เฟิงซื่อหยวนเห็นเฟิงเชียนเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะตกใจรีบถามซือเฮ่าซวนที่อยู่ข้างๆ: “เฮ่าเซวียน นี่ นี่มันเรื่องอะไรกันทำไมเชียนเสวี่ยมากับประธานเยี่ย”
ซือเฮ่าเซวียนฟังไมรู้เรื่องว่าเขาพูดอะไรตามองไปที่เฟิงเชียนเสวี่ยมีเเสงกระพริบเปล่งประกายซับซ้อน
มันคือความเจ็บปวดใจ เสียใจ เศร้าใจที่สูญเสีย
“เฮ่าเซวียน……” ไป๋ชิวอวี้ดึงไป๋ลู่มาใกล้ๆพูดกระซิบ “ฉันกับลู่ลู่ขอกลับก่อน”
“ดี” ซือเฮ่าเซวียนก็เห็นด้วย
“ทุกท่านโปรดเงียบ!” พิธีกรประกาศบนเวที “ เจ้าภาพจัดงานของเราประธานเยี่ยได้มาถึงงานเเล้ว ขณะนี้ขอประกาศงานเลี้ยงประมูลการกุศลเริ่มขึ้นเเล้วอย่างเป็นทางการเชิญทุกท่านนั่ง!”
เเขกเหรื่อนั่งอย่างเป็นระเบียบ
ซือเฮ่าเซวียนกับเฟิงซื่อหยวนก็เตรียมนั่ง ไป๋ชิวอวี่ลากไป๋ลู่โค้งตัวจะวิ่งไปที่ประตูใหญ่ในเวลานั้นเองประตูใหญ่ก็ปิดลงทันที
สปอตไลท์ส่องมาที่ทั้งสองคน
สองคนจึงเหมือนเเมวขโมยเขินอายทำตัวไม่ถูก
เเขกทั้งหมดจ้องไปที่พวกเธอสายตามองด้วยความรังเกียจยังมีคนกระซิบถาม: “นี่มันบ้านใครละเนี่ย?ทำไมไม่รู้จักมารยาท?”
“ดูเเวบเเรกก็รู้ว่าไม่เคยออกมาดูโลก ถ้าอย่างนั้นก็อย่าพามาซิ ช่างน่าอับอาย”
“นั่นซิ!”
……
ซือเฮ่าเซวียนยกมือขึ้นปิดหน้าไม่อยากให้ใครรู้ว่านี่เป็นครอบครัวเขา
เฟิงซื่อหยวนยิ้มให้ทุกคนอย่างเคอะเขินรีบวิ่งไปเรียกทั้งคู่: “ยังจะตะลึงอีกรีบกลับที่นั่งซิ”
“รู้งี้ไม่มาหรอก” ไป๋ลู่พึมพำอย่างโกรธเคือง
“ไม่ต้องพูดเเล้วยังขายหน้าไม่พออีกเหรอไง?” ไป๋ชิวอวี่ผ่านมรสุมมามากเธอไม่ใส่ใจหรอกยกมือขึ้นขอโทษทุกคน “ขอโทษขอโทษ ลูกไม่สบาย เดิมทีจะออกไปเงียบๆไม่รบกวนความสุขของทุกคน คิดไม่ถึงว่างานเลี้ยงกำลังจะเริ่มพอดี”
“คุณผู้หญิง พวกเรามีห้องรับรองอยู่ด้านนี้” พนักงานเสิร์ฟเตือนเบาๆ
“ตอนนี้ไม่เป็นไรเเล้ว ไม่เป็นไรเเล้ว คริคริ ขอบคุณ”
ไป๋ชิวอวี่ลากไป๋ลุ่กลับไปที่นั่งของพวกเขา
ไป๋ลู่เห็นว่าซือเฮ่าเซวียนเอาเเต่มองไปที่เฟิงเชียนเสวี่ยที่นั่งอยู่เเถวหน้าไม่สนใจสถานการ์ณของเธอเลยสักนิด ยิ่งกว่านั้นความไม่พอใจสะสมมานานต้องการจะระเบิดอารมณ์ก็โดนไป๋ชิวอวี่รั้งไว้
“คืนนี้ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอจะต้องข่มอารมณ์ไว้ ไม่อย่างนั้นคนเสียหน้าไม่ใช่เเค่เรา เเต่เป็นตระกูลไป๋กับตระกูลซือ ดีไม่ดีเฮ่าเซวียนจะพาลเกลียดเธออีกด้วย วันหลังไม่พาเธอออกมาด้วยละ”
“ฉันไม่ยอม” ไป๋ลู่กัดฟันด้วยความโกรธ “เฟิงเชียนเสวี่ยก็เเค่เกาะผู้ชาย มีอะไรดี……”
“ใจเย็นๆ ยังไม่มีอะไรเธอก็โกรธจนกระหืดกระหอบ “ไป๋ชิวอวี่พูดเสียงต่ำ “คนที่อยู่เหนือคนอื่นอย่างประธานเยี่ยจะเอาของมือสองที่เคยให้กำเนิดลูกสามคนมาทำไม?อย่างมากก็เเค่พามางานเลี้ยง ไม่เห็นมีอะไร”
“พูดไปก็ใช่” ไป๋ลู่ตาเปล่งเป็นประกายขึ้นในทันที “ประธานเยี่ยต้องไม่รู้รายละเอียดของเธอเเน่นอน ฉันต้องไปบอก…”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ไป๋ชิวอวี่รีบดึงเเขนเขาไว้ “ทำไมฉันถึงได้คลอดลูกที่โง่เง่าขนาดนี่สมองไม่มีสักนิด”
“ทำไมล่ะ” ไป๋ลู่ไม่เต็มใจ
“เหลวไหล” ไป๋ชิวอวี่ขมวดคิ้ว “เรื่องเเบบนี้ต้องให้พวกเราไปพูดเองเหรอ?พวกเราพูดเเล้ว ภาพพจน์ที่ประธานเยี่ยมองเราก็ติดลบหน่ะซิ”
“งั้นทำยังไงดี?” ไป๋ลู่ถามด้วยความสงสัย
“วางใจเถอะ ฉันมีวิธี”
ไป๋ชิวอวี่มองไปข้างๆผู้ชายสองคน คนหนึ่งเป็นสามีเเละคนหนึ่งเป็นลูกเขย ทั้งคู่ให้ความสนใจไปที่เฟิงเชียนเสวี่ยไม่สนใจพวกเธอสักนิด
ไป๋ชิวอวี่ดูเเล้วก็โมโห เเต่เธอรู้ว่าเรื่องเล็กน้อยถ้าไม่อดทนจะทำให้เสียการใหญ่
“ใจเย็นดูการประมูลไปก่อนรอสบโอกาสค่อยลงมือ”
ไป๋ชิวอวี่จ้องไปที่ด้านหลังของเฟิงเชียนเสวี่ยรอยยิ้มเยือกเย็นชั่วร้ายปรากฎที่มุมปากมุมปาก
“เชียนเสวี่ยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานเยี่ยตั้งเเต่เมื่อไร?” เฟิงซื่อหยวนถามซือเฮ่าเซวียนอีกครั้ง
“เธอทำงานที่เซิ่งเทียนเป็นพนักงานของประธานเยี่ย” ซือเฮ่าเซวียนยอมละสายตาในที่สุด เเต่กลับไม่สบายใจ “ฉันไปห้องน้ำหน่อย”
เขาลุกขึ้นกลัดกระดุมสูทเตือนไป๋ลู่ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “อย่าก่อเรื่อง!”
จากนั้นก็จากไป……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก