหายดี ค่อยนัดโฮสต์หนุ่มลูกหนี้มาเจอแล้ว ตัดขาดความสัมพันธ์กับเขา แล้วก็ไม่ต้องติดต่อกันอีก
แล้วยังมีเยี่ยเจิ้นถิง ต้องรีบหาวิธีเอาชิปไปคืนเขา ขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจน
……
พริบตาเดียวก็ถึงวันที่สอง บ่ายสองห้าสิบ เหลยอวี่โทรศัพท์มา “คุณหนูเฟิง พวกเรารอคุณที่เดิมเมื่อวานนะคะ”
“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
เฟิงเชียนเสวี่ยบอกกล่าวเเม่จู สวมชุดลำลองเเล้วลงบันไดไป
วันนี้เหลยอวี่เอารถโรลส์-รอยซ์เพิ่มตอนมารับเฟิงเชียนเสวี่ย ทั้งถนนตกตะลึง ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างจ้องมองไปที่รถ
เฟิงเชียนเสวี่ยใช้มือปิดหน้ากลัวคนจะจำได้
“คุณหนูเฟิง ทางนี้ค่ะ”
เหลยอวี่เปิดประตูรถ พาเฟิงเชียนเสวี่ยขึ้นรถอย่างนอบน้อม
เฟิงเชียนเสวี่ยเมื่อขึ้นรถเเล้วก็อดถามไม่ได้ “คุณหมอเหลย วันนี้ทำไมเอารถคันนี้มารับฉัน?”
“คุณชายเยี่ยสั่ง พวกเราเเค่ทำตามค่ะ” เหลยอวี่อธิบายยิ้มๆ
“เอาเถอะ” เฟิงเชียนเสวี่ยไม่พูดมากความ “ออกรถเถอะ”
รถค่อยๆเคลื่อนออกไป
ถนนฝั่งตรงข้าม เด็กน้อยสามคนเพิ่งลงจากรถโรงเรียน ตากลมโตเหมือนลูกองุ่นจ้องไปที่รถโรลส์เพิ่มตอนอย่างไม่กระพริบ
ขนตายาวๆของเย่ว์เย่ว์กระพริบ สงสัยว่าตัวเองตาฝาดไปรึป่าว “เมื่อกี้ที่ขึ้นรถไปคือหม่ามี้ใช่ไหม”
“เหมือนจะใช่” หลงหลงบีบคาง ทำเหมือนเป็นผู้ใหญ่พยักหน้า “หม่ามี้ยังใส่ชุดลำลองสีเทาลดราคาชุดนั้นที่ซื้อไว้”
“ยังมีรองเท้าสีขาว” เฉินเฉินเสริมอีกประโยคเเล้วทำท่าเป็นพี่ใหญ่สอน “นี่ไม่สำคัญ ทุกคนย่อมมีชีวิตของตัวเอง พวกเราต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของหม่ามี้”
“อื่ออื่อ”
“วันนี้โรงเรียนอนุบาลจัดงานฉลอง เลิกเรียนเร็ว สงสัยคุณยายคงลืม พวกเรากลับบ้านกันเองเถอะ”
“กลับบ้านกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก