ณ งานเลี้ยงการกุศล
ตั้งแต่โจวฉือเซินและหลินจืออี้ปรากฏตัวพร้อมกัน ฉากทั้งหมดก็ตกอยู่ในความเงียบแปลก ๆ
ผู้คนต่างรู้ดีว่าตระกูลจี้นั้นเหลือแต่เปลือกมานานแล้ว งานเลี้ยงการกุศลครั้งนี้แต่เดิมเป็นโอกาสที่ตระกูลจี้จะได้รับความสัมพันธ์กับท่านใหญ่โจวเท่านั้น
แม้ตระกูลจี้จะล่มสลายแต่ก็ยังมีเส้นสายและศักดิ์ศรีที่สะสมไว้ตั้งแต่ในอดีต
ยิ่งกว่านั้นคนไม่น้อยก็อยากจะเดินเข้าไปในเส้นทางของตระกูลโจว แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าถึงแม้ตระกูลโจวฉากนอกนั้นจะมีท่านใหญ่โจวเป็นผู้นำ แต่ความจริงแล้ว อำนาจทั้งหมดอยู่ในมือของโจวฉือเซิน
แต่ตั้งแต่แต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลจี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
ยิ่งกว่านั้นไม่รู้ว่าทำไมโจวฉือเซินถึงคิดแบบนั้น ในช่วงเวลาสำคัญ จู่ ๆ ก็เดินทางไปพัฒนารีสอร์ตที่พักต่างอากาศนอกพื้นที่ แล้วส่งโจวซื่อกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่ไปให้ท่านใหญ่โจวที่จ้องพร้อมตะครุบดั่งพญาเสืออย่างนั้น
ต่อให้รูปการณ์จะเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ควรมองข้ามความสามารถและหนทางการของโจวฉือเซิน คนที่มางานในวันนี้ล้วนอยู่ภายใต้หน้ากากของการเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อสำรวจความจริง
แต่สิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยก็คือ จู่ ๆ โจวฉือเฉินก็ปรากฏตัวพร้อมกับคุณหนูตระกูลจี้
เมื่อเป็นแบบนี้ ดูสถานการณ์จะชัดเจนแล้ว
ท้ายที่สุดตระกูลจี้ที่เหลือแต่เพียงเปลือก ต่อให้มีเส้นสายมากกว่านี้ ก็ไม่มีทางสู้ตระกูลหลินที่มั่งคั่งได้
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ทุกคนก็พูดคุยกันเบา ๆ
คนพวกนี้ต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง ทั้งงานนี้คนที่รู้สึกดีใจกับหลินจืออี้คงจะมีแค่จี้หรันเพียงคนเดียวเท่านั้น
ส่วนท่านจี้เมื่อเห็นภาพนี้นั้น ถึงแม้จะมีสีหน้าเคร่งขรึม แต่กลับไม่พูดอะไร
ในตอนที่หลินจืออี้คล้องแขนโจวฉือเซินเข้ามากล่าวทักทายนั้น เขาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย เขาเคยชินกับโจวฉือเซินที่ไม่มีใครอยู่ในสายตามานานแล้ว เย่อหยิ่งไม่มีมารยาท และไม่สนใจอะไรพิธีหยุมหยิม
เขาพูด: "เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ประธานโจวสามารถมาร่วมงานเลี้ยงการกุศลที่ตระกูลจี้จัดในคืนนี้ได้"
โจวฉือเซินพูดอย่างเรียบเฉย: "ประธานจี้ ไม่ต้องพูดจาเป็นมารยาทพวกนี้หรอกครับ คุณคงจะทราบดีว่าทำไมผมถึงมา"
ท่านจี้นั้นเป็นผู้มากประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมากโชกโชน เขาไม่ได้จนมุมเมื่อถูกถาม เขาตอบอย่างสี่ตำลึงปาดพันช่าง "ประธานโจวพูดอะไรกันครับ วันนี้เป็นการงานประมูลเครื่องประดับเพื่อการกุศล ทุกคนต่างมาเพื่อการกุศลอยู่แล้ว นอกจากเหตุผลนี้แล้ว ผมคิดไม่ออกเลยว่าประธานโจวจะมาที่นี่ด้วยเหตุผลอื่นใดได้อีก"
โจวฉือเซินยกริมฝีปากบางอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไร
หลินจืออี้เปิดปากในเวลาที่เหมาะ เธอยิ้มแล้วพูด: "ลุงจี้พูดถูกค่ะ คืนนี้พวกเราต่างก็มาทำการประมูลเพื่อการกุศล"
เวลานี้ คนอื่นเริ่มเข้ามากล่าวทักทายกันแล้ว
หลินจืออี้พูดขึ้นอีก: "ถ้าอย่างนั้นเชิญลุงจี้ทำธุระเถอะค่ะ"
หลังจากออกมา โจวฉือเซินดึงมือออกจากแขนของหลินจืออี้หยิบแชมเปญหนึ่งแก้วในมือแล้วพูดเบา ๆ: "แสดงได้ไม่เลว"
หลินจืออี้ปิดปากเงียบ และหยิบแชมเปญแก้วหนึ่งแล้วชนแก้วกับเขาและเขยิบเข้าไปกระซิบที่ข้างหู: "ละครฉากนี้เพิ่งจะเริ่มต้น คุณมองดูรอบ ๆ สิ พวกเขากำลังจ้องมองเรา เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่าแผนของเราในคืนนี้มันประสบความสำเร็จมาก"
โจวฉือเซินเอียงหัวหลบ ในรอยยิ้มนั้นมีความเย็นชาแฝงอยู่
ทันทีที่เสียงของหลินจืออี้สิ้นสุด จี้หรันก็เข้ามาพร้อมท้องใหญ่และตะโกน: "จืออี้"
"พี่จี้หรัน"
จี้หรันขบริมฝีปากเล็กน้อยเมื่อมองไปที่โจวฉือเซินจากนั้นจึงถอนสายตาอีกครั้ง ดึงหลินจืออี้ไปพูดคุยด้วยรอยยิ้ม
จี้หรันไม่รู้จริงๆ ว่าตระกูลโจวและตระกูลจี้กำลังวางแผนอะไร เธอมีเพียงความคิดเพื่อเพื่อนของเธอเท่านั้น
ถึงแม้เธอจะไม่ชอบโจวฉือเซิน แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความสามารถของเขาได้ อีกทั้งสถานะของเขาในโจวซื่อกรุ๊ปที่ไม่อาจจะมองข้ามได้
ยิ่งกว่านั้น เขายังเป็นคนที่หลินจืออี้ชอบมาหลายปี
จี้หรันพูด: "จืออี้ฉันจะบอกเธอว่าฉันชอบเครื่องประดับเซิ่งกวางกรุ๊ปส่งมามากเลย เพียงแต่ว่า..."
แน่นอนว่าหลินจืออี้รู้ว่าเธอลังเลเรื่องอะไร ก็เพียงแค่ว่าเธออาจจะไม่สามารถควักเงินจำนวนมากขนาดนั้นออกมาได้เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย
ไม่เชื่อใจคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ก็เอาตัวเองไม่เคยจะรอด ก็มั่นหน้าให้คนรอบตัวเดือดร้อนต่อไปค่ะซิงซิง...
ใครที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไปอ่านต่อให้จบได้ ในชื่อเรื่อง สามีเก่า....มาขอแต่งงานอีกแล้ว นะคะเป็นเรื่องดียวกันค่ะ...
รออัพเดทตอนต่อไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบทีค่ะ...
รออ่านตอนไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบด้วยค่ะ...
เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่ทำไมลงไม่จบเรื่องคะ ช่วยลงให้จบได้ไหมคะ รอติดตามอยู่นะ...