สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 394

หลินจื้อหย่วนหึเสียงเย็นทีหนึ่งอย่างยิ้มจอมปลอม เห็นได้ชัดเลยว่าไม่เชื่อ

ตอนแรกเพิ่งจะมีเรื่องของโจวซื่อกรุ๊ปกับหร่วนซิงหว่านถูกเปิดเผยออกมา ต่อมาก็มีเรื่องอื้อฉาวของหลินจืออี้โดนผลักออกมา จะเป็นไปได้ยังไงที่ไม่ใช่ฝีมือคนสร้างขึ้นมา

พอผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอีกว่า "ข้อเสนอที่คุณยื่นมาก่อนหน้านี้ ผมตอบตกลงกับคุณก็ได้ แต่ว่าผมก็มีข้อเสนอของผมด้วยเหมือนกัน"

สำหรับการตอบตกลงนี้ หร่วนซิงหว่านไม่ได้แปลกใจมากนัก เธอยิ้มขึ้นเล็กน้อย "ประธานหลินเชิญพูดมาได้เลยค่ะ"

หลินจื้อหย่วนพูดขึ้น "ที่ดินที่คุณขอมา ผมให้คุณได้แค่ครึ่งหนึ่ง คุณก็รู้ว่าตอนนี้หลินซื่อกรุ๊ปมีเรื่องให้ต้องกลุ้มใจมากแค่ไหน แล้วก็เพราะว่าเรื่องของจืออี้ ก็ได้ทำให้หุ้นตกลงอย่างรุนแรง ที่ผมสามารถให้คุณได้ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเยอะมากพอแล้ว"

หร่วนซิงหว่านเลียริมฝีปากเล็กน้อยอย่างไม่ได้สุ้มเสียง และไม่พูดอะไร และรอให้หลินจื้อหย่วนพูดจนจบ

หลินจื้อหย่วนพูดต่อขึ้น "นอกเหนือจากนี้ คุณจะต้องเขียนหนังสือรับรองให้ผมฉบับหนึ่งด้วย รับรองว่าคุณจะไม่มาเกี่ยวข้องโครงการอะไรก็ตามของหลินซื่อกรุ๊ป ผมก็จะรับรองกับคุณเหมือนกันว่า ผลประโยชน์ที่คุณควรจะได้รับ จะไม่ขาดหายไปแม้แต่นิดเดียวแน่นอน"

พูดแล้ว หลินจื้อหย่วนเอาเอกสารที่พิมพ์ออกมาก่อนหน้านี้ยื่นไปตรงหน้าเธอ บนนั้นมีลายเซ็นของหลินจื้อหย่วนและตราประทับของหลินซื่อกรุ๊ปอยู่ก่อนแล้ว

หร่วนซิงหว่านมองดูเอกสารทีหนึ่ง แล้วถึงได้เงยหน้าขึ้นมาใหม่ "ฉันเองก็สามารถรับปากกับประธานหลินได้ และฉันก็หวังว่าประธานหลิน จะไม่ไปรบกวนน้องชายฉันอีก นี่ก็คือข้อเสนอสุดท้ายของฉัน และอีกอย่าง คุณหลินก็จะต้องมาขอโทษน้องชายฉันด้วย เพราะการกระทำทั้งหมดของเธอ ได้กระทบต่อการเรียนและชีวิตความเป็นอยู่ของน้องชายฉันเป็นอย่างมาก ไม่งั้นละก็ ถึงเรื่องนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องอีกได้ แต่ทางน้องชายฉัน ก็คงจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ค่ะ"

หลินจื้อหย่วนหรี่ตาลงเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งแล้วถึงพูดขึ้นว่า "แต่ว่าคุณก็น่าจะเข้าใจดี ถ้าจะให้ขอโทษอย่างมากสุดก็คงต้องทำเป็นการส่วนตัวเท่านั้น"

"ฉันรู้ค่ะ ฉันเองก็แค่ต้องการให้คุณหลินมาขอโทษน้องชายฉันต่อหน้าเขาเท่านั้น สำหรับเรื่องอย่างอื่นนั้น ฉันไม่สนใจอะไรหรอกค่ะ"

หลินจื้อหย่วนไม่พูดอะไรอีก และถือว่าเป็นการยอมรับแบบเงียบ ๆ แล้ว

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้น "ฉันรู้ว่าประธานหลินเป็นคนที่มีคำพูดเชื่อถือได้ คำพูดที่พูดออกมา ก็ไม่มีเหตุผลที่จะกลับคำแน่นอน เมื่อเทียบกันแล้ว ฉันเองต่างหากที่เป็นคนชั่วจิตใจคิดไม่ซื่อ"

พูดแล้ว หร่วนซิงหว่านก็เอาปากกาอัดเสียงอันหนึ่งวางลงบนโต๊ะหนังสือ

พอหลินจื้อหย่วนเห็นเป็นเช่นนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้นอย่างลำบากใจ "มันช่วยไม่ได้ค่ะ เมื่อวานเพิ่งโดนคนใช้วิธีแบบนี้ใส่ร้ายมาครั้งหนึ่ง ยังไงก็ต้องรู้จักฉลาดบ้างต้องเรียนรู้จากบทเรียนสักหน่อยถึงจะได้ แต่ว่าขอแค่ประธานหลินไม่กลับคำ เนื้อหาในนี้ ก็ไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ"

พูดจบ หร่วนซิงหว่านก็ปิดปากกาอัดเสียงไป จากนั้นก็หยิบปากกาบนโต๊ะขึ้นมาแล้วเซ็นชื่อของตัวเองลงตรงท้ายเอกสาร แล้วก็เปิดหมึกปั๊มตราที่อยู่ข้าง ๆ ออก แล้วปั๊มรอยนิ้วมือของตัวเองไป

หลังจากที่ทำทุกอย่างนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว หร่วนซิงหว่านก็หยิบเอกสารและปากกาอัดเสียงมาแล้วก็ลุกขึ้น "ประธานหลินวางใจเถอะค่ะ ฉันจะจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อยแน่นอนค่ะ"

พอหร่วนซิงหว่านออกมาจากห้องหนังสือแล้ว ก็เจอหลินจืออี้ที่ยืนอยู่ข้างนอก สีหน้าจะให้ดูแย่แค่ไหนก็ดูแย่ได้ขนาดนั้นเลย เห็นได้ชัดว่าเธอได้ยินการสนทนาในห้องเมื่อกี้หมดแล้ว

หร่วนซิงหว่านยิ้มให้เธอเล็กน้อย "คุณหลินอรุณสวัสดิ์ค่ะ"

หลินจืออี้กัดฟันกรอก "เธอนึกว่าเป็นอย่างนี้ แล้วเธอจะได้ตระกูลหลินไปเหรอ?"

"ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ในเมื่อธุรกิจของตระกูลหลินมีเยอะแยะขนาดนั้น แค่นี้ ก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรหรอกค่ะ แต่ว่า คนเรามีชีวิตอยู่บนโลก ก็จะต้องรีบหาความสุขใส่ตัวซิ"

หร่วนซิงหว่านพูดจบแล้ว ก็ไม่มองสีหน้าของหลินจืออี้อีก แล้วก็จากไปอย่างรวดเร็วเลย

พอเธอจากไปไกลแล้ว หลินจืออี้ถึงได้กำหมัดขึ้นอย่างไม่พึงพอใจ แล้วเข้าไปในห้องหนังสือ "พ่อคะ พ่อจะรับปากเธอไปง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอคะ?"

หลินจื้อหย่วนลุกขึ้น ไปยืนอยู่ตรงหน้าต่าง มือทั้งสองข้างไขว้อยู่ข้างหลัง น้ำเสียงราบเรียบ "ก็แค่พวกของที่ไม่สำคัญอะไรเท่าไหร่ หล่อนอยากได้ก็ให้หล่อนไป"

"แต่ว่า......"

"จืออี้" หลินจื้อหย่วนพูดขัดเธอขึ้น "เธอเองก็ควรที่จะพิจารณาตัวเองดูสักหน่อยแล้วนะ ทำเรื่องอะไรไม่รู้จักระมัดระวังเลย แถมยังทิ้งจุดอ่อนไว้ให้เขาจับได้อีกไม่ว่า ยังจะมาโดนคนข่มขู่อีก"

ชั่วขณะหนึ่งหลินจืออี้ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดีแล้ว จึงก้มหน้าลง

แล้วหลินจื้อหย่วนก็พูดขึ้นอีกว่า "เรื่องของโจวซื่อกรุ๊ปเมื่อวาน เกี่ยวข้องกับเธอด้วยหรือเปล่า"

"หนู......"

หลินจืออี้อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไปครึ่งวัน แล้วถึงพูดขึ้นว่า "พ่อคะ พ่อวางใจเถอะ สาวมาไม่ถึงตัวหนูหรอกค่ะ"

"แบบนั้นก็ดี"

ผ่านไปครู่หนึ่ง หลินจื้อหย่วนก็พูดขึ้นอีกว่า "เอาตามนี้ไปก่อนละกัน"

หลินจืออี้ตอบรับคำหนึ่งแล้วก็ออกไปเลย

ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์ของหลินจื้อหย่วนก็ดังขึ้นมาหลังจากที่รับสายแล้ว ข้างในก็มีเสียงต่ำของลูกน้องลอยมา "นายท่านครับ คนที่พากลับมาด้วยเมื่อคราวที่แล้ว......หนีไปแล้วครับ"

ดวงตาของหลินจื้อหย่วนหรี่ลงเล็กน้อย ทั้งหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย "หนีไปนานแค่ไหนแล้ว"

"ยังไม่ถึงสิบนาทีครับ"

"ไปตามหาซะ ไม่ต้องพาตัวกลับมาแล้ว ฆ่าทิ้งไปเลย"

"ครับ"

......

ตลอดทางที่หร่วนซิงหว่านขับรถกลับมาที่สำนักงาน ฝนตกไม่หยุดตลอด เธอจ้องมองเอกสารที่วางอยู่ข้าง ๆ ทีหนึ่ง แล้วก็เม้มปากขึ้นเล็กน้อย

ตอนนี้ของที่เธออยากได้ก็เอามาได้แล้ว งั้นเธอก็จะต้องออกหน้ามาชี้แจงข้อพิพาทที่เกี่ยวกับหลินจืออี้ในโซเชียลแล้ว

เพียงแต่ว่าหลินจื้อหย่วนไม่ได้กำหนดเวลาให้เธอ และเธอเองก็ไม่ได้รีบร้อน ขอแค่ทำให้เรียบร้อยภายในวันนี้ก็พอแล้ว

พอมาถึงสำนักงานแล้ว พวกเด็กสาวหลายคนต่างก็กำลังซุบซิบเกี่ยวกับข่าวในโซเชียลกันอย่างร้อนแรง แต่ว่าสิ่งที่น่าแปลกก็คือ พวกเธอต่างก็ยืนพูดคุยกันอยู่ที่หน้าประตู

หร่วนซิงหว่านพูดขึ้นว่า "ทำไมถึงได้มายืนอยู่ที่นี่กันหมดเลยล่ะ?"

พวกเด็กผู้หญิงส่ายหน้าพร้อมกันหมด "พวกเราอยู่ที่นี่กันก็พอแล้ว ที่นี่เย็นสบายดี"

พอหร่วนซิงหว่านเห็นเช่นนี้ ก็มองเข้าไปข้างในสำนักงานทีหนึ่ง แล้วรวมกับปฏิกิริยาของพวกเธอ ก็พอเดาอะไรออกแล้ว แล้วก็ยักคิ้วและยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย "เข้าไปกันเถอะ ข้างนอกฝนยังตกอยู่เลย"

พูดจบ เธอก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างในเลย

พอผลักประตูห้องทำงานออก หร่วนซิงหว่านก็เห็นโจวฉือเซินนั่งอยู่บนโซฟาข้างใน ดวงตาทั้งคู่หลับอยู่เหมือนกับว่ากำลังนอนหลับอยู่

หร่วนซิงหว่านปิดประตูห้องทำงานลงเบา ๆ จากนั้นก็เดินมาที่ข้าง ๆ เขา แล้วหยิบผ้าห่มที่วางพาดอยู่ข้างโซฟาขึ้นมา แล้วห่มไว้บนตัวเขาเบา ๆ

หลังจากที่ทำทุกอย่างนี้เสร็จแล้ว หร่วนซิงหว่านก็ยังอยู่ในท่านี้ แล้วค่อย ๆ โน้มตัวลงไป แล้วก็จ้องมองเขาอยู่อย่างนั้น

คิดว่าอิตาบ้านี่คงจะไม่ได้นอนมาทั้งคืนแน่ ตรงขอบตามีรอยหมองคล้ำจาง ๆ อยู่ชั้นหนึ่งด้วย

หร่วนซิงหว่านจ้องมองไปครู่หนึ่ง แล้วอยู่ ๆ ก็ชิดเข้าไปข้างหน้า แล้วจูบลงบนริมฝีปากบางของเขาทีหนึ่ง

แต่ว่าสิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ ในตอนที่เธอเพิ่งถอยออกมาอยากจะลุกขึ้นมานั้น จู่ ๆ ผู้ชายตรงหน้าก็ลืมตาที่ดำสนิทราวกับหมึกทั้งคู่ขึ้นมา

หร่วนซิงหว่าน "......"

ดวงตาดำสนิทของโจวฉือเซินจ้องมองเธอ น้ำเสียงแหบแห้งและขรึมต่ำ "แอบจุ๊บผมเหรอ?"

"ฉัน......"

หร่วนซิงหว่านยังไม่ทันได้อธิบาย ข้อมือก็โดนคนจับไว้แน่นแล้ว วินาทีต่อมา เธอก็ล้มลงสู่อ้อมกอดของชายหนุ่มแล้ว

โจวฉือเซินเหล่ตามองเธอ "อยากจุ๊บผมก็จุ๊บอย่างเปิดเผยก็ได้ ไม่ต้องแอบทำหรอก ผมไม่หัวเราะเยาะคุณสักหน่อย"

หนังตาของหร่วนซิงหว่านกระตุกขึ้นเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกว่าเมื่อกี้นี้เป็นการตัดสินใจอันหนึ่งที่ผิดพลาดมากจริง ๆ

พอเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร โจวฉือเซินก็เอาคางถูที่ไหล่เธอเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง "คุณไม่จุ๊บผม งั้นผมจุ๊บคุณแล้วนะ?"

และคำพูดประโยคนี้ของเขา ก็ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคบอกเล่า

พอพูดจบแล้ว เขาก็ประกบปากของเธอเอาไว้ และแฝงไว้ความห่วงหาทั้งคืน ค่อย ๆ เพิ่มความลึกซึ้งให้จูบอันนี้

หร่วนซิงหว่านตีอกกว้างของเขาเล็กน้อย และอยากจะพูดว่าที่นี่เป็นห้องทำงาน ถ้าเกิดมีคนเข้ามาจะทำยังไง

แต่ว่าโจวฉือเซินกลับไม่ได้สนใจเลย แต่กลับล็อกด้านหลังศีรษะของเธอเอาไว้ แล้วก็กดตัวเข้ามาจูบบนโซฟา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย