สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 198

ในตอนที่หร่วนซิงหว่านกลับมาที่ห้อง เพ้ยซานซานก็เก็บครัวเสร็จเรียบร้อย Danielเองก็กลับไปแล้ว

เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เพ้ยซานซานก็หันกลับไปมอง ขณะที่กำลังจะถาม กลับเห็นหร่วนซิงหว่านใส่เสื้อโค้ตตัวใหญ่ของผู้ชาย เดินเข้ามาด้วยท่าทางเลื่อนลอย

เอาล่ะ ตอนนี้ไม่ต้องถามอะไรแล้ว

สวี่วานเห็นแบบนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น หยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วพูดว่า "ฉันว่า ฉันเองก็ควรกลับได้แล้วเหมือนกัน พวกแกพากันพักผ่อนไวๆล่ะ"

หร่วนซิงหว่านดึงสติกลับมา "โจวฉือเซินกลับไปแล้ว แล้วแกจะกลับยังไง?"

"เรียกรถไง" สวี่วานสวมเสื้อฮูด พร้อมกับดึงหมวกขึ้นมาคลุมหัว พร้อมกับใส่ผ้าปิดปาก ห่อหุ้มตัวเองเอาไว้อย่างหนาแน่น หันมาขยิบตาให้หร่วนซิงหว่านแล้วพูดว่า "มองออกไหม?"

หร่วนซิงหว่านส่ายหน้า

สวี่วานยิ้ม "งั้นก็แค่นี้แหละ ฉันกลับก่อนนะ บาย"

เพ้ยซานซานมาส่งเธอที่ประตู "นี่ กลับดีๆล่ะ ถ้าถึงแล้วส่งข้อความมาบอกด้วย"

"ได้"

หลังจากที่สวี่วานกลับไป หร่วนเฉินก็มองมาที่หร่วนซิงหว่าน "พี่...."

หร่วนซิงหว่านกระแอมไอ "ฉันไปเข้าห้องน้ำนะ"

พูดจบ เธอก็รีบวิ่งไปทันที

หร่วนเฉินยืนอยู่กับที่ มองตามแผ่นหลังของเธอพร้อมขมวดคิ้ว

เพ้ยซานซานเดินเข้ามาหา พูดเบาๆขึ้นมาว่า "เสี่ยวเฉินแกอย่าไปถามพี่แกเลย พี่แกรู้ดีอยู่แก่ใจ"

เงียบอยู่ชั่วครู่ หร่วนเฉินก็ละสายตากลับมา "ดึกมากแล้ว งั้นผมกลับก่อนนะ"

"อืม รีบกลับไปเถอะ"

หลังจากได้ยินเสียงปิดประตู หร่วนซิงหว่านถึงได้โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ พูดเสียงเบาว่า "เสี่ยวเฉินกลับแล้วใช่ไหม?"

เพ้ยซานซานนั่งลงบนโซฟา พร้อมกับบิดขี้เกียจ "กลับแล้ว"

หร่วนซิงหว่านพรูลมหายใจ ค่อยๆเดินออกมา วางเสื้อคลุมไว้บนพนักโซฟา จากนั้นก็เทน้ำใส่แก้วยกขึ้นดื่มอึกใหญ่

เพ้ยซานซานกอดหมอนอิง มองมาที่เธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น "คุยอะไรกัน?"

"คุย...อะไรเหรอ?"

"แกกับโจวฉือเซินไง ลงไปนานขนาดนี้ ไม่ได้คุยอะไรกันเลยเหรอ"

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ข้างล่างตึกเมื่อสักครู่ มือที่กำลังกุมแก้วน้ำอยู่ก็พลันชะงัก สุดท้ายก็เม้มปากเบาๆ กัดฟันพูดว่า "เขาเป็นบ้า!"

เพ้ยซานซาน "ไหนขยายซิ"

หร่วนซิงหว่าน "........"

เธอนั่งลงข้างเพ้ยซานซานช้าๆ พูดเสียงเบาว่า "ซานซาน จู่ๆตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่า จริงๆแล้วนับวันฉันก็ยิ่งมองโจวฉือเซินไม่ออก ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง แต่ทุกเรื่องที่เขาทำกลับอยู่เหนือความคาดหมายของฉันตลอด มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ"

"แกคิดว่าเขาเปลี่ยนไปเหรอ"

หร่วนซิงหว่านส่ายหน้า เธอไม่ได้คิดว่าโจวฉือเซินเปลี่ยนไป เพียงแต่ว่า.....บางครั้งเขาก็ไม่ได้น่ารำคาญขนาดนั้น แถมยังดูอบอุ่นนิดหน่อยในบางทีเสียด้วยซ้ำ

เพ้ยซานซานเริ่มสนใจ กระแซะเธอพร้อมพูดว่า "คราวก่อนฉันบอกแกแล้วไม่ใช่เหรอ หมาบ้า...ประธานโจวก็เหมือนเด็กประถม เวลาอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบ มักจะทำตัวงี่เง่าเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่จากการสังเกตของฉันในระยะนี้ ในด้านของความรู้สึกเขาขยับจากเด็กประถมมาเป็นเด็กมัธยมแล้ว"

"..........."

หร่วนซิงหว่านก้มหน้าลงไม่พูดไม่จา

ตลอดมาเธอคิดว่า ความชอบที่โจวฉือเซินมีต่อเธอเป็นเพียงแค่ความคึกคะนองแค่ชั่วคราวเท่านั้น ตอนนี้เขาชอบเธอ ในอนาคตอาจจะชอบคนอื่น พอหมดความสนใจ ทุกอย่างก็จะกลับไปจุดเดิม

แต่ที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ ความสนใจของโจวฉือเซิน จะอยู่ได้นานขนาดนี้ อีกอย่างยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงด้วย ตรงกันข้ามกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเพ้ยซานซานเห็นเธอเงียบ ก็พูดเสียงเบาว่า "ซิงซิง จริงๆแล้วแกรู้ดีอยู่แก่ใจ โจวฉือเซินชอบแก ชอบมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ด้วยซ้ำ"

หร่วนซิงหว่านสับสน "ห๊า?"

เพ้ยซานซานวิเคราะห์ให้เธอฟัง "หรือว่าแกไม่สังเกต ตั้งแต่ที่พวกแกหย่ากัน โจวฉือเซินก็หาเรื่องแกตลอด แต่ถ้าจะบอกว่าเขาหาเรื่อง พูดว่าเขาหาโอกาสมาเจอแกไม่เข้าท่ากว่าเหรอ"

"แต่ว่า....."

"แกลองคิดดูดีๆว่าใช่อย่างที่พูดหรือเปล่า ไม่ว่าจะเรื่องที่เขาไปหาแกที่เมืองอานเฉิง หรือเรื่องที่ให้แกย้ายกลับมาที่คฤหาสน์ซิงหู ปากก็บอกว่าให้แกเอาเด็กออก แต่ความจริงกลับไม่เคยบังคับจริงๆจังๆ ตอนที่แกถูกขังอยู่ที่ตระกูลโจว ยังให้ฉันเข้าไปเยี่ยมแก อีกอย่าง ที่สำคัญคือเขาถอนหมั้นกับหลินจืออี้แล้ว"

เพ้ยซานซานพูดต่อว่า "แกอาจจะไม่รู้ หลังจากที่ถอนหมั้นกับหลินจืออี้ ไม่ใช่ว่าไม่มีผลกระทบต่อโจวซื่อกรุ๊ป แม้ว่าทางฝั่งตระกูลหลินจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่หลายๆบริษัทที่เคยร่วมงานกับหลินซื่อกรุ๊ป ต่างก็ยกเลิกโปรเจ็คกับโจวซื่อกรุ๊ปหมด ฉันยอมรับว่าโจวฉือเซินเก่งและมีความสามารถ เรื่องพวกนี้อาจจะไม่ส่งผลอะไรต่อเขามากมาย แต่เขาก็น่าจะยุ่งมากๆ เพราะต้องปรับเปลี่ยนบริษัทร่วมลงทุนใหม่ทั้งหมด"

หร่วนซิงหว่านเข้าใจความหมายของเธอ สิ่งที่สำคัญที่สุดของโจวฉือเซินในตอนนี้คือจัดการเรื่องราววุ่นวายของบริษัท ทว่าในสถานการณ์อย่างนี้เขากลับหาเวลามาเจอเธอให้ได้

มันมากพอที่จะทำให้เห็นว่าเขาจริงใจ

หร่วนซิงหว่านยกมือขึ้นมานวดหัวคิ้ว "ไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว นอนกันเถอะ"

"เฮ้อ" เพ้ยซานซานเอ่ยพูดขึ้นมาอีกหน "แกจะโทรหาเฉิงเว่ยหรือเปล่า ฉันว่าวันนี้เขาน่าจะสาหัสน่าดู"

หร่วนซิงหว่านพยักหน้าเบาๆ "ฉันว่าจะไปอาบน้ำก่อน อีกสักพักค่อยโทร"

"อืม เดี๋ยวฉันเก็บกวาดห้องก่อน"

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หร่วนซิงหว่านเช็ดผมไปพลางผลักประตูเดินเข้ามาในห้องไปพลาง

เธอนั่งลงบนขอบเตียง มองหน้าจอโทรศัพท์อย่างลังเลอยู่ครู่ใหญ่ ถึงได้กดโทรออกเบอร์เฉิงเว่ย

โทรศัพท์ดังอยู่นาน ปลายสายก็ยังไม่กดรับ

หร่วนซิงหว่านวางโทรศัพท์ลงช้าๆ เดินมานั่งตรงโต๊ะหนังสือ หยิบนาฬิกาพกจากกล่องขึ้นมานั่งมองเงียบๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

มองไปมองมา เสียงของโจวฉือเซินก็ดังขึ้นมาภายในหัว

หร่วนซิงหว่านถอนหายใจออกมายาวๆ ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างไร้ชีวิตชีวา

เมื่อก่อนเธอไม่เคยเก็บคำพูดพวกนั้นของโจวฉือเซินมาใส่ใจเลยสักครั้ง คิดแค่ว่าเขาบ้าไปเองก็เท่านั้น แต่วันนี้ไม่รู้ทำไม มันรู้สึกไม่ดีข้างในแปลกๆ รายละเอียดเป็นยังไงกับพูดไม่ออก

จริงๆแล้วพอมาลองคิดดูดีๆ ที่เพ้ยซานซานพูดมาก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล

ในตอนที่ได้ยินว่าโจวฉือเซินและหลินจืออี้ถอนหมั้นกันแล้ว เธอคิดไม่ตกเลยว่าเพราะอะไร

เพียงแต่ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้น และมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ

ในตอนที่หร่วนซิงหว่านกำลังเหม่อลอยอยู่นั้น จู่ๆโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้นมา

เธอเหยียดตัวตรง จนเห็นว่าเป็นเบอร์ของเฉิงเว่ยที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ

เมื่อกดรับสาย เสียงของเฉิงเว่ยก็ดังขึ้นมา "ซิงหว่านขอโทษทีนะ เมื่อกี้ประชุมอยู่น่ะ มีอะไรหรือเปล่า?"

หร่วนซิงหว่านชะงักไปสักพักถึงได้พูดขึ้นมาว่า "ฉันไม่ได้รบกวนนายใช่ไหม?"

"ไม่หรอก ตอนนี้ประชุมเสร็จแล้วล่ะ"

หร่วนซิงหว่านพรูลมหายใจออกมา จากนั้นก็พูดว่า "ขอโทษนะ วันนี้แค่อยากชวนพวกนายมาทานข้าว ไม่คิดเลยว่าบรรยากาศจะไม่สนุกแบบนี้"

เฉิงเว่ยพูดขึ้นมาว่า "ฉันต่างหากที่ควรขอโทษ บริษัทมีเรื่องด่วน ฉันเลยกลับมาโดยที่ไม่ได้บอกลาพวกเธอ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย