“ที่นี่เป็นห้องน้ำผู้หญิง สามีของคุณจะอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เหลยอวี่ถามอย่างสุภาพ
“ในเมื่อเป็นห้องน้ำหญิงทำไมไม่ให้พวกเราเข้าไป?” ไป๋ลู่ถามกลับ
“คุณหนูเฟิงได้รับบาดเจ็บให้รบกวนไม่ได้รอเธอออกมาก่อน พวกคุณถึงสามารถเข้าไปได้”
เหลยอวี่ไม่อยากให้สองคนนี้เข้าไปรังเเกเฟิงเชียนเสวี่ย ดังนั้นจึงรั้งสองคนไว้ข้างนอก
“ลู่ลู่ พวกเรากลับก่อน วันนี้จะสร้างปัญหาที่นี่ไม่ได้……”
ไป๋ชิวอวี่เกลี้ยกล่อมเสียงต่ำเสียดายไป๋ลู่ฟังไม่เข้าหูพอได้ยินว่าเฟิงเชียนเสวี่ยอยู่ข้างในยิ่งกว่านั้น……
“ฉันรู้ว่ายัยสำส่อนเฟิงเชียนเสวี่ยล่อลวงสามีฉันมาอีกเเล้ว” ไป๋ลู่บุกเข้าไป “ฉลาดก็อย่ามาขวางทาง หลีกไป!”
“กรุณาให้เกียรติด้วย!” ในดวงตาของเหลยอวี่มีประกายเยือกเย็น
“เธอก็เป็นเเค่คนรับใช้คู่ควรพูดกับฉันเหรอ”
ไป๋ลู่กำเริบเสิบสานยื่นมือออกไปผลักเหลยอวี่
เหลยอวี่คว้าข้อมือของเธอไว้ทันเเล้วผลักเธอออกไป
ไป๋ลู่สะดุดเเละเกือบล้มลงบนพื้น
ไป๋ชิวอวี่รีบประคองไป๋ลู่
เเต่ไป๋ลู่ยังคงได้รับบาดเจ็บที่เท้าเจ็บจนหน้าซีดเผือกตะโกนอย่างโกรธเคือง: “ไอ้หมาเเกกล้าผลักฉัน เเกรู้ใช่มั้ย ผัวฉันเป็นใคร”
“ฉันจะสนใจทำไมสามีคุณคือใคร? คุณกำลังก่อกวน อย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจ” เหลยอวี่พูดเย็นๆ
“หมาที่ไหนเเถวนี้หยิ่งเหลือเกิ๊น!”
ไป๋ชิวอวี่เห็นลูกสาวได้รับบาดเจ็บอารมณ์เริ่มขึ้นบุกเข้าไปจะตีเหลยอวี่
เหลยอวี่หลับตาปี๋มีอันตารายเตรียมตัวลงมือ……
“หยุดนะ!” เสียงตะโกนโกรธ
สองเเม่ลูกตระกูลไป๋หยุด ซือเฮ่าเซวียนออกมาจากห้องน้ำชายขมวดคิ้วจ้องไปที่ไป๋ลู่:“เธอมาก่อกวนอะไรอีก”
“เฮ่าเซวียน คุณเเอบนัดกับเฟิงเชียนเสวี่ยใช่มั้ย……”
“อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้” ไป๋ชิวอวี่ขัดจังหวะคำพูดของไป๋ลู่ชี้ไปที่เหลยอวี่ “เฮ่าซวน เมื่อกี้คนนี้กล้าลงมือกับลู่ลู่!”
ซือเฮ่าเซวียนหันไปมองเหลยอวี่ไม่เพียงเเต่ไม่ตำหนิยังกัมศรีษะขอโทษ: “ ขออภัยคุณหมอเหลยคนในบ้านไม่รู้มารยาท”
สองเเม่ลูกตะลึงคิดไม่ถึงว่าซือเฮ่าเซวียนจะมีปฎิกิริยาเเบบนี้
“ประธานซือเกรงใจไปเเล้ว” เหลยอวี่ยิ้มๆ “ที่นี่เป็นที่สาธารณะอย่ามีเรื่องก่อกวนดีที่สุดถ้าทำให้ประธานเยี่ยไม่พอใจขึ้นมาจะลำบาก”
“ใช่เเล้ว” ซือเฮ่าเซวียนพยักหน้า
“เฮ่าเซวียนทำไมคุณ……”
“หุบปาก” ซือเฮ่าเซวียนขัดจังหวะพูดของไป๋ลู่กดพูดด้วยเสียงต่ำ “ คุณรู้อยู่ว่านี่เป็นคนของประธานเยี่ยยังกล้าหาเรื่อง”
“เป็นเเค่คนรับใช้……” ไป๋ลู่รู้สึกตัวเองโดนลบหลู่ โมโหจนน้ำตาไหล “หรือเเม้เเต่คนรับใช้ของประธานเยี่ยฉันยังสู้ไม่ได้”
“ก็ต้องเป็นอย่างนั้น”
จู่ๆก็มีเสียงหยิ่งทะนงดังขึ้น อุณหภูมิรอบๆค่อยๆลดลงเปลี่ยนเป็นหนาวติดลบในทันที
ไป๋ลู่เงยหน้าขึ้นมองเห็นเยี่ยเจิ้นถิง โดนพลังอันทรงอำนาจสะกดก็ตกใจกลัวทันทีขดตัวอยู่ในอ้อมเเขนของไป๋ชิวอวี่ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ไป๋ชิวอวี่ก็ตกใจมากเช่นกันกอดลูกสาวเเล้วรีบถอยกลับไปอยู่ข้างหลังซือเฮ่าเซวียน
“ประธานเยี่ย” เหลยอวี่ก้มศรีษะทำความเคารพ
เยี่ยเจิ้นถิงยกคางขึ้นเล็กน้อย
เหลยอวี่หันกลับไปมองถึงเห็นว่าเฟิงเชียนเสวี่ยไม่รู้เดินออกมาตั้งเเต่ตอนไหนยืนดูอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำมองดูเหตุการ์ณทั้งหมด
เหลยอวี่รีบไปประคองเฟิงเชียนเสวี่ย
“ประธานเยี่ยขอภัยคนของผมรบกวนคุณผมกลับไปจะต้องอบรม……..ให้ดีๆ”
ขณะที่ซือเฮ่าเซวียนกำลังขอโทษอยู่นั้น เหลยอวี่จูงมือเฟิงเชียนเสวี่ยเดินมาอยู่ข้างๆเยี่ยเจิ้นถิง
ซือเฮ่าเซวียนหยุดพูดครู่หนึ่งมองที่เฟิงเชียนเสวี่ยด้วยเเววตาซับซ้อนเเล้วรีบหันกลับ
“ประธานเยี่ยเมื่อกี้เป็นการเข้าใจผิด เข้าใจผิด” ไป๋ชิวอวี่รีบเปลี่ยนสถานการ์ณทันทีอธิบายยิ้มเเย้ม “พวกเราไม่ทราบว่าท่านนี้……” เธอหมายถึงเหลยอวี่ “เป็นคนของท่าน”
ขณะเดียวกันไป๋ชิวอวี่รีบโค้งคำนับขอโทษ “ คุณหมอเหลยขอโทษด้วยพวกเรามีตาหามีเเววไม่ทำให้คุณโกรธ ฉันต้องขออภัยคุณด้วย!”
“เเม่……” ไป๋ลู่โกรธจนตัวสั่น
เฟิงเชียนเสวี่ยเห็นไป๋ชิวอวี่พูดจาด้วยท่าทางนอบน้อมในใจอดไม่ได้ที่จะนับถือ ผู้หญิงคนนี้นับว่ายืดได้หดได้จริงๆ คุณสมบัติของคนคิดทำการใหญ่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก