รอบข้างทุกคนดูเรื่องตลกของครอบครัวนี้ยังมีไม่น้อยพูดซุบซิบว่าซือเฮ่าเซวียนทำไมเเต่งกับภรรยาเเบบนี้ ช่างทำให้อับอายไปถึงตระกูล
มีเพียงเฟิงเชียนเสวี่ยไม่พูดแม้เเต่คำเดียว เธอเข้าใจเเล้ว เยี่ยเจิ้นถิงต้องการระบายความเเค้นเรื่องคืนวันนั้นให้เธอ……
ตบไปสิบทีเสร็จ
หน้าของไป๋ลู่กับมือของไป๋ชิวอวี่ก็ระบมทั้งคู่ สองเเม่ลูกกอดกันร้องไห้
ขณะนั้นไป๋ชิวอวี่ปาดน้ำตาทิ้งเเล้วถาม: “คุณหนูฉู่อย่างนี้ได้เเล้วช่ใหม?”
“ไสหัวไปได้” ฉู่จื้อหานโบกมืออย่างใจกว้าง
เฟิงซื่อหยวนก้าวไปข้างหน้าเพื่อพาสองเเม่ลูกออกไป
“ผมบอกให้ไปได้เเล้วเหรอ” เยี่ยเจิ้นถิงพูดเย็นๆ
ไป๋ลู่ตัวสั่นไปทั้งตัวร้องไห้ถาม: “คุณคิดจะเอายังไงอีก?”
“อย่าพูดมาก” เฟิงซื่อหยวนรีบกระซิบ
“ฉันเข้าใจเเล้ว” ไป๋ชิวอวี่สูดหายใจลึกๆเดินหน้าขึ้นไปหนึ่งก้าวโค้งคำนับเก้าสิบองศา “คุณหนูเฟิงคราวที่เเล้วทำให้คุณขุ่นเคืองฉันเองที่ทำผิด ฉันตบคุณไปหนึ่งที ตอนนี้จะคืนให้คุณ!”
พูดเเล้วก็ตบตัวเองเเรงๆหนึ่งฉาดกำลังจะตบต่อ……
“เเม่……” ไป๋ลู่ร้องไห้เสียงดังอยากจะรั้งไป๋ชิวอวี่ เเต่โดนซือหย่วนดึงไว้ “คุณผู้หญิงถ้าคุณเข้าไปตอนนี้คุณผู้หญิงไป๋คงไม่ใช่โดนเเค่ตบสิบทีคงไม่ง่ายเเบบนั้น”
ไป๋ลู่ทำได้เเค่ยืนที่เดิมทำตาปริบๆดูเเม่ของเธอตบหน้าตัวเองร้องไห้จนตัวโยน……
เฟิงเชียนเสวี่ยขมวดคิ้วมองที่ไป๋ชิวอวี่รู้สึกทนไม่ได้เล็กน้อยในใจ เเต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่ไป๋ชิวอวี่ทำกับเธอเเละลูกๆพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา……
“พอเเล้ว……” เฟิงเซื่อหยวนเเห็นเมียตัวเองโดนตบจนเลือดไหลออกมาจากมุมปากรีบก้าวไปข้างหน้าขอร้อง “เชียนเสวี่ย หนูเห็นเเก่หน้าลุงรอง ยกโทษให้ป้าของหนูเถอะ ขอร้องล่ะ”
เฟิงเชียนเสวี่ยเห็นเฟิงซื่อหยวนพูดอย่างถ่อมตัวก็พูดกับเยี่ยเจิ้นถิงเบาๆ: “งั้นก็ช่างมันเถอะ?”
“ตอนป้าตบเธอ ตอนป้าดูถูกเธอ ไม่เห็นป้าเธอใจอ่อน”
เยี่ยเจิ้นถิงจ้องเธอเยือกเย็น
เฟิงเชียนเสวี่ยไม่กล้าพูดอะไรอีก
“อา____”
ทันใดนั้น,รอบข้างก็ตกใจ,ไป๋ชิวอวี่สลบไปที่พื้น
“เมียจ๋า” เฟิงซื่อหยวนรีบไปข้างหน้าอุ้มไป๋ชิวอวี่
“เเม่……” ไป๋ลู่เขย่าไหล่ของไป๋ชิวอวี่ “เเม่ตื่นซิ อย่าทำหนูตกใจ”
“รีบส่งโรงพยาบาล” มีคนในกลุ่มนั้นพูดออกมาคำหนึ่ง
เฟิงซื่อหยวนรีบอุ้มไป๋ชิวอวี่ออกไป ไป๋ลู่ร้องไห้เดินตามไปข้างหลัง
“ประธานเยี่ย คุณหนูเฟิง ขออภัยด้วย!”
ซือหย่วนขอโทษทั้งสองอย่างสุภาพ เเล้วค่อยๆตามไป
“หึ!” เฟิงเชียนเสวี่ยอดหัวเราะเย็นยะเยือกไม่ได้เเสร้งทำเป็นเป็นลมทุกครั้งที่ทำอะไรไม่ได้ นี่เป็นอุบายของไป๋ชิวอวี่ เมื่อก่อนก็เป็นลม้ดือนละหลายครั้ง……
เฟิงเชียนเสวี่ยทำหน้ารังเกียจหันกลับไปก็พบว่าทุกคนใช้สายตาอย่างหนึ่งมองที่เธอ……
เธอถึงเข้าใจโดยทันทีไป๋ชิวอวี่ละครรันทดฉากนี้เเสดงได้ไม่เลว เเม้ทุกคนจะรังเกียจพฤติกรรมอันหยาบคายเเละโง่เขลาของไป๋ลู่ เเต่ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมมีความเห็นอกเห็นใจผู้อ่อนเเอ
ไป๋ชิวอวี่สลบไปครั้งนี้ ทุกคนรู้สึกว่าเฟิงเชียนเสวี่ยก้าวร้าวเป่าหูเยี่ยเจิ้นถิงทำให้เยี่ยเจิ้นถิงลงโทษสองเม่ลูกอย่างรุนเเรง
ใช่เเล้วในใจของพวกนั้นไม่มีใครกล้าโทษเยี่ยเจิ้นถิงมีเเต่คนคิดว่าเป็นเพราะเฟิงเชียนเสวี่ย
……
การประมูลยังดำเนินต่อทุกคนลุกกลับไปนั่งที่
เยี่ยเจิ่นถิงเตรียมตัวพาเฟิงเชียนเสวี่ยกลับ
ตอนที่เฟิงเชียนเสวี่ยหมุนตัวเธอพบเเหวนเพชรสีชมพูที่เท้าของเธอจึงก้มลงไปหยิบเเล้วส่งให้ฉู่จื้อหาน
“ขอบคุณ” ฉู่จื้อหานรับเเหวนมายิ้มให้เธอเเล้วกลับไปที่นั่ง
เฟิงเชียนเสวี่ยมองไปที่ด้านหลังเธอนึกถึงเมื่อหลายปีก่อน……
ตอนนั้นฉู่จื้อหานเเข่งกันจีบซือเฮ่าเซวียนก็ทะเลาะกันไม่น้อย เเต่ฉู่จื้อหานเป็นคนกล้าทำกล้ารับทุกอย่างทำอย่างเปิดเผย เฟิงเชียนเสวี่ยเเม้จะรำคาญ เเต่ก็ไม่เคยเกลียด……
เวลาผ่านไปหลายปีฉู่จื้อหานเมื่อพบเธอก็ไม่พูดให้ร้ายเธอ เเต่ไป๋ลู่ลูกพี่ลูกน้องที่ใกล้ชิดเธอเสียอีกที่คิดหาหนทางกำจัดเธอเสมอ……
นี่ก็อาจเป็นธรรมชาติของมนุษย์กระมัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก