สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 392

ในตอนที่หร่วนซิงหว่านอาบน้ำเสร็จออกมา แล้วกำลังเช็ดผมอยู่นั้น ก็เห็นโทรศัพท์ที่อยู่บนเตียงกำลังสั่นอยู่พอดี เธอจึงรีบฟุบลงไปบนเตียง แล้วพบว่าโจวฉือเซินเป็นคนโทรเข้ามา

พอโทรศัพท์โทรติดแล้ว น้ำเสียงนุ่มต่ำของชายหนุ่มก็ดังลอยมา "ยังไม่นอนเหรอ?"

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้น "ยังค่ะ"

นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเธอก็พูดขึ้นอีกว่า "นอนไม่หลับค่ะ"

ที่เธอพูดเป็นความจริง วันนี้เกิดเรื่องขึ้นมามากมาย อยากจะนอนก็นอนไม่หลับหรอก

โจวฉือเซินพูดขึ้นว่า "คิดถึงผมจนนอนไม่หลับเลยเหรอ?"

หร่วนซิงหว่าน "......"

เขานี่จำพูดจาปกติได้ไม่กี่ประโยคจริง ๆ

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้น "ด้านคุณเป็นยังไงบ้างคะ"

โจวฉือเซินพูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า "เพิ่งประชุมกรรมการบริษัทจบ วางใจเถอะ พวกเขาทำอะไรผมไม่ได้หรอก"

"แต่ว่าเรื่องราวมันใหญ่โตขึ้นมาขนาดนี้แล้ว ทางตระกูลโจว......"

"นี่มันเป็นการกระทำที่พวกเขามั่นใจมากอยู่แล้ว และพวกเขาก็เป็นคนสร้างเรื่องให้มันใหญ่โตขึ้นมาเองกับมือ"

พอได้ยินแบบนี้ หร่วนซิงหว่านก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง "ตระกูลโจวเป็นคนทำเหรอคะ? แต่ว่าเรื่องอัดเสียง เวินเฉี่ยนน่าจะเป็นคนทำนะคะ"

พอได้ยินคำตอบนี้ของเธอ โจวฉือเซินกลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจ และพูดแต่เพียงว่า "งั้นหล่อนก็ฉลาดมากเลยนี่ ยังรู้จักหาคนมาเป็นแพะรับบาปแทนด้วย"

"ความหมายของคุณคือ เวินเฉี่ยนเป็นคนอัดเสียง แต่ว่าหล่อนกลัวขัดใจคุณ ก็เลยไปหาตระกูลโจวเหรอคะ?"

โลกภายนอกต่างก็รู้ ว่าดูภายนอกแล้วท่านใหญ่โจวกับโจวฉือเซินเป็นพ่อลูกกัน แต่ว่าลับหลังนั้น กลับต่างก็เป็นศัตรูที่จ้องจะทำร้ายซึ่งกันและกันอยู่ โดยเฉพาะท่านใหญ่โจว หลังจากที่ผ่านการทดลองมาหลายวิธีแล้วก็ล้มเหลว ตอนนี้ก็เลยยิ่งอยากจะคิดหาทุกวิถีทางมาจับจุดอ่อนของโจวฉือเซินไว้ให้ได้

เวินเฉี่ยนฉลาดมากจริง ๆ แต่ก็กล้าเกินไปหน่อยแล้วมั้ง ถึงได้กล้าเอาความคาดหวังอยู่ที่ตัวท่านใหญ่โจวได้

หร่วนซิงหว่านเงียบไปครู่หนึ่งแล้วก็พูดขึ้นอีกว่า "ในเมื่อตอนนี้ก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนสร้างเรื่องทุกอย่างนี้อยู่เบื้องหลัง งั้นพวกเราควรจะตอบกลับยังไงคะ"

"ไม่ต้องรีบร้อน" โจวฉือเซินพูดขึ้นช้า ๆ "รออีกสักสองวัน"

"ได้ค่ะ"

ถ้าหากเธอเดาไม่ผิดละก็ โจวฉือเซินอยากจะใช้เรื่องนี้ มาทำอะไรสักหน่อยแน่

โจวฉือเซินถามขึ้น "หลินจื้อหย่วนมาหาคุณหรือยัง"

"ยังค่ะ"

"รอไปเถอะ อย่างมากก็พรุ่งนี้เช้า"

หร่วนซิงหว่านพยักหน้า เธอเองก็รู้สึกว่า ผ่านการหมักหมมของคืนนี้ไป คืนพรุ่งนี้จะต้องรุนแรงมากกว่านี้แน่

หลินจื้อหย่วนอยากจะจบเรื่องก่อนที่เรื่องจะวุ่นวายใหญ่โตไปกว่านี้ อยากจะทำให้ผลกระทบลดต่ำลงที่สุด ถ้าอย่างงั้นอย่างมากสุดเขาก็จะรอจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้นอีกว่า "คุณยังอยู่ที่บริษัทเหรอคะ?"

โจวฉือเซินตอบอืมไปคำหนึ่ง "วันนี้เสียเวลาไปมาก มีงานเยอะแยะที่ยังไม่ได้จัดการ"

"งั้นจะต้องอดนอนทำโอทีแล้วเหรอคะ?"

"คุณมาอยู่เป็นเพื่อนผมไหมล่ะ?"

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้น "อยู่ ๆ ฉันก็ง่วงนอนขึ้นมาแล้ว บายบายนะคะ"

พอวางโทรศัพท์แล้ว หร่วนซิงหว่านก็นอนคว่ำอยู่บนเตียงไปพักหนึ่ง แล้วก็เข้าไปในห้องน้ำแล้วเปล่าผมจนแห้ง

หร่วนซิงหว่านมองดูเวลา เป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว ถ้าเธอจะออกไปตอนนี้ก็คงจะเป็นไปไม่ได้

แต่ว่า......อิตาบ้านี่มีนิสัยถ้างานยุ่งขึ้นมาก็จะไม่ชอบกินข้าวนี่ซิ

หร่วนซิงหว่านนอนอยู่บนเตียง แล้วสั่งอาหารเดลิเวอรี่ส่งไปให้เขาชุดหนึ่ง

พอสั่งไปแล้ว เธอก็นึกถึงหลินหนานที่เป็นผู้ช่วยของเขา ก็ต้องมาลำบากทั้งวันเหมือนกัน ก็เลยสั่งให้หลินหนานอีกชุดด้วย

พอสั่งเดลิเวอรี่เสร็จ หร่วนซิงหว่านก็เปิดเวยป๋อขึ้นมา หัวข้อสนทนาที่เกี่ยวกับหร่วนเฉินยังคงพุ่งสูงขึ้นไม่หยุด ส่วนที่ด่าหลินจืออี้ก็ยังไม่ได้ลดน้อยลงไปเหมือนกัน

ดูท่าคืนนี้คนที่นอนไม่หลับจะมีอยู่เยอะเหมือนกัน

จากค่ำคืนที่ยิ่งมืดมิดลงไปเรื่อย ๆ รอบด้านก็ยิ่งเงียบสงบลงมา บางครั้งก็สามารถได้ยินเสียงลมพัดต้นไม้จนใบไม้ไหวดังวิ้ว ๆ ขึ้นมา

ผ่านไปไม่นาน เสียงฝนที่อื้ออึงก็ดังลอยมา

อุณหภูมิในห้องก็ลดลงไปไม่น้อย

หร่วนซิงหว่านจ้องมองความมืดที่หนักหน่วงนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ก็นึกถึงคืนที่เซ่หรงมาปรากฏตัวที่สำนักงานของเธอโดยมีเลือดเต็มตัวไปหมด แล้วก็......ลุงเวินที่นอนอยู่ในห้องดับจิตโดยที่ไม่มีใครไปรับศพขึ้นมาอีกแล้ว

พอผ่านไปนาน เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ทีหนึ่ง ครั้งนี้เธอไม่ได้ติดค้างอะไรพวกเขาอีกแล้ว เพราะฉะนั้นเธอจะไม่มีทางออมมือให้อีกแล้ว

......

และค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำนี้ ถูกกำหนดมาแล้วว่าไม่มีทางสงบลงได้แน่

ตั้งแต่ที่ส่งปากกาบันทึกเสียงไปให้ตระกูลโจวแล้ว เวินเฉี่ยนก็สังเกตข่าวคราวในอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอด พอให้เสียงที่อัดไว้โดนปล่อยออกมา เธอก็แอบโล่งอกได้เปลาะหนึ่ง แล้วก็จะได้รับความพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาขนาดนี้ และลากโจวซื่อกรุ๊ปเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายจัดงานหรือว่าโจวซื่อกรุ๊ป ถ้าไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะต้องบอกว่าเนื้อหาในเสียงที่อัดไว้ไม่เป็นความจริง เมื่อเป็นแบบนี้ โอกาสที่จะได้จัดงานพิเศษโดยเฉพาะของแบรนด์ของหร่วนซิงหว่านก็จะต้องหายไปแน่

แต่เวินเฉี่ยนรอมาทั้งคืน ก็ไม่เห็นโจวซื่อกรุ๊ปและฝ่ายจัดงานออกมาชี้แจงอะไร แล้วสิ่งที่รอได้กลับเป็นข่าวที่หลินจืออี้เกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว

ในตอนที่เห็นเรื่องของหลินจืออี้ค่อย ๆ ล้ำหน้าเรื่องของหร่วนซิงหว่านนั้น เธอก็ค่อย ๆ ร้อนรนขึ้นมา

แล้วก็ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา พอมองเห็นเบอร์แปลก ๆ บนโทรศัพท์ เวินเฉี่ยนก็นึกว่าเซ่หรงเป็นคนโทรมา และก็เหมือนกับว่าได้เจอที่พึ่งสุดท้ายแล้ว จึงรีบกดรับสายขึ้น "พี่เซ่ ฉัน......"

"แค่ไม่นานก็เริ่มเรียกฉันว่าพี่แล้วเหรอ?"

พอได้ยินเสียงคลุมเครือของผู้ชายในโทรศัพท์ หัวคิ้วของเวินเฉี่ยนก็ขมวดขึ้นทีหนึ่ง "ทำไมถึงได้เป็นนายได้"

หลี่เฟิงพูดขึ้นว่า "ทำไมถึงเป็นฉันไม่ได้ล่ะ ฉันให้เธอมาหาฉันที่โรงแรม ทำไมเธอไม่มา?"

เวินเฉี่ยนพูดขึ้น "นายนี่โรคจิตหรือเปล่า สิ่งที่ควรให้นายก็ให้นายไปหมดแล้ว ทำไมฉันจะต้องไปด้วย?"

หลี่เฟิงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา "เธอพูดอย่างนี้ก็ดูห่างเหินกันเกินไปแล้วนะ อะไรคือสิ่งที่ควรจะให้ฉันก็ให้มาหมดแล้ว? สิ่งที่ฉันอยากได้มากที่สุด ฉันยังไม่ได้เลย ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้งหนึ่งนะ ตอนนี้มาหาฉันที่โรงแรม ไม่งั้นอย่ามาโทษฉันว่าปล่อยเรื่องชั่ว ๆ ของเธอออกไปจนหมดล่ะ"

มือที่ถือโทรศัพท์อยู่ของเวินเฉี่ยนกำเข้าหากันแน่น และก็อดกลั้นความโกรธเอาไว้แล้วถามออกไปว่า "ฉันมีเรื่องชั่ว ๆ อะไร?"

"โอ้โห เราเพิ่งจะร่วมมือกันเสร็จเองนะ เธอลืมไปเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?" หลี่เฟิงพูดขึ้นอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน "เธอลืมไปแล้วก็ไม่เป็นไร ฉันไม่รังเกียจที่จะเตือนเธอหรอกนะ"

"ไม่ต้อง!" เวินเฉี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง "นายก็พูดแล้วว่าเป็นการร่วมมือกัน งั้นนายได้เงินไปแล้ว ก็ควรจะหุบปากลงได้แล้วใช่ไหม?"

"ใช่ ใช่ ใช่ เธอพูดไม่ผิดหรอก ฉันได้เงินไปแล้วก็ควรจะหุบปาก แต่ว่าเงินที่ฉันได้ก็เป็นแค่เงินที่ฉันช่วยเธอทำการโกง แต่สำหรับเรื่องที่เธอติดสินบนกรรมการสองคนเพื่อให้ได้เป็นแชมป์นั้น ฉันยังไม่ได้สักแดงเดียวเลยนะ"

เวินเฉี่ยนพูดเสียงเย็นขึ้น "ฉันไม่ได้เป็นคนติดสินบนกรรมการ คือจ้าว......"

หลี่เฟิงพูดขึ้น "นั่นก็เป็นเพราะว่าติดสินบนเพื่อเธอไม่ใช่เหรอ สุดท้ายแล้วคนที่ได้แชมป์คือเธอ ไม่ใช่ฉัน และไม่ใช่คุณจ้าว เธอว่ามันเป็นเหตุผลนี้หรือเปล่าล่ะ?"

"ตอนนี้นายจะเอาเรื่องนี้มาข่มขู่ฉันเหรอ?"

"ฉันจะไปข่มขู่เธอได้ยังไงกัน ฉันเคยพูดไว้ตั้งนานแล้วไง ว่าเราเป็นคนประเภทเดียวกันเท่านั้น ถึงได้อยากพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเธอให้ลึกซึ้งกว่านี้หน่อยเท่านั้น" แล้วหลี่เฟิงก็พูดขึ้นอีกว่า "ที่อยู่ของโรงแรมและหมายเลขห้องได้ส่งไปในโทรศัพท์เธอแล้ว ถ้าเธอไม่ปรากฏตัวมาภายในอีกหนึ่งชั่วโมงละก็......"

พูดแล้ว หลี่เฟิงก็พูดเองเออเองขึ้นว่า "ตอนนี้เรื่องที่เกี่ยวกับการประกวดกำลังดังในอินเทอร์เน็ต น่าจะมีสื่อมากมายที่อยากซื้อข่าวจากวงในด้วยราคาสูงแน่ ดูท่าฉันคงจะได้เงินก้อนโตอีกแล้ว"

เวินเฉี่ยนกัดฟันกรอก นิ้วมือกดลงบนหน้าจออย่างแรง แล้วก็วางสายไป

เธอยืนอยู่กับที่ไปหลายนาที แล้วก็โทรหาเบอร์ของเซ่หรงอีก แต่ว่าสิ่งที่แสดงอยู่ก็ยังเป็นสถานะปิดเครื่อง

เวินเฉี่ยนกำหมัดไว้แน่น พอเห็นมีดปอกผลไม้ที่อยู่บนโต๊ะ ก็หยิบขึ้นมาแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าด้วย แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกจากบ้านไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย