บทที่ 21 ยั่วฉันเหรอ
เธอส่งรูปที่ใส่ชุดว่ายน้ำไปให้ลู่หานถิง!
ทั้งสองคนได้ทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัน ดังนั้นทั้งคู่จึงได้แลกเปลี่ยนช่องทางติดต่อของกันและกันไว้ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอถามออกไปประโยคหนึ่งว่า ต้องการเพิ่มเพื่อนในวีแชทไหม?
ตอนนั้น นักธุรกิจอย่างลู่หานถิงได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยใช้แอปพลิเคชันนี้ แต่ค่ำวันนั้นตอนที่เขากลับมา ในโทรศัพท์เขาก็มีเพื่อนในวีแชทเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน เขาได้เพิ่มเธอเป็นเพื่อนแล้ว
เขากำลังทำอะไรอยู่นะ?
มืออยู่ไม่สุขหรือไง?
เมื่อเซี่ยซีหวั่นนึกขึ้นได้ก็รีบกดยกเลิกข้อความ แต่ไม่ทันแล้ว เลยเวลาที่กำหนดไปแล้ว
เธอจะบ้าตายให้ได้
วีแชทของเย่หลิงเด้งมาอีกแล้ว ส่งรูปมาสองสามรูป.....ไหน ให้ฉันดูหน่อยว่าสัดส่วนเธอเปลี่ยนไปหรือเปล่า ช่วงนี้ชุดนอนของวิคตอเรียซีเคร็ทได้ออกคอลเลกชันใหม่ที่แสนเซ็กซี่มาหลายแบบเลย เธอดูหน่อยสิว่าพ่อนักธุรกิจคนนั้นของเธอมีรสนิยมแบบไหน?
.....แบบนี้เป็นยังไง เซ็กซี่แบบสดใส ๆ หน่อย
.....แบบนี้ล่ะ ดูใสบริสุทธิ์แต่ร้อนแรง
เซี่ยซีหวั่น : “...”
ขณะนี้ ในต่างประเทศที่ห่างออกไปหลายหมื่นฟุต ณ อาคารสำนักงานที่สูงที่สุดในถนนการเงิน ผู้บริหารระดับสูงที่แขวนป้ายคล้องคอสีน้ำเงินกำลังนั่งอยู่ที่สองฝั่งของโต๊ะประชุมแบบยาวในห้องประชุมVIP ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินกำลังรายงานยอดขายในปีนี้
ทุกคนต่างกลั้นหายใจ และตั้งใจฟัง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ประธาน
วันนี้ลู่หานถิงสวมชุดสูทสีดำทั้งชุด ในกระเป๋าเสื้อสูทมีผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมพับใส่ไว้อยู่ ผมด้านหน้าทั้งหมดถูกรวบเสยขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา เขาก้มเปิดอ่านเอกสารอย่างตั้งใจ ลักษณะท่าทางล้วนเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
ทั้งดูสูงส่งและมีเกียรติ มีวุฒิภาวะ น่าเกรงขาม และมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
ภายในห้องประชุม VIP นั้นเงียบมาก ชนิดที่ว่าแม้มีเข็มตกพื้นก็สามารถได้ยินเสียงได้ ทันใดนั้นเองก็มีเสียง “ติ๊ง” ดังขึ้นมา เป็นเสียงโทรศัพท์ดัง
สายตาทุกคนต่างเหลือบตามองไปที่ลู่หานถิง เพราะเสียงมาจากโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้าง ๆ มือเขา
ลู่หานถิงหันสายตาไปมอง ที่หน้าจอโทรศัพท์โชว์ว่ามีข้อความจากวีแชทเข้ามา
เขาให้เลขาดาวน์โหลดแอปพลิเคชันวีแชทให้ และเพิ่มเพื่อนเพียงคนเดียว
คนคนนั้นก็คือ เซี่ยซีหวั่น
ในตอนนี้เอง เหยียนยี่เลขาส่วนตัวก็เดินเข้ามา จากนั้นก็โน้มตัวลง เหมือนจะเอ่ยถามอะไร
ลู่หานถิงยกมือขึ้น เพื่อบอกให้เหยียนยี่ออกไปได้ แล้วให้ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินรวมถึงผู้บริหารระดับสูงคนอื่นประชุมกันต่อ
เมื่อรอให้ทุกคนละสายตาไปทางอื่นแล้ว ลู่หานถิงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความในวีแชท และเห็นรูปภาพรูปนั้นที่เซี่ยซีหวั่นส่งมาให้
เซี่ยซีหวั่นเพิ่งออกมาจากบ่อน้ำพุร้อน สวมชุดว่ายน้ำลายดอก ผมดำสลวยดุจใยไหมนั้นเปียกชื้น ยาวปกคลุมอยู่บนไหล่ของเธอ มือทั้งสองข้างของเธอกำลังจับราวบันไดอยู่ กำลังจะขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อน
ไม่ใช่ภาพถ่ายด้านหน้า แต่เป็นภาพถ่ายจากด้านข้าง ใบหน้าด้านข้างและทรวดทรงที่อรชรอ้อนแอ้นของเธอนั้น ถึงแม้จะถูกบดบังด้วยผ้าคลุมหน้าทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ก็ยังเห็นออร่าความสวยเปล่งออกมา
ภาพหญิงสาวขณะแช่บ่อน้ำพุร้อน ช่างหาดูได้ยากเหลือเกิน
ตั้งแต่รู้จักกันมา ลู่หานถิงยังไม่เคยเห็นเธอสวมใส่ชุดสีสันสดใสอย่างนี้มาก่อน แถมยังเป็นผ้าน้อยชิ้น ตอนที่ทั้งสองคนอยู่ห้องเดียวกัน ทุกคืนเธอปกปิดตัวเองมิดชิดมาตลอด
แต่เขารู้ดีว่าเธอหุ่นดีมากแค่ไหน
ลู่หานถิงส่งข้อความกลับไปว่า “ยั่วฉันเหรอ?”
ยั่วฉันเหรอ?
เซี่ยซีหวั่นได้รับข้อความอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวย ๆ ของเธอแดงจนแทบจะมีเลือดไหลออกมา เธอที่กำลังนึกภาพว่าผู้ชายคนนี้จะใช้น้ำเสียงแบบไหนพูดสองคำนั้นออกมา
ทันใดนั้น ลู่หานถิงก็ส่งข้อความมาอีกว่า “ที่นี่ยังเป็นกลางวันอยู่นะ”
เวลาทั้งคู่ต่างกัน ที่เธอนั้นคือกลางคืน แต่ที่เขากลับยังเป็นกลางวันอยู่
เซี่ยซีหวั่น พูดต่อว่า “แล้วทำไมเขาถึงได้พูดอย่างนั้นล่ะ?”
เย่หลิง บอก “ไปถามเขาสิ”
เซี่ยซีหวั่นเห็นด้วยอย่างมาก ตัวเองคิดไปคิดมาอยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เธอต้องหาโอกาสพบเขาแล้วถามให้รู้เรื่องกันไปเลย
เย่หลิง ได้พูดต่ออีกว่า “หวั่นหวั่น พูดจริง ๆ นะ ไอ้โรคจิตซีมันไม่ได้จัดการยากอะไรนักหรอก มันชอบเธอ สำหรับผู้ชายนะ ถ้าหากเธอยินยอม เธอก็ชนะแล้ว”
เซี่ยซีหวั่นไม่ได้ตอบกลับอีก เธอเข้าใจความหมายของเย่หลิงดี จะจัดการกับผู้ชายที่ชอบตัวเองนั้น ที่จริงมีวิธีมากมายที่ทำให้เราเป็นฝ่ายได้เปรียบ
.....
กลางดึก ซูซีได้พาเซี่ยเสี่ยวแด๋ไปที่ห้องเพรสซิเดนท์สวีท (president deluxe suite) ของโรงแรม
ซูซีเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และสวมชุดคลุมอาบน้ำอยู่ เขารินไวน์แดงลงในแก้วไวน์เล็กน้อย แล้วบรรจงจิบไวน์เข้าไป
ขณะนั้นเอง เซี่ยเสี่ยวแด๋ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินเข้ามากอดเขาจากด้านหลัง “พี่ซูซี พี่ว่าพ่อฉันรักแม่ของเซี่ยซีหวั่นมากไหม ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วยังจำไม่ลืม?”
ซูซีที่กำลังมองไปยังแสงไฟนีออนนอกหน้าต่างนั่น เอ่ยปากพูด “ทำไมถึงได้พูดอย่างนี้ล่ะ?”
“ฉันรู้เพราะกระเป๋าสตางค์ของพ่อใส่รูปแม่ของเซี่ยซีหวั่นไว้ตลอด รูปใบนั้นเขารักยิ่งกว่าอะไร แต่ไหนแต่ไรมาไม่ยอมให้ใครจับต้อง อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายปี พ่อของฉันไม่ยอมให้ใครพูดถึงแม่ของเซี่ยซีหวั่นในทางไม่ดีเลยสักนิด วันนี้แม่ของฉันพูดออกมา พ่อก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย เขาเป็นคนรักศักดิ์ศรีและรักษาหน้าตาตัวเองมาก ไม่ยอมทำเรื่องน่าอับอายต่อหน้าคนอื่นให้คนอื่นหัวเราะเยาะเด็ดขาด แต่นี่เขาถึงขนาดตบหน้าแม่ของฉันขณะที่อยู่นอกโรงแรม”
ในหัวของซูซีก็มีภาพใบหน้าสวยงามผุดขึ้นมา เขาตอบกลับอย่างเรียบ ๆ “แม่ของเซี่ยซีหวั่นเป็นหญิงในตำนานคนหนึ่ง”
เซี่ยเสี่ยวแด๋ไม่เคยเห็นแม่ของเซี่ยซีหวั่นมาก่อน สิบปีก่อนเมื่อแม่ของเซี่ยซีหวั่นเสียชีวิตลง เธอก็ราวกับหายไปจากโลกนี้อย่างไร้ร่องรอย แทบจะไม่มีเรื่องราวของเธอขณะที่เธอยังมีชีวิตอยู่เลย
เซี่ยเสี่ยวแด๋เคยคิดว่า ถ้าต้องการที่จะลบเรื่องราวของคนคนหนึ่งให้หายไปจากเมืองสี่จิ่วแห่งนี้ จำเป็นต้องใช้คนมากมาย และต้องมีอำนาจมากจริง ๆ
ทุกครั้งที่คิดถึงตรงจุดนี้ เซี่ยเสี่ยวแด๋ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
“พี่ซูซี มีเรื่องหนึ่งที่แม่ของฉันพูดไม่ผิดเลย เซี่ยซีหวั่นถนัดเรื่องยั่วยวนผู้ชายมาก หล่อนแต่งงานย้ายไปอยู่ที่รีสอร์ทโยวหลานเพื่อล้างมลทินให้ตัวเอง แถมยังแอบเลี้ยงเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาไว้ข้างนอกอีกคนหนึ่ง ตอนนี้ก็ตีสนิทกับโรงแรมตี้เหา ไม่รู้เธอผ่านผู้ชายมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีพันล้าน รักฉันให้มีสติหน่อย
นิยายที่เคยอ่านแล้วชอบหายไปหลายเรื่องเลยค่ะชอบอ่านซ้ำบางเรื่องอ่านจบแล้วก็มาเริ่มใหม่แต่ก็ไม่ต่อเนื่องค่ะ...