สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 201

หร่วนซิงหว่านเอ่ยพูดขึ้นมาอีกว่า "แน่ใจนะว่าครึ่งเดือนก่อน?"

ไม่รอให้เด็กหญิงตอบกลับ หญิงวัยกลางคนก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน "เกี่ยวอะไรกับเธอซื้อตอนไหน ถึงยังไงของก็ขายจากร้านพวกแก แค่คืนเงินกับจ่ายค่าชดใช้มาก็หมดเรื่องแล้ว จะพูดมากให้เปลืองน้ำลายทำไม"

หร่วนซิงหว่านมองสร้อยคอที่พังไปแล้วนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น จากนั้นก็เอ่ยถามเด็กหญิงต่อ "งั้นน้องจำได้ไหมว่าใครเป็นคนขายให้ พี่สาวคนเมื่อกี้หรือว่า...."

เด็กสาวเอ่ยตอบในทันที "ใช่ค่ะ พี่คนนั้น"

"แล้วตอนนั้นน้องซื้อไปเท่าไหร่?"

"หนู...หนูจำไม่ได้แล้ว....."

หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ "ถามจบหรือยัง ของราคาแค่ไม่เท่าไหร่ ต้องขนาดนี้เลยเหรอ เปิดร้านใหญ่ขนาดนี้ แกก็คงไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงินหรอกใช่ไหม รีบๆคืนเงินมาซะก็จบๆ"

หร่วนซิงหว่านหัวเราะนิ่งๆ "ถ้าไม่ถามให้รู้ว่าราคาเท่าไร่ แล้วจะคืนเงินให้คุณได้ยังไง?"

หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้น "ไหนๆแกก็ต้องจ่ายค่าทำขวัญกับค่าเสียเวลาให้ฉันแล้ว คิดรวมๆกันก็ได้ แกจะแบ่งยิบย่อยไปทำไม"

"คุณอยากได้เท่าไหร่"

"ไม่มากหรอก สักสองสามหมื่น"

หร่วนซิงหว่านหลุดขำออกมา "สองสามหมื่น?"

หญิงวัยกลางคนพูดขึ้น "เงินแค่นี้ไม่มากหรอก ลูกสาวของฉันยังเรียนอยู่ วันนี้ไม่ใช่แค่เสียเวลาเรียนของเธออย่างเดียวถ้าเกิดกลับไปแล้วเธอเรียนไม่ทัน สอบเข้ามหาลัยดังๆไม่ติด หางานดีๆไม่ได้ แบบนั้นก็เสียหายหลายแสนน่ะสิ เงินที่ฉันขอกับแกไปถือว่าน้อยมากๆแล้วนะ"

"ได้สิ"

หร่วนซิงหว่านพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมา

ในตอนที่หญิงวัยกลางคนกำลังยื่นคิวอาร์โค้ดให้สแกนด้วยใบหน้าลำพองใจ กลับพบว่าหร่วนซิงหว่านกำลังกดโทรหาตำรวจ

"นี่ แก...."หญิงวัยกลางคนมีท่าทีร้อนรนขึ้นมา "ถ้าแกคิดว่าราคามันสูงเกินไป เรามาเจรจากันใหม่ก็ได้ ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าเรื่องถึงตำรวจ ฉันไม่จบง่ายๆแน่ ที่จะเสียคือชื่อเสียงของแกนะ"

หร่วนซิงหว่านไม่สนใจเธอ เล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจในสายฟังคร่าวๆ

หลังจากที่วางสาย เธอก็หยิบสร้อยคอขึ้นมา เอ่ยพูดอย่างเรียบนิ่งว่า "ข้อแรก สร้อยเส้นนี้ถูกออกแบบมาประมาณสิบกว่าวัน วางขายในร้านอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ ข้อสอง ผู้หญิงที่ถูกคุณผลักเมื่อกี้ ลาหยุดไปเมื่อหลายวันที่ผ่านมา เพิ่งกลับมาทำงานเมื่อวาน"

เมื่อหญิงวัยกลางคนเห็นว่าแผนมีรอยรั่ว ก็เริ่มโวยวายออกมา "ฉันไม่สนเรื่องพวกนี้หรอกนะ ฉันรู้แค่ว่าของซื้อมาจากร้านพวกแก และแกก็ต้องชดใช้ให้ฉัน!"

หร่วนซิงหว่านเอ่ยพูด "ฉันไม่รีบค่ะ มีเรื่องอะไรค่อยไปคุยกันที่สถานีตำรวจ"

หญิงวัยกลางคนหันไปตะคอกด่าเด็กหญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ"ไม่ได้เรื่อง ทำไมไม่รู้ว่าตัวเองซื้อตอนไหน"

ขณะที่พูด ก็ออกแรงจิ้มหัวของเธอไปด้วย "ไม่แปลกใจทำไมแกทำคะแนนได้ไม่ดี ในสมองมีแต่ขี้เลื่อยล่ะสิท่า ถ้าตำรวจมา แกต้องพูดมันออกมาให้หมด!!"

เด็กหญิงยืนอยู่กับที่ ก้มหน้าลงเงียบๆ ปล่อยให้ผู้เป็นแม่ทั้งด่าทั้งตี

หร่วนซิงหว่านเพิ่งสังเกตเห็นว่า เสื้อนักเรียนของเด็กหญิงขาวซีด ทั้งๆที่เป็นหน้าหนาว แต่ภายใต้ชุดนักเรียนบางๆเธอกลับสวมแค่เสื้อไหมพรมตัวเดียว รองเท้าที่ใส่ก็เป็นรองเท้าผ้าใบเก่าๆธรรมดา ทว่ากลับดูสะอาดสะอ้าน แตกต่างจากผู้เป็นแม่ ซึ่งรูปร่างอ้วนอวบ ใส่เสื้อขนมิงค์อย่างสิ้นเชิง

เด็กแบบนี้ ไม่น่าจะรักสวยรักงามอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนต้องขโมยเงินพ่อแม่มาซื้อเครื่องประดับแน่นอน

จริงๆแล้วถ้าลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่า ในคำพูดของพวกเธอ เต็มไปด้วยพิรุธ

แต่หร่วนซิงหว่านไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกเธอต้องโกหกด้วย

แถมยังแต่งเรื่องขึ้นมาให้โดนจับได้ว่าโกหกอย่างง่ายดาย

ไม่นานหลังจากนั้น เพ้ยซานซานก็กลับมา เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เธอก็ดึงหร่วนซิงหว่านมาอยู่ข้างๆ "ซิงซิง นี่มันอะไรกัน?"

หร่วนซิงหว่านอธิบายให้เธอฟังคร่าวๆ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ซานซาน อีกสักพักฉันต้องไปสถานีตำรวจ ถ้าที่ร้านไม่มีงานอะไรแล้ว จะปิดร้านแล้วไปเยี่ยมถิงถิงที่โรงพยาบาลก็ได้นะ"

"ได้ งั้นฉันบอกให้เสี่ยวเฉินตามไปแล้วกัน ไม่งั้นถ้าแกไปคนเดียว...." เพ้ยซานซานพูดพร้อมกับหันไปมองหญิงวัยกลางคน จากนั้นก็จิ๊ปาก "คงสู้ไม่ไหว"

หร่วนซิงหว่านยิ้มออกมา "แค่ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ไม่ได้ทะเลาะกันสักหน่อย สู้ไม่ไหวอะไรของแก ส่วนเสี่ยวเฉินช่วงนี้กำลังสอบปลายภาค แกอย่าบอกเขาเลย"

เพ้ยซานซานได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า "ก็ได้ งั้นแกก็ระวังตัวด้วย รอฉันเสร็จธุระทางนี้ แล้วเดี๋ยวไปรับที่สถานีตำรวจ"

ไม่นานหลังจากนั้น ตำรวจก็มาถึง

เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ หญิงวัยกลางคนเปลี่ยนท่าทางจากหยิ่งยโส เป็นท่าทางอับจนและน่าสงสาร

คราวนี้เธอไม่ได้ให้ลูกสาวพูด อ้างว่าลูกสาวกำลังตกใจ

หร่วนซิงหว่านเล่าเรื่องราวและหลักฐานให้ตำรวจฟัง หญิงวัยกลางคนตะโกนขัดขึ้นมาว่า "พวกฉันเป็นเจ้าทุกข์ ไม่ใช่คนทำผิด ยังจะถามอะไรนักหนา ลูกสาวของฉันกำลังจะสอบเข้ามหาลัย มาทำให้เธอเสียเวลาเรียนหนังสือแบบนี้ พวกคุณจะรับผิดชอบไหม?"

เจตนาของตำรวจก็คือให้พวกเธอไปตกลงกันดีๆ อีกอย่างสินค้าก็ซื้อมาจากร้านของหร่วนซิงหว่านจริงๆ สองสามร้อยก็ไม่ถือว่าแพง เอาให้เธอซะก็จบเรื่อง ถือเสียว่าเสียเงินซื้อความบริสุทธิ์ก็ยังได้

หร่วนซิงหว่านเม้มริมฝีปาก ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

แต่ในตอนที่เธอเห็นว่าหญิงวัยกลางคนเอาแต่ดุด่าและผลักหัวของเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่หยุด จู่ๆเธอก็จับสังเกตอะไรบางอย่างได้

เด็กผู้หญิงคนนั้น ก็แค่ทำตามคำสั่ง

ไม่มีใครอยากเจอพ่อแม่แบบนี้หรอก

สุดท้าย หร่วนซิงหว่านก็ให้เงินหญิงวัยกลางคนไปหนึ่งพัน เอ่ยพูดนิ่งๆว่า "เงินที่เหลือ เอาไปซื้อเสื้อผ้าหนาๆให้ลูกสาวคุณใส่บ้าง"

ได้ยินคำพูดนี้ เด็กหญิงก็เงยหน้าขึ้นมา ในดวงตาที่เอาแต่หลบตาคนอื่นจนเป็นนิสัย ทอแววประหลาดใจอย่างอดไม่ได้

ทว่าหญิงวัยกลางคนกลับพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ "แค่นี้เนี่ยนะ? แกเห็นฉันเป็นขอทานหรือไง!ที่ฉันต้องการคือ....."

ตำรวจเอ่ยขัดขึ้นมาว่า "พอได้แล้ว ลูกสาวคุณยังต้องเรียนอยู่ไม่ใช่เหรอ รีบพาเธอไปส่งที่โรงเรียนได้แล้ว"

หญิงวัยกลางคนไม่มีทางเลือก

ในตอนที่เดินมาถึงหน้าประตู เธอก็เอ่ยพูดกับหร่วนซิงหว่านเสียงเย็นว่า "เรื่องนี้มันไม่จบง่ายๆหรอกนะ!ฝากไว้ก่อนเถอะ!"

หลังจากที่หญิงวัยกลางคนลากเด็กหญิงออกไป หร่วนซิงหว่านเองก็เตรียมเรียกแท็กซี่กลับ ขณะนั้นก็มีพอร์เชอคันสีดำขับมาจอดตรงหน้าเธอ

เฉิงเว่ยลงมาจากรถด้วยท่าทางร้อนใจ "ซิงหว่าน เป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? พอได้รับโทรศัพท์จากซานซานฉันก็รีบมาที่นี่เลย ฉันมาสายไปหรือเปล่า?"

หร่วนซิงหว่านส่ายหน้า "ไม่เป็นไร ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว"

เฉิงเว่ยมองไปรอบๆ "อีกคนไปแล้วเหรอ"

"ไปแล้ว" หร่วนซิงหว่านพูดขึ้นมาอีกว่า "เวลานี้นายควรอยู่ที่บริษัทสิ ออกมาทั้งแบบนี้จะไม่เป็นอะไรเหรอ?"

"ช่วงนี้ที่บริษัทไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ ฉันออกมาข้างนอกได้ปกติ"

เฉิงเว่ยพูดพร้อมกับกระแอมไอ "ซิงหว่าน ถ้าเธอไม่มีธุระอะไร ไปที่ที่หนึ่งกับฉันหน่อยได้ไหม?"

เขาอุตส่าห์ขับรถมาแต่ไกลเพื่อมาหาเธอ ก่อนหน้านี้ก็ช่วยเธอเอาไว้หลายครั้ง หร่วนซิงหว่านจึงไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธอีกฝ่าย เธอพยักหน้าพร้อมพูดว่า "ได้สิ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย