สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 199

หลังจากได้ยินว่าเฉิงเว่ยกลับไปเพราะมีเรื่องด่วน หร่วนซิงถึงได้พรูลมหายใจออกมาเงียบๆ

เธอเอ่ยพูดขึ้นมาว่า "งั้นฉันไม่รบกวนนายแล้ว ฉัน...."

"ซิงหว่าน" เฉิงเว่ยเอ่ยขัดเธอ

"มีอะไรเหรอ?"

เขาหัวเราะออกมาเบาๆ "เปล่า รีบนอนเถอะ ฝันดีนะ"

คำถามที่อยากถาม สุดท้ายก็ไม่ได้ถามออกไป

หลังจากวางสาย หร่วนซิงหว่านก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอีกครั้ง

เธอไม่รู้ว่าควรพูดมันออกไปให้ชัดเจนกับเฉิงเว่ยดีไหม แต่กระนั้นเฉิงเว่ยก็ไม่เคยบอกว่าชอบเธอจริงๆจังๆ ถ้าเธอเดินเข้าไปพูดตรงๆ แบบนั้นมันจะไม่ดูหลงตัวเองไปหน่อยเหรอ

คืนนี้หร่วนซิงหว่านไม่อาจข่มตาหลับได้ จึงวาดแบบร่างเล่นไปพลางๆ

แต่วาดไปวาดมา ปลายดินสอก็เอาแต่ตวัดเป็นรูปร่างของตาหมาบ้านั่น

ตอนที่หร่วนซิงหว่านรู้ตัว ก็พบว่าวาดจนเกือบจะเสร็จแล้ว

เธอเตรียมขยำทิ้ง แต่ในขณะที่กำลังขยำ เธอก็หยุดชะงัก

ช่างเถอะ

เก็บไว้ก็ได้

จะได้เตือนตัวเองไม่ให้เลอะเลือน

หร่วนซิงหว่านพลิกเปิดอีกหน้า พร้อมกับตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติกลับมา จากนั้นก็เริ่มวาดแบบร่างใหม่

ในขณะเดียวกัน

ณ ตระกูลหลิน

ภายในห้องหนังสือ ผู้เป็นลูกน้องเอ่ยรายงานว่า "คุณท่าน ทางเราได้ไปสืบมาแล้ว รูปนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งให้สำนักข่าวครับ"

หลินจื้อหย่วนขมวดคิ้ว "ผู้ชาย? ผู้ชายคนไหน?"

"ผู้ชายคนนั้นชื่อว่าหร่วนเฉิน อายุสิบเก้าปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นปีที่หนึ่งมหาวิทยาลัยAครับ"

"สืบมาได้หรือเปล่าว่าเขาได้รูปนั้นมาได้ยังไง?"

ลูกน้องพยักหน้าเล็กน้อย "หร่วนเฉินมีพี่สาวคนหนึ่ง ชื่อว่าหร่วนซิงหว่าน"

หลินจื้อหย่วนลุกพรวดขึ้นทันที "ว่าไงนะ!"

"ผมตรวจสอบมาแล้วครับ หร่วนซิงหว่านคือภรรยาเก่าของโจวฉือเซิน"

หลินจื้อหย่วนได้ยินดังนั้น ใบหน้าที่มักจะทอแววอ่อนโยนก็ปรากฏริ้วรอยขมวดมุ่น "แกแน่ใจนะ?"

"แน่ใจครับ สอบถามกับทางสำนักข่าวมาแล้ว หร่วนเฉินเป็นคนนำรูปไปประกาศตามหาคนหาย อีกอย่าง เขาน่าจะรู้ว่าแจ้งความไปก็ไม่ได้ผล เลยอาศัยช่องทางอื่นแทน แต่ว่าผมระงับเอาไว้หมดแล้วล่ะครับ"

เงียบอยู่ครู่ใหญ่ หลินจื้อหย่วนถึงได้พูดขึ้นมาว่า "แกไปสืบประวัติความเป็นมาของหร่วนซิงหวานกับหร่วนเฉินมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ เอาตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน อย่าให้ขาดไปแม้แต่จุดเดียว แล้วก็...."

ในตอนนี้เอง จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา

หลินจืออี้เปิดประตู "พ่อคะ เรียกฉันมามีอะไรหรือเปล่า?"

หลินจื้อหย่วนกลับไปนั่งดังเดิม จากนั้นก็โบกมือไล่ลูกน้อง "แกออกไปก่อนไป"

"ครับ"

เมื่อลูกน้องออกไป หลินจืออี้ก็ปิดประตูแล้วเดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับหลินจื้อหย่วน "พ่อคะ เมื่อกี้ฉันเหมือนได้ยินว่าประวัติอะไรสักอย่าง เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?"

หลินจื้อหย่วนเอ่ยพูดเรียบนิ่ง "ที่บริษัทมีเรื่องนิดหน่อย ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันให้คนไปจัดการแล้ว

หลินจืออี้พยักหน้า

หลินจื้อหย่วนนิ่งไปชั่วครู่ถึงได้พูดต่อว่า "ได้ยินมาว่าช่วงนี้แกสนิทกับไอ้หนุ่มต่างชาติคนนั้นนี่?"

"เขาไม่ใช่คนต่างชาติซะทีเดียวเสียหน่อย มีเชื้อจีนอยู่ครึ่งหนึ่ง"

หลังจากงานวันเกิดในคราวก่อน Danielก็มักจะนัดเธอออกไปข้างนอกบ่อยๆ

หลินจืออี้รู้ว่าเขาคิดอะไร ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงปฏิเสธเขาไปโดยไม่หยุดคิดแล้ว

แต่ว่าตั้งแต่ที่ถอนหมั้นกับโจวฉือเซิน แม้ว่าบางคนจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่คนที่รอสมน้ำหน้าเธอก็มีอยู่ไม่ใช่น้อยๆ

การที่จู่ๆมีคนดังระดับนานาชาติมาตามจีบเธอแบบนี้ เธอจึงไม่ปฏิเสธเป็นธรรมดา

หลินจื้อหย่วนพูดขึ้น "แกสืบประวัติเขามาแล้วเหรอ?"

"สืบแล้ว ปกติมาก ที่เขามาเมืองหนานเฉิงในคราวนี้ก็เพื่อแสดงดนตรีเท่านั้น เพื่อนฉันหลายๆคนก็รู้จักเขา"

"จืออี้" หลินจื้อหย่วนเอ่ยขึ้น "ถ้าแกอยากมีแฟนพ่อก็จะไม่ห้าม แต่แกควรรู้เอาไว้ว่า คนที่จะมาแต่งงานกับแก ต้องไม่ใช่นักดนตรีธรรมดาๆ"

"ฉันรู้"

"เรื่องหมั้นกับตระกูลโจวฉันก็มีส่วนผิด รู้ทั้งรู้ว่าโจวฉือเซินเป็นคนยังไง ก็ยังจะให้เธอเกี่ยวดองกับเขา"

หลินจืออี้ส่ายหน้า "พ่ออย่าพูดอย่างนี้สิ ฉันดึงดันจะแต่งงานกับเขาให้ได้ต่างหาก ไม่ว่าจะพูดในด้านไหน โจวฉือเซินก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับฉัน"

หลินจื้อหย่วนถอนหายใจออกมา เอ่ยถามอย่างลอยๆว่า "ใช่สิ เมียเก่าของโจวฉือเซินตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?"

หลินจืออี้น่าจะนึกไม่ถึงว่าเขาจะถามแบบนี้ออกมา ถึงได้นิ่งอึ้งไปสักพัก "เธอกับเพื่อนเปิดออฟฟิศร่วมกัน แถมช่วงนี้ยังใกล้ชิดกับโจวฉือเซินเป็นพิเศษ ตอนวันเกิดของฉัน ยังเห็นพวกมากินข้าวด้วยกันอยู่เลย"

หลินจื้อหย่วนเอ่ยเสียงหนัก "พอได้รู้อย่างนี้แล้ว การที่แกไม่ได้แต่งงานกับเขาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ"

หลินจืออี้ไม่ได้พูดอะไรออกมา

หลินจื้อหย่วนเอ่ยพูดขึ้นมาอีกว่า "ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้แกบอกว่า เมียเก่าของโจวฉือเซินเคยถูกขายให้มู่สื้อคลับ ครอบครัวเธอไม่มีเงินเหรอ?"

"เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้ทำความเข้าใจ แต่ดูท่าแล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้น"

"งั้นในครอบครัวของเธอยังมีใครอีกไหม?"

"ดูเหมือนจะมีน้องชายคนหนึ่ง ส่วนที่เหลือฉันไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่" หลินจืออี้เอ่ยพูด "พ่อถามทำไมคะ?"

หลินจื้อหย่วนเก็บสีหน้า "เปล่า ฉันก็แค่สงสัยว่าเธอเป็นคนยังไง ถึงสามารถครองตำแหน่งในใจของคนอย่างโจวฉือเซินได้ก็เท่านั้น"

ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของหลินจืออี้ก็เย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ

"นั่นสิ เมื่อก่อนฉันเองก็ประเมินเธอต่ำไปเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงไม่เป็นแบบนี้หรอก"

หลินจื้อหย่วนเอ่ยพูด "จืออี้ เรื่องนี้โจวฉือเซินเป็นคนทำผิดต่อแก ถ้าแกรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ระบายมันออกมาก็ได้ไม่เป็นไรหรอก"

"ความหมายของพ่อก็คือ....."

"ไม่ว่าแกจะทำอะไร พ่อก็จะคอยช่วยอยู่ข้างๆ ฉันเชื่อว่าทางตระกูลโจวไม่คัดค้านแน่นอน"

"ขอบคุณค่ะพ่อ"

หลินจื้อหย่วนลุกขึ้น ขณะที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องหนังสือ จู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หันกลับมาเอ่ยถามว่า "จืออี้ ที่แกเคยบอกว่าสร้อยคอเส้นนั้นออกแบบมาให้แกโดยเฉพาะ คงไม่ใช่ฝีมือของเมียเก่าโจวฉือเซินหรอกใช่ไหม?"

หลินจืออี้นิ่งไปครู่ใหญ่ถึงได้ยกยิ้มออกมา "พ่อถามอย่างนี้....."

"ฉันก็แค่ถามไปงั้น ไม่มีอะไรหรอก แกไปนอนเถอะ"

ปฏิกิริยาของเธออธิบายคำตอบทุกอย่างชัดเจน

หลังจากที่กลับมาถึงห้อง หลินจื้อหย่วนก็ล็อกประตู เดินมาหยุดตรงตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็เปิดช่องที่ซ่อนเอาไว้อยู่ออก แล้วหยิบลังกล่องหนึ่งออกมา

ภายในนั้นเป็นเอกสารที่เปลี่ยนสีแล้ว ข้างล่างเอกสารเป็นนาฬิกาพกพาที่ถูกไฟคลอกจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมวางอยู่

เขาหยิบนาฬิกาพกเรือนนั้นออกมามองเป็นเวลานาน

ผ่านไปครู่ใหญ่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

เมื่อหลินจื้อหย่วนรับสาย เสียงของลูกน้องก็ดังขึ้นมา "คุณท่าน ผมสืบมาแล้ว หร่วนซิงหว่านกับหร่วนเฉินมีพ่อแค่คนเดียว แต่ว่าพ่อของพวกเขาติดการพนัน เข้าบ่อนพนันเป็นว่าเล่น พอเงินหมดก็กู้ หลังจากที่ติดหนี้เงินกู้ เขาก็เอาหร่วนซิงหว่านไปขายให้มู้สื้อคลับ"

"แล้วแม่ของพวกเขาล่ะ?"

"ตรงนี้ผมสืบอะไรไม่ได้เลย เหมือนแม่ของพวกเขาจะเสียไปตอนคลอดหร่วนเฉินครับ"

หลินจื้อหย่วนถามขึ้นมาอีกหน "แม่ของพวกเขาชื่อว่าอะไร?"

......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย