“เฮ้!” เยี่ยเจิ้นถิงผลักมือเธอออกพูดเย็นชา“อย่าจับมั่วซั่ว!”
“ทำไมล่ะ” ในใจเฟิงเชียนเสวียยิ่งสงสัย“ทำไมไม่ให้ฉันดู”
“ไร้สาระ!” เยี่ยเจิ้นถิงพูดเย็นชา “ให้เธอเห็นหน้าตาของฉันไม่ถูกเธอขู่กรรโชกไปตลอดชีวิตเหรอจะมีวันจบสิ้นใหม?”
เนื่องจากเธอจำรอยสักที่เอวเขาได้เเละบังคับเขาเซ็นสัญญาชำระหนี้ ตอนนี้เขาจึงต้องเเบ่งรายได้ต่อวันครึ่งหนึ่งให้เธอ
เวลาผ่านไปครึ่งทางของกำหนดเส้นตายอย่างยากลำบาก อดทนอีกนิดเขาก็ปลดหนี้ได้หมดเเล้ว
ถึงอย่างไรเธอก็ไม่รู้จักหน้าค่าตาเขาวันหลังเกิดพบกันโดยบังเอิญก็คงจำไม่ได้
เเต่ว่าถ้าหากให้เธอเห็นหน้าตาเขาก็เป็นไปได้ว่าจะไม่จบไม่สิ้น
พูดอย่างนี้มาก็ดูมีเหตุมีผล……
หรือว่าเธอคิดมากไป?
“ถ้าไม่ใช่เพราะสี่ปีก่อนไปนอนกับเธอจนทำให้คุณต้องทำเเท้ง ฉันก็ไม่ยุ่งกับเธอหรอก”
เยี่ยเจิ้นถิงพูดเสริมอีกประโยคคำนี้เป็นคำเสน่หาสุดซึ้ง
คืนนั้นเขาโดยวางยาสะลึมสะลือนอนกับเธอเเละดุร้ายกับเธอเยี่ยงสัตว์ร้าย ไม่มีความสงสารเเม้เเต่น้อย……
เขายังจำความน่าสงสารที่เธอร้องไห้เเละขอความเมตตาภายใต้ร่างเขาได้ ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้เลือดในกายก็พุ่งพล่านรู้สึกละอายใจ……
“นับว่านายยังมีมโนธรรม”
ความสงสัยในใจของเฟิงเชียนเซวี่ยลดลงไป ย้อนกลับไปคิดเยี่ยเจิ้นถิงคนที่ยืนอยู่เหนือคนอื่นจะมาเเกล้งทำเป็นหนุ่มบาร์โฮสต์ในบาร์ได้ยังไง จะมาสวมบทบาทเล่นกับเธอ?
พูดก็พูดอีกเขาเพิ่งไล่เธอลงจากรถ ชั่วครู่เดียวจะไปเปลี่ยนรถอีกคันเปลี่ยนเสื้อผ้ามารับเธอได้ยังไง
เเม้เวลาจะเอื้ออำนวยอารมณ์ของเขาคงไม่เอื้อ!
“วันหลังเรื่องเเบบนี้ไม่ต้องมาเรียกฉัน” เยี่ยเจิ้นถิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ฉันไม่ใช่บอดี้การ์ดของเธอ ที่เรียกเมื่อไรก็ต้องมาเมื่อนั้น?”
“ฉันก็ไม่อยากรบกวนนาย เเต่ว่านอกจากนาย ฉันก็ไม่รู้จะขอร้องใคร” เฟิงเชียนเซวี่ยหมดหนทาง
“เเฟนเธอล่ะ?” เยี่ยเจิ้นถิงถามเสียงเย็นชา
“ฉันมีเเฟนที่ไหน”
“ไม่มี?” เยี่ยเจิ้นถิงสงสัยในใจผู้หญิงคนนี้คำไหนจริง?คำไหนเท็จ?
“ดีนะที่คุณเตือนสติฉัน……”
เฟิงเชียนเสวี่ยคิดขึ้นได้ว่าเธอบอกเยี่ยเจิ้นถิงว่าตัวเองมีเเฟนเเล้ว ถ้าเขารู้ว่าเธอโกหกเธอต้องเเย่เเน่ ดังนั้นเเสดงเเล้วต้องเเสดงให้เหมือนหน่อย……
คิดถึงเรื่องนี้,เฟิงเชียนเสวี่ยดึงเยี่ยเจิ้นถิงเเล้วพูดว่า “นายโฮสต์ นายโฮสต์ เป็นเเฟนฉันเถอะ!”
“……………”
เยี่ยเจิ้นถิงตกใจเกิดอะไรขึ้น
หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ผู้หญิงเลวนี้เพิ่งตัดสัมพันธ์เขาอย่างไม่ใยดี คนอย่างเขาเป็นหนึ่งไม่มีสองความสามารถไม่เป็นรองใคร!
ตอนนี้กลับมาให้ผู้ชายขายตัวคนหนึ่งเป็นเเฟน
เธอโง่หรือเธอบ้า
“นายอย่าตื่นเต้น ฉันหมายถึงเเค่เเกล้งทำ” เฟิงเชียนเสวียอธิบาย “เร็วๆนี้มีคนมาจีบฉัน ฉันจะกำจัดความคิดของเขาเลยจงใจบอกเขาว่าฉันมีเเฟนเเล้ว……”
เเววตาอันตรายของเยี่ยเจิ้นถิงหรี่ลง ดีมาก ผู้หญิงเลวกล้ามาล้อเล่นกับฉัน?
“ นายโฮสต์ นายโฮสต์ นายช่วยฉันสักครั้งเถอะ”เฟิงเชียนเสวี่ยดึงเเขนเสื้อของเขาอย่างเสียมารยาท“ฉันซื้ออาหารเสริมให้นาย……”
“ไม่ต้องเเล้ว!” เยี่ยเจิ้นถิงขัดจังหวะ “คนที่จีบเธอคือใคร”
“เรื่องนี้นายไม่ต้องรู้หรอก” เฟิงเชียนเซวี่ยพูดอย่างเป็นกันเอง “นายเเค่เเกล้งทำประเดี๋ยวเดียวเอง ไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย”
“จะได้ยังไงล่ะ?” เยี่ยเจิ้นถิงไปตามน้ำ “เกิดฝ่ายตรงข้ามเป็นพวกโหดเหี้ยม วันหลังมาเเก้เเค้นฉันจะทำยังไง?”
“เจ้านายฉันเอง” เฟิงเชียนเสวียพูดตรงไปตรงมา
“ไม่น่าใช่ เจ้านายเธอชอบเธอ?” เยี่ยเจิ้นถิงเหลือบมองดูเธออย่างดูถูก “รูปร่างอย่างกะเด็กเเคระเเกรนเขาเป็นคนตาบอดเหรอ”
“……………..”
เฟิงเชียนเสวี่ยรู้สึกว่าตัวเองคิดมากเกินไป เยี่ยเจิ้นถิงคงไม่ว่าตัวเองเเบบนี้
“มีอีกนะเจ้านายเธอเป็นคนดีเลิศ เขาชอบเธอ เธอน่าจะปลื้มปิติถึงจะถูกทำไมไปปฎิเสธล่ะ” เยี่ยเจิ้นถิงจงใจถามเธอ
“คนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ฉันไม่มีปัญญาไปยั่วยวนเขาหรอก……”เฟิงเชียนเสวี่ยถอนหายใจ “ตอนนี้เขาเห็นฉันเป็นของใหม่พอเขาเล่นจนเบื่อก็เตะฉันออกไป ถึงเวลานั้นฉันจะไปร้องไห้ที่ไหน?”
“นอกจากนี้ อารมณ์เขาไม่เเน่นอนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายน่าจะเป็นคนโรคจิต ใครจะไปรู้ว่ามีงานอดิเรกอะไรเเปลกใหม ฉันว่าอยู่ห่างๆเขาหน่อยเถอะ ชีวิตฉันมีความสำคัญ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก