ระหว่างทางทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันเลยจนกระทั่งรถหยุด……
เฟิงเชียนเสวี่ยมองออกไปนอกหน้าต่างมองไปที่อาคารหรูเห็นรถยนต์หรูหราด้านนอกจอดเรียงรายจนเต็มถึงเพิ่งรู้ว่างานเลี้ยงนี้ใหญ่โตขนาดไหนรีบร้อนถาม: “นี่งานเลี้ยงอะไร”
“งานเลี้ยงประมูลการกุศลธรรมดางานหนึ่ง” เยี่ยเจิ้นถิงตอบเบาๆ “ไม่ต้องกังวลตามอยู่ข้างๆ ผมก็พอ”
“คุณเลือกฉันทำไม?” เฟิงเชียนเสวี่ยถามด้วยความสงสัย “ฉันเป็นเเค่ยามเล็กๆคนหนึ่งไม่มีความชำนาญพิเศษอะไร……”
“พูดไร้สาระเยอะจริง!” เยี่ยเจิ้นถิงพูดตัดบทคำพูดของเธอลุกขึ้นลงจากกรถ
เฟิงเชียนเสวี่ยทำปากมุ่ยไม่พอใจเดินตามไปด้านหลังไป ทว่าเกือบเท้าพลิกยังดีที่เหลยอวี่ประคองเธอทัน
“ประธานเยี่ยเเขกผู้มีเกียรติมากันพร้อมเเล้ว!” ชายวัยกลางคนในชุดสูทเเละรองเท้าหนังพร้อมกับผู้ติดตามออกมาต้อนรับ เมื่อเห็นเฟิงเชียนเสวี่ยก็รีบโค้งคำนับทักทาย,“สวัสดีครับ!”
“สวัสดีค่ะ” เฟิงเชียนเสวี่ยตอบกลับอย่างสุภาพ เธอประหลาดใจคนข้างกายของเยี่ยเจิ้นถิงล้วนเคารพเธอ
เยี่ยเจิ้นถิงก้าวเข้าไปในอาคาร
เฟิงเชียนเสวี่ยใส่รองเท้าส้นสูงเดินตามไปข้างหลังช้าๆสายตาโดนรถเบนท์ลีย์สีขาวที่อยู่ไกลๆดึงดูด
นั่นคือรถของซือเฮ่าซวนเขาก็มา!
เดินอีกไม่กี่ก้าวเธอก็เห็นปอรเช่ซึ่งเป็นรถของเฟิงซื่อหยวน
เฟิงเชียนเสวี่ยขมวดคิ้วคืนนี้ครึกครื้นเสียจริงงานเลี้ยงขอิเค่มีเฟิงซื่อหยวน ไป๋ชิวอวี่ก็ต้องอยู่เเน่นอน
เเย่ล่ะ ไป๋ชิวอวี่คงไม่เปิดเผยเรื่องที่เธอมีลูกต่อหน้าเยี่ยเจิ้นถิงหรอกนะ?
ถ้าหากเอะอะโวยวายกันที่นี่ไม่เท่ากับทำให้เยี่ยเจิ้นถิงอับอายขายหน้าเหรอ?
งั้นเธอต้องเดือดร้อนเเน่……
เฟิงเชียนเสวี่ยกำลังคิดบ้าๆบอๆ จู่ๆก็ชนกับอะไรหนักๆอย่างหนึ่ง
เธอตกใจปิดหน้าผากเเล้วเงยหน้ามอง ที่เเท้เยี่ยเจิ้นถิงหยุดฝีเท้าเพื่อรอเธอ เเต่เธอกลับใจลอยเดินไปชนอกที่เเข็งเเกร่งของเขา
“มองซ้ายมองขวาทำไม” เยี่ยเจิ้นถิงพูดเสียงต่ำๆในคืนอันเงียบสงบเหมือนมีเเม่เหล็กดึงดูด
“ไม่ ไม่มีอะไร……”เฟิงเชียนเสวี่ยตื่นตกใจเล็กน้อย “ฉันฉันรู้สึกไม่สบายกระทันหันหรือฉันกลับก่อนดีกว่า……”
ก่อนที่เธอจะพูดจบมือของเธอก็โดนเยี่ยเจิ้นถิงจูงเเละลากเธอเดินไปข้างหน้า
เธอขัดขืนเล็กน้อยเเต่สลัดไม่พ้นได้เเต่ปล่อยให้เขาจูงมือไป
สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่เเผดเผาในฝ่ามือหัวใจของเธออดไม่ได้ที่จะเต้นเร็วขึ้นใบหน้าเเดงก่ำ
ขาเขายาวฝีเท้าเร็วมากเธอจึงต้องวิ่งเพื่อให้ทันเขาเมื่อเขาเดินช้าลงเพื่อรอเธอถึงชะลอเท้าลงได้……
เเสงจันทร์ทำให้เห็นเงาของทั้งสองคนบนพื้นดิน ขี้เล่นเเละโรเเมนติก!
มาถึงห้องโถงประตูบานใหญ่สีเเชมเปญก็เปิดออก เพลงวอลทซ์เเสนโรเเมนติกเเละไพเราะก็ลอยมา
เเสงสีหลากหลายของเเสงไฟทำให้เฟิงเชียนเสวี่ยลืมตาเเทบไม่ขึ้น เธอหลับตาลงไม่รู้ตัว ข้างหูได้ยินเสียงปรบมือ
เยี่ยเจิ้นถิงจับมือของเฟิงเชียนเสวี่ยซุกเข้าไปในอ้อมเเขนของเขา จับมือเธอเดินไปข้างหน้า
เฟิงเชียนเสวี่ยพอปรับตัวให้คุ้นเคยกับเเสงไฟเเล้วก็ค่อยๆลืมตาขึ้นเห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นสายตาที่เคารพนับถือ
ทั้งหมดนี้ดูเหมือนเป็นนิรันดร์
เฟิงเชียนเสวี่ยดูเหมือนจะย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน สมัยที่บิดาของเธอยังมีชีวิตอยู่ทุกครั้งที่ครอบครัวจัดงานเลี้ยงก็เป็นภาพที่เจริญรุ่งโรจน์เเบบนี้เหมือนกัน
สี่ปีมานี้เธอตกลงมาจากสวรรค์ทนทุกข์ทรมานบนโลกมนุษย์ได้รู้ถึงความหนาวเเละอบอุ่น เธอคิดว่าคงไม่มีวันได้กลับไปเหมือนอย่างเช่นวันวานเเล้ว……
เเต่มาตอนนี้ผู้ชายข้างๆคนนี้กลับนำความรุ่งโรจน์สูงสุดมาให้เธอ!
“ฉันไม่ได้ดูผิดไปใช่ใหม ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆประธานเยี่ยไม่ใช่เฟิงเชียนเสวี่ยหรอกหรือ”ท่ามกลางผู้คนไป๋ชิวอวี่ขยี้ตากระซิบถามไป๋ลู่ “หรือว่าฉันตาลาย?”
“ฉันก็สงสัยว่าหนูตาลาย” ไป๋ลู่โน้มตัวไปข้างหน้าดูให้ชัดๆ จริงอย่างที่เห็นคนที่คล้องเเขนเยี่ยเจิ้นถิงเข้ามาก็คือเฟิงเชียนเสวี่ย เธอหน้าถอดสี “เเม่ เป็นเธอ นังสำส่อน……”
“ชู่~”ไป๋ชิวอวี่รีบปิดปากไป๋ลู่ “วันนี้ห้ามพูดเหลวไหลเด็ดขาด ถ้าคนอื่นได้ยินจะเดือดร้อนเเน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก