สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 393

ช่วงหลังเที่ยงคืน ฝนยิ่งตกก็ยิ่งหนัก เวินเฉี่ยนมองดูข่าวในโซเชียล แล้วก็ยิ่งกลุ้มใจจนไม่รู้จะกลุ้มยังไงแล้ว

พอรถจอดลงที่หน้าประตูโรงแรม เธอก็รีบถือร่มไว้แล้วก็วิ่งเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

ตลอดทางเธอใช้ร่มบังหน้าทั้งหน้าไว้ตลอด แม้แต่อยู่ในลิฟต์ก็ยังไม่เก็บร่ม

พอมายืนอยู่หน้าประตูห้องที่หลี่เฟิงส่งเลขมาให้เธอ เวินเฉี่ยนก็ยื่นมือไปกดกริ่งประตูเล็กน้อย

ไม่นานประตูห้องก็เปิดออก หลี่เฟิงใช้แค่ผ้าขนหนูพันช่วงล่างเอาไว้เท่านั้น ในตอนที่เห็นเธอ ก็พูดอย่างมีความหมายแอบแฝงขึ้นว่า"ไม่เลวเลยนี่ มาได้รวดเร็วดี"

เวินเฉี่ยนจ้องมองเขาอย่างเย็นชา "ตกลงนายอยากจะทำอะไรกันแน่"

หลี่เฟิงประเมินดูเธอทีหนึ่ง "เข้ามาก่อนค่อยว่ากัน ยืนอยู่อย่างนี้มันน่าเบื่อจะตาย"

พอเข้ามาในห้องแล้ว เวินเฉี่ยนถึงพับร่มเก็บแล้วเอาไปวางไว้ที่มุมห้อง

หลี่เฟิงเดินไปทางตู้เก็บเหล้าแล้วก็พูดไปด้วยว่า "นั่งซิ"

สายตาของเวินเฉี่ยนมองตามเขาไป แล้วนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก

พอผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่เฟิงก็ถือไวน์แดงออกมาสองแก้ว แล้ววางแก้วหนึ่งลงตรงหน้าเวินเฉี่ยน "ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็ต้องยินดีกับเธอที่ได้เป็นแชมป์ในการแข่งขัน"

หลี่เฟิงพูดไปด้วย แล้วก็ช่วยเธอยกแก้วเหล้าขึ้นมาด้วย

เวินเฉี่ยนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย พยายามสะกดกลั้นความสะอิดสะเอียนและความรังเกียจ แล้วอยู่ภายใต้การมองของหลี่เฟิง ก็เลยจิบไปคำหนึ่ง

หลี่เฟิงจ้องมองดูเธอ ท่าทางพึงพอใจเป็นอย่างมาก

เวินเฉี่ยนวางแก้วเหล้าลง "นายอยากได้เงินเท่าไหร่ พูดมาได้เลย ฉันจะคิดหาทางหามาให้นายเอง"

"No No No" หลี่เฟิงเหงนหน้าดื่มไวน์แดงในแก้วไป แล้วนั่งลงข้าง ๆ เวินเฉี่ยน "ถ้าอยากได้เงิน ฉันก็ไม่มาหาเธอหรอก คุณจ้าวมีเงินถมเถไป ที่ฉันมาหาเธอ ก็ต้องมาคุยเรื่องส่วนตัวของเรากันสักหน่อยอยู่แล้ว"

พูดแล้ว มือของเขาก็ไปวางลงบนน่องของเวินเฉี่ยน

เวินเฉี่ยนลุกพรวดขึ้นมา "นี่นายมีมารยาทหน่อยนะ!"

หลี่เฟิงหัวเราะฮา ฮา เสียงดังขึ้นมา แต่แล้วก็รีบเปลี่ยนท่าทีไปอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยสีหน้าเย็นชาขึ้นว่า "เธอมาถึงห้องฉันแล้ว ยังจะมาคุยเรื่องมีมารยาทอะไรกับฉันอีก?"

"ที่ฉันมาเพราะว่า......"

เวินเฉี่ยนเพิ่งพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง อยู่ ๆ ก็เห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนเป็นเลือนรางขึ้นมา

ส่วนหลี่เฟิงที่นั่งอยู่ตรงนั้น รอยยิ้มแฝงไว้ด้วยความโหดเหี้ยมหลายส่วน

เวินเฉี่ยนแอบร้องขึ้นมาว่าแย่แล้ว มือที่สั่นเทาก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋า แล้วคลำหามีดสั้นออกมา น้ำเสียงก็สั่นเทาขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ "นาย......นายอย่าเข้ามานะ ระวังฉันจะ......"

พอหลี่เฟิงเห็นเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ได้โกรธเคืองแต่กลับหัวเราะขึ้นมา "โอ้โห มีการเตรียมตัวมาก่อนด้วย ดูไม่ออกเลยนี่ว่าเธอจะมีความสามารถแบบนี้ด้วย"

สมองของเวินเฉี่ยนยิ่งอยู่ก็ยิ่งมึน จนแม้แต่การยืนก็ยังกลายเป็นเรื่องยากลำบาก

หลี่เฟิงแย่งมีดสั้นในมือเธอไปได้อย่างง่ายดาย แล้วก็กดตัวเธอลงไปบนโซฟา ด้วยการกระทำที่หยาบคาย "ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว งั้นฉันก็ไม่เกรงใจแล้วนะ!"

ในตอนแรกเวินเฉี่ยนยังขัดขืนตามสัญชาตญาณ แต่ว่าพอตอนที่ความเจ็บปวดวิ่งผ่านทะลุเข้ามาในชั่วพริบตานั้น ดวงตาของเธอก็จ้องมองเพดานอย่างเหม่อลอย ในสมองก็เหลือแต่ความว่างเปล่าแล้ว

ที่ข้างหูมีแต่เสียงลมหายใจรุนแรงของผู้ชายที่ทำให้คนรู้สึกอยากจะอวกเต็มไปหมด

หลายชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดฤทธิ์ยาก็หมดลง เวินเฉี่ยนลุกขึ้นมาจากพรหมปูพื้นอย่างตัวสั่นเทาทั้งตัว แล้วก็รวดคว้าเสื้อผ้าตัวหนึ่งมาบังอยู่ตรงหน้าอกและเอาโทรศัพท์ขึ้นมาก็อยากโทรแจ้งความ

หลี่เฟิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กำลังหรี่ตาสูบบุหรี่อยู่ "อยากจะแจ้งความจับฉัน ก็แจ้งเลย"

พูดแล้ว เขาก็โยนโทรศัพท์มาที่เวินเฉี่ยนเครื่องหนึ่ง "หลักฐานอยู่ข้างในนี้ เชิญเธอเอาฟ้องได้ตามสบายเลย"

เวินเฉี่ยนกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น คิดไม่ถึงว่าเขาจะอัดวิดีโอไว้ด้วย

หลี่เฟิงพ่นควันบุหรี่ออกมาคำหนึ่งแล้วก็พูดต่อว่า "ในเมื่อคนอย่างฉันก็ยิ่งขี้กลัวอยู่ด้วย ถ้าตำรวจสอบสวนฉันขึ้นมา แล้วฉันเกิดตื่นเต้น แล้วเผลอพูดเรื่องชั่ว ๆ พวกนั้นของเราออกไป ตัวฉันมันไม่เป็นไรหรอก แต่เธอน่ะน่าเสียดายแย่ กว่าจะได้แชมป์จากการประกวดดีไซเนอร์มา แล้วยังไม่ทันได้อุ่นใจเลย ก็จะต้องส่งต่อไปให้คนอื่นซะแล้ว"

เวินเฉี่ยนเงียบขรึมไปนาน แล้วก็เริ่มใส่เสื้อผ้าโดยที่ไม่พูดอะไรเลย

ในตอนที่เธอจะจากไปนั้น หลี่เฟิงก็พูดขึ้นอีกว่า "วางใจเถอะ ขอแค่เธอยอมเรียกเมื่อไหร่มาเมื่อนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคลิปวิดีโอหรือว่าเรื่องเกี่ยวกับการประกวด ฉันก็จะไม่บอกใครทั้งนั้น"

แผ่นหลังของเวินเฉี่ยนนิ่งแข็งไปครู่หนึ่ง มือที่อยู่ข้างลำตัวกำไว้เป็นหมัดแน่น แต่กลับทำได้แค่พยายามอดกลั้นไว้แล้วก็จากไป

ที่ด้านหลัง กลับเป็นเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของหลี่เฟิงดังอยู่

......

พอออกมาจากโรงแรมแล้ว เวินเฉี่ยนก็ไม่ได้กลับไปบ้านที่พักอาศัยอยู่ในตอนนี้ แต่ว่ากลับไปบ้านที่บ้านของเธออย่างจริง ๆ

เพียงแต่ว่าฝนตกหนักมาก ตรอกเล็ก ๆ ที่มักจะมีน้ำเจิ่งนองอยู่ตลอด ตอนนี้ก็มองพื้นถนนที่แท้จริงไม่ชัดแล้ว

เวินเฉี่ยนเดินไปตลอดทาง ทั้งรองเท้าและเสื้อผ้าต่างก็เปียกแฉะไปหมดแล้ว

เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน ใช้แรงตบบานประตูไป แต่ว่าสิ่งที่ตอบเธอกลับมา มีแต่เสียงฝนกระหน่ำที่ไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน ในที่สุดเสียงตบประตูของเธอก็ทำให้เพื่อนบ้านตื่นขึ้นมา ชายชราคนหนึ่งที่อายุประมาณหกเจ็ดสิบปีเดินตัวสั่นเทาออกมา ผ่านไปครู่หนึ่งถึงมองออกว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้คือใคร "เสี่ยวเฉี่ยน พ่อของเธอไม่อยู่บ้านหรอก ไม่ต้องเคาะแล้ว"

เวินเฉี่ยนหันหน้าไป น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธเคือง "เขาไปไหนแล้ว?"

"ก่อนหน้านี้เขาไม่สบาย ไปโรงพยาบาลแล้ว แล้วก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย เป็นเวลานานแล้วนะ"

"แล้วเซ่หรงล่ะ?"

"เสี่ยวหรงพาพ่อเธอไปส่งโรงพยาบาล แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลยเหมือนกัน"

ชายชราพูดจบก็หันหลังกลับเข้าบ้านตัวเองไป

เวินเฉี่ยนจ้องมองบอนไซด้านข้างที่เวินเจียงตั้งใจเลี้ยงดูมา ยิ่งมองก็ยิ่งโมโห แล้วก็เตะมันไปทีหนึ่งอย่างแรงเลย จนกระถางต้นไม้ตกลงไปอยู่ข้างกำแพง และแตกกระจัดกระจาย ต้นไม้ที่อยู่ข้างบนก็โดนดินโคลนเปรอะเปื้อนไปหมด แล้วก็ค่อย ๆ เหี่ยวเฉาไป

พอชายชราที่อยู่บ้านข้าง ๆ ได้ยินเสียงก็หันหน้าไปดูทีหนึ่ง แล้วก็ส่ายหน้าเล็กน้อยและทำเสียงเหอะ ๆ สองคำ ก็ปิดประตูไปเลย

แล้วเวินเฉี่ยนก็ไปบ้านของเซ่หรงอีก อยากจะหาเบาะแสอะไรให้เจอสักหน่อย อยากจะรู้ว่าตกลงเขาไปไหนแล้ว

ตอนนี้มีแต่เซ่หรงเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเธอต่อกรกับหลี่เฟิงได้

เธอควานหากุญแจที่เซ่หรงซ่อนไว้ใต้หน้าต่างจนเจอ พอเข้าไปถึงพบว่าข้างในนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นชั้นหนึ่ง เขาน่าจะไม่ได้กลับมานานแล้ว

แล้วเวินเฉี่ยนก็ไม่พอใจที่จะจากไปแบบนี้เลย จึงหากระดาษปากกามา เขียนไว้ว่าถ้าเซ่หรงเห็นข้อความแล้วก็ให้รีบติดต่อเธอ

ระหว่างทางที่กลับไป เวินเฉี่ยนหันกลับไปมองอาคารที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในสายฝนอีกครั้ง รอบด้านเต็มไปด้วยกลิ่นเน่าเหม็นของขยะ

ชาตินี้ทั้งชาติ เธอจะไม่มีวันกลับมาที่นี่อีกแน่!

......

ถึงแม้ว่าหร่วนซิงหว่านจะนอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ตอนที่ลืมตาขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่าทั้งตัวรู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลย

ฝนที่นอกหน้าต่างยังคงตกอยู่ ทั่วท้องฟ้ายังคงอึมครึมอยู่ ไม่รู้ว่าฝนที่ตกครั้งนี้จะตกอีกนานแค่ไหน

หร่วนซิงหว่านเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงจากตึกมา

พอเธอเพิ่งเดินมาถึงห้องรับแขก ก็มีคนรับใช้รีบวิ่งเข้ามาอย่างร้อนใจ "คุณหร่วน คุณท่านบอกว่าถ้าคุณตื่นนอนแล้ว ให้ไปหาที่ห้องหนังสือของท่านด้วยค่ะ"

"รู้แล้ว"

พอเดินมาถึงหน้าห้องหนังสือ หร่วนซิงหว่านก็ยกมือขึ้นมาเคาะประตู แล้วข้างในมีเสียงเย็นชาของหลินจื้อหย่วนดังลอยออกมา "เข้ามา"

หร่วนซิงหว่านเดินเข้าไปข้างใน แล้วเปิดปากขึ้นเรียบ ๆ ว่า "ประธานหลินตามหาฉันมามีธุระอะไรคะ"

หลินจื้อหย่วนมองไปที่เธอ ในแววตามีความดุร้ายเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน

น่าจะเป็นเพราะว่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน ความอ่อนโยนและสง่างามที่จอมปลอมบนใบหน้าของเขา ก็เลยหายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งนานแล้ว

พอสบเข้ากับสายตาของเขา หร่วนซิงหว่านก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีการถอยหนีแม้แต่น้อย

พอผ่านไปครู่หนึ่ง หลินจื้อหย่วนถึงได้เปิดปากพูดขึ้นว่า "ข่าวในโลกโซเชียล คุณคงรู้หมดแล้วใช่ไหม"

หร่วนซิงหว่านพยักหน้าเล็กน้อย "เรื่องมันใหญ่โตขนาดนี้ ข่าวถาโถมกระหน่ำเต็มไปหมด ไม่อยากรู้เรื่องก็คงจะยาก"

"คุณเห็นมาจากข่าวเหรอ"

หร่วนซิงหว่านถามกลับไปว่า "ไม่งั้นละคะ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย