สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 205

เมื่อกลับมาถึงบ้าน หร่วนซิงหว่านก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อย

เพ้ยซานซานมากส์หน้าเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ "กลับมาดึกขนาดนี้ ไปกินข้าวกับเฉิ่งเว่ยมาล่ะสิท่า"

หร่วนซิงหว่านตอบอืมอย่างอ่อนแรง "เจอโจวฉือเซินด้วย"

เพ้ยซานซาน "......."

เธอนั่งลงข้างหร่วนซิงหว่าน เอ่ยถามอย่างแปลกใจ "เจออีกแล้ว? พรหมลิขิตเฮงซวยอะไรเนี่ย!"

หร่วนซิงหว่านหัวเราะออกมาแกนๆ ไม่อยากพูดอะไรต่อ

เพ้ยซานซานจับแผ่นมากส์บนหน้า "ถ้าให้พูดฉันว่าแกสองคนนี่มันคู่บุพเพอาละวาดจริงๆ คบกันก็ไม่ได้ ตัดกันก็ไม่ขาด น่าหงุดหงิดสุดๆ"

ดวงตาสองคู่ของหร่วนซิงหว่านมองไปยังเบื้องหน้าอย่างไร้ชีวิตชีวา สักพักก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ถิงถิงเป็นยังไงบ้าง?"

"หมอตรวจดูแล้ว แผลแค่ถากๆ ฉันส่งยาไปให้เธอแล้วล่ะ แล้วก็ให้เธอหยุดสองวันด้วย เธอจะได้พักผ่อน"

หร่วนซิงหว่านพยักหน้า "เธอคงจะตกใจไม่เบา พรุ่งนี้หลังเลิกงาน เราไปเยี่ยมเธอที่บ้านกันไหม"

"ได้" เพ้ยซานซานเอ่ยขึ้นมาอีกว่า "ฉันว่า วันนี้สองแม่ลูกนั่นจงใจมาสร้างความวุ่นวาย ปีนี้เจอมาทุกเรื่องจริงๆ สมัยนี้มิจฉาชีพเรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้เจอแค่บนถนนนะ ขนาดในร้านก็ยังเจอ เห็นว่าเราบีบง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง"

หร่วนซิงหว่านคิดอยู่สักพักถึงได้เอ่ยขึ้นมา "เด็กผู้หญิงคนนั้น น่าจะถูกแม่บังคับ"

"ฉันก็ดูออก แม่ของเธอดุอย่างกับเสือ ใครได้เจอคนนั้นมีแต่ซวยกับซวย" เพ้ยซานซานหันกลับมา จึงพบว่าหร่วนซิงหว่านกำลังเหม่อ และรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร จึงตบบ่าเธอแล้วเอ่ยขึ้น "เอาน่าซิงซิง เรื่องมันผ่านไปแล้ว แกอย่าไปคิดอีกเลย เราทำตัวเราให้ดีก็พอ ไม่ต้องไปสนใจใครหรอก"

ห่วนซิงหว่านดึงความคิดกลับมา หันมายิ้มให้อีกฝ่าย "รู้แล้ว ไปนอนเถอะ"

......

เช้าวันต่อมา ในตอนที่หร่วนซิงหว่านมาถึงสตูดิโอ พบว่าบริเวณหน้าประตูมีขยะกองพะเนินอยู่มากมาย ทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว

เพ้ยซานซานจอดรถเสร็จ เดินมาก็เจอภาพเบื้องหน้า สบถด่าออกมาอย่างทนไม่ไหวว่า "ให้ตาย ใครมันมาทำตัวสถุลแถวนี้?"

หร่วนซิงหว่านเม้มปาก หาอุปกรณ์มาทำความสะอาดขยะหน้าประตู

เพ้ยซานซานบ่นไปเก็บไป "ยัยแม่ประสาทเสียคนเมื่อวานหรือเปล่า? ฉันเดาว่าต้องเป็นเธอ ท่าทางอำมหิตขนาดนั้น"

หร่วนซิงหว่านเอ่ยขึ้น "เธอไม่น่าจะหยุดแค่นี้ ช่วงนี้คงต้องระวังตัวหน่อย"

"ไม่ต้องห่วง ฉันจะเรียกใช้บริการด่วนซื้อกล้องวงจรปิดเพิ่มหลายๆตัวมาติดทุกซอกทุกมุมเลย เธอมาเมื่อไหร่จะได้ดึงภาพเอาไปแจ้งตำรวจ "

ถิงถิงไม่มา ในสตูดิโอจึงมีแค่เพ้ยซานซานกับพนักงานอีกคน โชคดีที่ทุกอย่างยังคงสงบอยู่ แต่ก็ยังมีบางอย่างแปลกไปไม่เหมือนเดิม

ปกติจำนวนลูกค้าที่เข้ามาในร้านมีไม่น้อย แม้ว่าจะเข้ามาดูเฉยๆไม่ได้ซื้อก็ตาม แต่ว่าตลอดช่วงเช้ากลับมีมาแค่สองคน

ไม่ต้องคิดเพ้ยซานซานก็พอจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือยังแม่ประสาทเสียคนนั้น ในตอนที่เธอกำลังจะออกไปข้างนอก ก็ถูกหร่วนซิงหว่านจับเอาไว้

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้น "อย่าเพิ่งไปยุ่งกับเธอ ดูไปก่อนว่าเธอคิดจะทำอะไรกันแน่"

เพ้ยซานซานเอ่ยพูด "แกกำลังสงสัย...."

"ยังไม่แน่ใจ" หร่วนซิงหว่านมองออกไปข้างนอก "ฉันแค่รู้สึกว่าเรื่องมันแปลกๆ ถึงเธอจะเป็นมิจฉาชีพหลอกเอาเงิน แต่สินค้าก็มาจากร้านของเราจริงๆ เธอไม่มีทางมาหาพวกเราโดยที่ไม่มีมูลสายปลายเหตุอย่างแน่นอน"

"ใช่ ฉันก็รู้สึกว่ามันแปลกเกินไป มันรู้สึกทะแม่งๆ"

หร่วนซิงหว่านเอ่ยพูดช้าๆ "รอไปก่อนแล้วกัน"

หลังพักเที่ยง หร่วนซิงหว่านกำลังจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน ก็ได้ยินเสียงดังอึกทึกมาจากหน้าประตู

หญิงวัยกลางคนเหมือนจะเปลี่ยนวิธี ในตอนนี้กำลังนั่งตะโกนโวยวายตรงหน้าประตูสตูติโอ

"ทุกคนมาดูนังแม่ค้าหน้าเลือดเร็วเข้า ลูกสาวฉันเพิ่งจะสิบเจ็ดปี ยังอยู่แค่ม.ปลาย แม้แต่เด็กนังคนนี้ยังหลอกเอาเงิน สวรรค์ช่างไม่มีตาเสียจริง!"

เธอโวยวาย จนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเริ่มสนใจ แออัดกันอยู่หน้าประตูจนหาทางเข้าไม่ได้

ทุกคนทยอยเข้ามามุงดูเหตุการณ์อย่างไม่สนว่าเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่

หร่วนซิงหว่านยืนอยู่ข้างใน สายตามองไปยังแปลงดอกยิปโซกำลังถูกเหยียบย่ำ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

หญิงสาวอีกคนที่อยู่ในร้านด้วยเห็นเหตุการณ์ก็เริ่มรู้สึกกลัว เอ่ยเสียงเบาขึ้นมาว่า "เราแจ้งตำรวจดีไหมคะ?"

หร่วนซิงหว่านเอ่ยขึ้น "แจ้งไปก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงเธอก็กลับมาเหมือนเดิม"

"งั้นตอนนี้เราจะทำยังไงดี....."

หร่วนซิงหว่านไม่ได้เอ่ยพูด เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงจริงๆ

คนแบบนี้เป็นพวกหน้าเงิน หน้าด้านหน้าทน อยากได้แต่เงิน

อีกอย่างที่เธอทำอย่างนี้ ไม่ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง แจ้งตำรวจไปอย่างมากก็ลงแค่บันทึกประจำวัน

ไม่นาน เหมือนหญิงวัยกลางคนจะตะโกนจนเหนื่อย จึงเอนตัวลงนอนบนพื้นมันทั้งอย่างนั้น ไม่ยอมลุกให้คนเดินเข้าเดินออก ลูกค้าจะเข้าร้านก็ถูกเธอด่าจนเตลิดหนีไป

เพ้ยซานซานโมโหจนแทบจะแทะโต๊ะ

แต่ในเวลาแบบนี้โมโหไปก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้แค่อดทนเอาไว้

วันนี้ต่อให้ไล่เธอออกไป ยังไงวันพรุ่งนี้หรือวันต่อๆไปเธอก็กลับมาอยู่ดี

เวลาผ่านไปทุกวินาที ข้างนอกเริ่มมีแสงแดดจ้าส่องตาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

เมื่อโจวฉือเซินเดินมาถึงประตู ฝีเท้าก็ชะงักกึก หลุบตามองตรงหน้า

หญิงวัยกลางคนได้ยินเสียงเท้า จึงตะคอกด่าออกมาทั้งๆที่ยังหลับตา "ไสหัวไป วันนี้ใครหน้าไหนก็อย่าหวังว่าจะได้เหยียบเข้าไปในร้าน นอกเสียจากว่าจะเหยียบฉันเข้าไป!"

โจวฉือเซินเงยหน้าขึ้นมา แล้วก้าวข้ามอีกฝ่ายไป

"โอ๊ย!" หญิงวัยกลางคนร้องเสียงแหลม พร้อมกับลุกพรวดขึ้นมา "แกเหยียบฉัน!"

โจวฉือเซินทำเป็นไม่ได้ยิน ออกคำสั่งโดยไม่แม้แต่จะหันหน้ามา "จัดการซะ"

หลินหนานรีบเดินเข้าไป "ครับ"

ในสตูดิโอ เมื่อหร่วนซิงหว่านกับเพ้ยซานซานเห็นภาพนี้ ก็รู้สึกทึ่งเป็นอย่างมาก

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บางครั้งบางคราวตาหมาบ้านี่มักจะทำเรื่องเหนือความคาดหมายและน่าเหลือเชื่อ

โบราณว่าเอาไว้ว่า เหนือคนชั่วยังมีคนเลว

ตราบใดที่โจวฉือเซินไม่มีคุณธรรม อะไรก็เอาเขาไม่อยู่ทั้งนั้น

หลินหนานถือว่ามีประสบการณ์จัดการพวกอันธพาล รู้ว่าพูดด้วยก็มีแต่เปลืองน้ำลายเปล่าๆ จึงทำได้แค่ส่งสัญญาณมือให้ด้านหลัง ลูกน้องสองคนก็รุดเข้ามาหิ้วหญิงวัยกลางคนออกไป

หญิงวัยกลางคนหวีดร้องเสียงแหลมพร้อมสบถด่า "พวกแกเป็นใคร!ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!เชื่อไหมว่าฉันจะ...."

ต่อมาหลังจากนั้น ก็ไม่มีเสียงใดๆหลงเหลืออยู่

Williamเดินตามหลังโจวฉือเซินเข้ามาในสตูดิโอ หลังจากนิ่งอึ้งอยู่ชั่วครู่ ก็หลุดขำออกมา "วิธีแก้ไขปัญหาของประธานโจวนี่ได้ผลดีจริงๆนะครับ"

โจวฉือเซินเอ่ยพูดนิ่งๆ "ผมก็แค่ไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่สำคัญ"

ขณะที่พูด สายตาก็ตวัดมองไปทางหร่วนซิงหว่าน "เพราะแรงมีจำกัด"

หร่วนซิงหว่านเกาหัว ลืมเรื่องที่พวกเขาจะมาไปเสียสนิท

เธอเดินมาหยุดอยู่ต่อหน้าพวกเขา ทักทายเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า "สวัสดีค่ะ คุณWilliam ประธานโจว"

Williamยิ้มเล็กน้อย "คุณหร่วนเจอเรื่องเดือดร้อนอีกแล้วเหรอครับ?"

"ไม่ถึงกับเดือดร้อนหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าช่วงนี้เจอแต่พวกอันธพาลบ่อยๆ"

โจวฉือเซิน "......."

เธอว่าใคร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย