ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยหลังจากที่พยายามจะออกจากพันธนาการของโจวฉือเซิน หร่วนซิงหว่านก็เดินไปยังห้องครัว: " อยากกินอะไร เหมือนวันนี้ฉันจะอารมณ์ดีเลยล่ะ ฉันจะยอมทำอาหารให้คุณกินก็แล้วกัน "
โจวฉือเซินหัวเราะและพูดว่า: " คุณอยากกินเอง หรือตั้งใจทำให้ผมกันแน่? "
หร่วนซิงหว่านไม่สนใจเขา: " คุณแค่พูดมาว่าคุณจะกินหรือไม่กิน "
" กิน "โจวฉือเซินใช้ดวงตาดำขลับคู่นั้นจ้องไปที่เธอ" ผมไม่เรื่องมากหรอก กินอะไรก็ได้ "
หร่วนซิงหว่านนิ่ง: " ..... "
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา
หร่วนซิงหว่านเปิดตู้เย็น ก็ไม่เห็นว่าจะมีวัตถุดิบอะไรในการทำอาหารที่ใช้ได้เลย แต่โชคยังดีที่เธอมีเส้นสปาเกตตีไว้เผื่อหลายห่อ
ถ้าเมนูนี้ก็แล้วกัน
ถ้าเติมน้ำลงไปในหม้อ แล้วก็เหลือบไปเห็นกระเป๋าเดินทางของตัวเองในห้องรับแขก จึงพูดขึ้นว่า: " โจวฉือเซิน คุณช่วยฉันดูหม้อหน่อยนะ น้ำเดือดแล้วเรียกฉันด้วย "
โจวฉือเซินที่อยู่ห่างออกไปตอบอืม
หร่วนซิงหว่านหันไปมองก็พบว่าเขากำลังรับโทรศัพท์อยู่
ดูเหมือนจะเป็นโทรศัพท์จากที่ทำงาน ขณะที่คุยเรื่องงานไปนั้นเขาก็หันไปเช็คด้วยว่าไฟไม่มีปัญหาอะไร
เธอจึงเปิดกระเป๋าเดินทางแล้วนั่งยองๆ กับพื้น แล้วหยิบเสื้อผ้าในนั้นออกมา ก็พบว่าเสื้อผ้าทั้งหมดมีแต่กินควัน จึงหอภาพพวกนั้นไปไว้ในถังซักผ้า
เมื่อเธอเทน้ำยาซักผ้าลงไปแล้ว ก็เปิดน้ำ จากนั้นก็หันตัวกลับมายังห้องรับแขก
ตอนนี้โจวฉือเซินกำลังยืนอยู่ในห้องครัว เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแลกสีดำ กระดุมที่ปกคอเสื้อถูกคลายออก มือข้างหนึ่งล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง ส่วนมืออีกข้างก็เธอโทรศัพท์เอาไว้ และคุยกับปลายสายด้วยท่าทีที่นิ่งเฉย แต่สายตาก็มีเหลือบมามองน้ำที่กำลังเดือดอยู่บนเตา
เมื่อเห็นว่าน้ำเดือดปุดๆ แล้ว เขาจึงเอามือข้างที่สอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงมาลดไฟให้เบาลง
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังคุยกับปลายสายต่อ ไม่ได้มีวี่แววว่าจะหยุดชะงักแต่อย่างใด
การกระทำเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ เขากลับทำมันออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ภายในเสี้ยววินาทีนั้น หร่วนซิงหว่านรู้สึกเหมือนว่าเธอได้พบกับความสุขของการมีชีวิตแล้ว
โจวฉือเซินคนคนนี้น่ะ ไม่ว่าใครก็ตามที่เจอเขาเป็นครั้งแรก ก็มันจะรู้สึกว่าเขามีความเย็นชาบางอย่างที่แพร่กระจายออกมาจากกระดูก ทั้งตัวดูไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด ก็มักจะทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้เสมอ
แต่เมื่อได้ปฏิสัมพันธ์ด้วยเป็นเวลานานแล้วก็พบว่า คนคนนี้ถึงแม้จะดูเย็นชา และพูดจาขวานผ่าซากบ้าง แล้วอีกอย่างก็ไม่เคยปฏิบัติต่อใครแตกต่างกันเลย เพียงแค่ใครทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจแล้วล่ะก็ เขาก็มักจะพูดหรือทำอะไรที่กลับกันกับคนนั้นคืนอยู่บ่อยครั้ง
ก่อนหน้านี้ที่ถนนอานเฉียว หร่วนซิงหว่านก็รู้สึกมาโดยตลอดว่าโจวฉือเซินเป็นพวกทำตัวสูงส่ง แปลกแยกจากคนทั่วไป แต่เขากลับมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านแถวถนนอานเฉียวได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้เขาจะชอบทำหน้าเย็นชา แต่ทุกคนก็ชอบเขาพอสมควร
หร่วนซิงหว่านจำได้ ที่เขาเคยพูดว่าตัวเองเติบโตในสภาพแวดล้อมอย่างนั้นตั้งแต่ยังเด็ก
แล้วมันทำให้เธอคิดได้ว่า โจวฉือเซินไม่ได้เย็นชาไร้ความรู้สึกขนาดนี้ตั้งแต่ยังเล็ก ถ้าตามที่น้าสวี่เคยเล่าเอาไว้ ในตอนเด็กนั้นเขาก็เป็นคนที่ปากร้ายอยู่พอสมควร แต่พอต้องเข้ามาอยู่กับตระกูลโจวที่มีความโหดเหี้ยมอำมหิตแบบนั้น เขาเลยจำเป็นต้องเผยกรงเล็บเพื่อปกป้องตัวเองเอาไว้
หลังจากนั้นก็ค่อยๆ กลายเป็นประธานโจวซื่อกรุ๊ปที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างทุกวันนี้
อันที่จริงแล้วชีวิตที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับใคร มันง่ายนิดเดียว
และในขณะที่หร่วนซิงหว่านกำลังคิดจะหลุดเพราะวางไปนั้น ใครบางคนที่เมื่อกี้ยืนโทรศัพท์ก็วางสายไปแล้ว แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ และสบตาเขากับเธอ พร้อมเผยรอยยิ้มบาง: " ผมดูดีขนาดนี้เลยเหรอ? "
หร่วนซิงหว่านดึงสติกลับมา พร้อมแสยะยิ้ม และขำแห้ง พร้อมกับตอกกลับคำพูดนั้นไป: " ประธานโจวเพิ่งจะรู้วันนี้เหรอคะว่าตัวเองดูแปลกประหลาดจากคนอื่นมากแค่ไหน "
โจวฉือเซิน: " ...... "
ไม่รอให้เขาต้องเปิดปากพูด หร่วนซิงหว่านก็อ้อมผ่านตัวเขา จากนั้นก็เปิดกล่องใส่เส้นสปาเกตตี้ออก จากนั้นก็หยิบเส้นวางลงไปในหม้อที่กำลังเดือด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย
ไม่เชื่อใจคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ก็เอาตัวเองไม่เคยจะรอด ก็มั่นหน้าให้คนรอบตัวเดือดร้อนต่อไปค่ะซิงซิง...
ใครที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไปอ่านต่อให้จบได้ ในชื่อเรื่อง สามีเก่า....มาขอแต่งงานอีกแล้ว นะคะเป็นเรื่องดียวกันค่ะ...
รออัพเดทตอนต่อไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบทีค่ะ...
รออ่านตอนไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบด้วยค่ะ...
เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่ทำไมลงไม่จบเรื่องคะ ช่วยลงให้จบได้ไหมคะ รอติดตามอยู่นะ...