บทที่ 39 ฉันไม่เอาอะไรก็ได้
“พูด” เย็นชา และเรียบๆ
หร่วนซิงหว่านจับหูฟังไว้ เลียริมฝีปากก่อนจะเปิดปากพูดอย่างระมัดระวัง “ฉันเพิ่งจะรู้ว่า...........ยากระเพาะของฉันหายไป ไม่รู้ว่าตกอยู่ที่ห้องทำงานของคุณหรือเปล่า............”
“ไม่มี”
หลังจากที่โจวฉือเซินพูดจบ ยังไม่ทันรอเธอเปิดปากพูด และวางสายไปแบบไม่ลังเล
หร่วนซิงหว่าน “...........”
ไม่มีก็ไม่มีสิ ทำไมต้องดุขนาดนั้นด้วย ไอ้ผู้ชายสารเลว
หร่วนซิงหว่านนอนอยู่บนเตียง ถึงแม้ว่าเธอจะตั้งใจบอกว่ากรดโฟลิกเป็นยากระเพาะ แต่ถ้ามันตกอยู่ที่นั้นจริงๆ ด้วยสรรพคุณของกรดโฟลิก ผู้ชายสารเลวคนนั้นต้องเยาะเย้ยความคิดเพ้อฝันของเธออีกแน่ๆ
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ หร่วนซิงหว่าน ก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ตอนกลางคืนก็หลับไม่สนิท วันรุ่งขึ้นก็ตื่นแต่เช้า ไปถามที่ร้านกาแฟและร้านอาหารที่ไปเมื่อวาน ต่างก็บอกว่าไม่เจอ
ก็ได้แต่หวังว่าจะตกอยู่ข้างทาง
ช่วงเย็น หร่วนซิงหว่าน ก็ไม่ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นัดไปดูบ้านหลายหลัง หวังว่าวันนี้จะเจอที่ที่เหมาะสมที่สุดพร้อมทำสัญญาและย้ายออกมา
.............
โจวซื่อกรุ๊ป
โจวฉือเซินเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารกองหนึ่ง มองสัญญากู้ยืมและกรดโฟลิกที่วางอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าที่เย็นชา หัวเราะอย่างเยือกเย็น
ยังบอกว่าเป็นยากระเพาะ
โจวฉือเซิน เม้มปากบางของเขาเล็กน้อย เป็นเวลานานกว่าจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ค้นหาเบอร์โทรที่หร่วนซิงหว่านโทรหาเขาเมื่อวาน แล้วโทรกลับไป
เขาอยากเห็นสีหน้าหร่วนซิงหว่านตอนที่รับกรดโฟลิกขวดนี้คืนต่อหน้าเขา และอยากฟังว่าเธอยังจะหาเหตุผลอะไรใหม่ๆอีก
ฝั่งตรงข้ามรับสาย เสียงอันอ่อนโยนของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น “สวัสดีค่ะ โรงแรมหยุนตุ้นค่ะ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยไหมคะ”
โจวฉือเซินขมวดคิ้วเล็กน้อย โรงแรม
เธอพักบ้านเพื่อนไม่ใช่เหรอ แล้วไปทำอะไรที่โรงแรม
คิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง สีหน้าของโจวฉือเซินเย็นชาทันที ดวงตาของเขาเหมือนมีน้ำค้างแข็งบางๆปกคลุม
วางสายโทรศัพท์ ลุกขึ้นแล้วก้าวออกจากห้องทำงานด้วยขาที่เรียวยาว
เดินไปถึงหน้าประตูก็วนกลับมา หยิบกรดโฟลิกบนโต๊ะใส่ในกระเป๋าเสื้อ
หลินหนานเห็นเขาออกมา รีบตามไปทันที ”ประธานโจว...........”
โจวฉือเซินน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “ไปเซิ่งกวาง”
“รับทราบ”
ขับรถไปได้ครึ่งทาง หลินหนานรับสายสายหนึ่ง สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย “ประธานโจว คนของตระกูลจี้ไปบ้านใหญ่แล้ว ได้ยินมาว่าไปคุยกันเรื่องงานแต่งของคุณชายจี้และคุณหนูอานอาน”
บนใบหน้าอันเย็นชาของโจวฉือเซินมองไม่ออกว่าเขากำลังรู้สึกอะไร ผ่านไปสองสามวินาทีแล้วพูดขึ้นว่า “ กลับ ”
รถโรลส์-รอยซ์เปลี่ยนทิศทาง มุ่งตรงไปยังบ้านใหญ่ตระกูลโจว
……
ครั้งนี้ที่มาตระกูลโจวนอกจากจะมีพ่อแม่ของจี้หวยเจี้ยนและจี้หรันแล้ว ยังมีหลินจืออี้ด้วย
ตระกูลหลินและตระกูลโจวคบกันมาหลายชั่วคน หลินจืออี้อ่อนโยนสงบและมีความรู้ โจงเสียนชอบเธอมาโดยตลอด
หลังจากทักทายผู้ใหญ่แล้ว หลินจืออี้รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้เธออยู่ไม่เหมาะสม จึงกล่าวว่า “คุณลุง คุณป้า ครั้งนี้ฉันซื้อแผ่นเสียงเพลงคลาสสิกมาจากต่างประเทศหลายแผ่นเลย พี่จู้นเหนียนต้องชอบแน่ๆ ฉันไปหยิบมาให้เขา”
โจงเสียนอมยิ้มแล้วพูดว่า ”ไปเถอะ เขาอยู่ในสวนดอกไม้ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว เขาเห็นคุณน่าจะดีใจแน่ๆ”
ความจริงนี่เป็นเรื่องของโจวอานอานและจี้หวยเจี้ยน ตามหลักแล้วโจวอานอานเป็นแค่ลูกของน้องสาวของโจงเสียน ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนนามสกุลเป็นโจว เธอก็ไม่นับว่าเป็นคนในตระกูลโจวอย่างแท้จริง การแต่งงานของเธอควรได้รับการตัดสินใจจากพ่อแม่ของเธอด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย
ไม่เชื่อใจคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ก็เอาตัวเองไม่เคยจะรอด ก็มั่นหน้าให้คนรอบตัวเดือดร้อนต่อไปค่ะซิงซิง...
ใครที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไปอ่านต่อให้จบได้ ในชื่อเรื่อง สามีเก่า....มาขอแต่งงานอีกแล้ว นะคะเป็นเรื่องดียวกันค่ะ...
รออัพเดทตอนต่อไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบทีค่ะ...
รออ่านตอนไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบด้วยค่ะ...
เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่ทำไมลงไม่จบเรื่องคะ ช่วยลงให้จบได้ไหมคะ รอติดตามอยู่นะ...