“ก็เพราะคืนนี้เกิดเรื่องตั้งมากมายหนูถึงจะซื้อของขวัญให้ตัวเองเพื่อปลอบขวัญ” ไป๋ลู่ไม่เห็นด้วย “เฮ่าเซวียนนานๆทีจะใจกว้างเเบบนี้ให้หนูประมูลได้ตามใจชอบ หนูก็ต้องได้หน้าให้คนพวกนี้เห็นไม่อย่างนั้นทุกครั้งที่มีงานปาร์ตี้เซเลบภรรยาคนรวยพวกนั้นชอบดูถูกหนู!”
ไป๋ชิวอวี่ได้ยินที่ลูกพูดก็ไม่ว่าอะไรอีก……
เธอเข้าใจความรู้สึกของลูกสาว เเม้ว่าตระกูลซือจะมีฐานะดีเเต่ไป๋ลู่ก็ไม่เป็นที่ชื่นชอบของหมู่ภรรยาคนรวยพวกนั้น ทุกครั้งที่ไป๋ลู่กลับจากปาร์ตี้ก็มักจะร้องไห้อย่างคับข้องใจ……
อาศัยโอกาสในครั้งนี้ให้ลูกเได้หน้าก็ดี วันหลังคนพวกนั้นจะได้ไม่ดูถูกเธออีก
“การประมูลจะเริ่มณ.บัดนี้ เริ่มต้นที่ราคาเก้าล้าน ทุกครั้งราคาจะเพิ่มทีละห้าเเสน”
พิธีกรประกาศ
คนล่างเวทีเมื่อเห็นเยี่ยเจิ้นถิงไม่มีทีท่าว่าคิดจะประมูลก็ยกป้ายขึ้นประมูลเเข่ง
ไป๋ลู่ก็เข้าร่วมด้วยเพื่อเเสดงความร่ำรวยของตระกูลซือ เธอจึงขึ้นราคาไปถึงหนึ่งเเสนทุกครั้งซึ่งก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้อย่างเร็ว
ไป๋ลู่แอบดีใจอย่างเงียบๆรู้สึกว่าในที่สุดตัวเองก็ได้หน้าเเล้ว
เฟิงเชียนเสวี่ยเดิมทีก็ไม่ได้ยากเข้าร่วมงานเลี้ยงประมูล เธอกำลังขอเยี่ยเจิ้นถิงกลับก่อน
เเต่ยังไม่ทันเอ่ยปากเยี่ยเจิ้นถิงก็ยืนขึ้นมายื่นมือไปให้เธอ “ออกไปเดินหน่อย”
“อื่อ” เฟิงเชียนเสวี่ยวางมือในฝ่ามือเขาให้เขาจูงมือนำไปที่ศาลาด้านหลัง
ทันใดนั้นความสนใจของทุกคนในงานก็มองไปที่พวกเขาทั้งสองคน เเม้เเต่การประมูลก็หยุดชั่วขณะ……
จนกระทั่งพวกเขาออกไปจากงานการประมูลจึงดำเนินต่อ
ไป๋ลู่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอใช้เงินตั้งมากมายเเข่งประมูล เเต่เฟิงเชียนเสวี่ยไม่ได้ทำอะไรเลยก็สามารถเป็นจุดสนใจของทุกคน
ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ
“อย่าให้นังสำส่อนมีอิทธิพลกับความรู้สึก” ไป๋ชิวอวี่กำชับเสียงต่ำ “ ในเมื่อประมูลได้เเล้วก็กลับเถอะ”
“บ้านฉู่ให้ราคา สิบสามล้าน”
“ สามสิบล้าน!”
ไป๋ลู่รีบยกป้ายเเละก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอีกครั้ง
โดยทั่วไปเเล้วการประมูลจะเพิ่มขึ้นทีละน้อย เเเต่ไป๋ลู่กลับเพิ่มราคาเป็นเท่าตัวซึ่งถือว่าฟุ่มเฟือย!
เเต่ว่าเธอทำอย่างนี้ไม่เพียงเเค่อยากได้เเหวนเพชร เเต่ยังต้องการเเข่งประมูลกับสตรีที่มีชื่อเสียงของตระกูลฉู่ที่ชื่อฉู่จือหาน เมื่อก่อนเคยไล่จีบซือเฮ่าเซวียนอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ทุกคนรู้จัก
ไป๋ลู่ไม่กล้าท้าทายเยี่ยเจิ้นถิง เเต่ต้องไม่เเพ้ให้กับตระกูลฉู่
“คุณผู้หญิงซือให้ราคายี่สิบล้านครั้งที่หนึ่ง ยี่สิบล้านครั้งที่สอง ยี่สิบล้านครั้งที่สะ......”
ไป๋ลู่ยิ้มอย่างลำพองใจคิดว่าในที่สุดตัวเองก็ชนะเเล้ว
“ห้าสิบล้าน” ฉู่จือหานตะโกนขึ้นมา
“เธอ......” ไป๋ลู่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ยกป้ายทันที.....
“คุณผู้หญิง” ซือหย่วนรีบห้าม “ประธานซือกำชับมาให้มากสุดห้าสิบล้านเท่านั้น ถ้าเกินกว่านี้ไม่ต้องยกป้าย”
“เพราะอะไร” ไป๋ลู่โกรธจัด “ไม่ใช่จ่ายไม่ไหวซะหน่อย”
“ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับเงิน” ซือหย่วนกระซิบอธิบาย “เเต่ประธานซือได้คิดไว้เเล้วสมมุติมีคนให้ราคาห้าสิบล้านขึ้นไป,เเสดงว่าอยากได้สินค้าชิ้นนั้นมาก ถ้าหากเราไปเเย่งประมูลก็จะกระทบถึงความสัมพันธ์ทางด้านธุรกิจ”
“เเต่ว่า......”
“ห้าสิบล้านครั้งที่หนึ่ง ห้าสิบล้านครั้งที่สอง ห้าสิบล้าน......”
เห็นพิธีกรกำลังจะเคาะฆ้อนครั้งสุดท้ายไป๋ลู่ใจร้อนรีบยกมือขึ้นประมูลเเข่ง ซือหย่วนรีบดึงมือเธอไว้ “คุณผู้หญิงอย่ายก........”
“หลีกไปให้พ้น!” ไป๋ลู่ผลักซือหย่วนอย่างโกรธจัด “หมาไร้ค่า กล้ามาสอนฉันเหรอ”
พูดเสร็จเธอก็ยกป้ายอีกครั้ง……
“ปิดการขาย!” พิธีกรเคาะฆ้อน
ไป๋ลู่ยกมือค้างอยู่ตรงนั้นกลายเป็นเรื่องตลกอีกคนครั้ง……
ทั้งงานปรบมืออย่างยินดีทุกคนปรบมือให้ฉู่จื้อหาน
ฉู่จื้อหานยิ้มเต็มหน้ารับคำยินดีของทุกคน ในเวลาเดียวกันก็หันหน้าไปที่ไป๋ล฿เเสดงท่าทียั่วยุ
ไป๋ลู่โมโหจนตัวสั่นคืนนี้เธอมาถึงก็อับอายขายหน้า ต่อมาก็โดนคนของเยี่ยเจิ้นถิงลบหลู่ มาถึงตอนนี้เเค่คิดอยากประมูลของสักชิ้นเพื่อคืนเกียรติให้ตัวเองนิดนึง……
คิดไม่ถึงจะโดนคนกด
เธอมองดูรอบๆภรรยาคนรวยพวกนั้นกับเซเลบล้วนมองมาที่เธอ ยิ้มเยาะเย้ยดูถูกเธอเหมือนกับจะพูดว่า ช่างเป็นตัวตลกที่ไร้ค่า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก