บทที่ 22 มีผู้หญิงคนหนึ่งรับโทรศัพท์ของเขา
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซูซีก็กระดกไวน์แดงที่ถืออยู่ในมือเข้าปากอึกใหญ่ คิ้วสวยได้รูปนั้นดูตกลงแฝงถึงอารมณ์เย็นชาเศร้าหมอง
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตระกูลร่ำรวยสี่ยักษ์ของเมืองไห่ ซูซีจึงรู้จักตระกูลลู่ดี แต่น่าเสียดาย เพราะเขาไม่ได้รู้มากไปกว่าคนอื่น ๆ เลย
คุณชายลู่หานถิงของตระกูลลู่ถ่อมตัวจนดูลึกลับ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็น ซูซีเคยส่งคนไปแอบตามสืบ
แต่รู้เพียงว่าลู่หานถิงเพิ่งมาอยู่ที่ เมืองไห่ได้เพียงไม่กี่ปี ที่อยู่ที่แท้จริงของเขาคือ... เมืองตี้ดู
เมืองตี้ดูเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด ผู้คนบนท้องถนนที่พบเจอล้วนแล้วแต่อาจเป็นลูกหลานตระกูลร่ำรวยกันทั้งนั้น ตระกูลทั่วไปไม่มีทางเข้าถึงศูนย์การเงิน
แน่นอนว่า เมืองตี้ดูก็มีการแบ่งระดับความร่ำรวยของตัวเอง พวกที่ร่ำรวยอยู่ระดับสูงสุดคือยักษ์ใหญ่บนโลกธุรกิจตัวจริง ควบคุมเศรษฐกิจสำคัญของทั้งทวีปเอเชีย
ซูซีเคยได้ยินมาว่า ลูกหลานตระกูลขุนนางที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในโลกธุรกิจของเมืองตี้ดูก็แซ่ลู่
ทั้งหมดนี้ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญมากเหลือเกิน จริงไหม?
ที่จริงแล้วครอบครัวตระกูลขุนนางที่มีอำนาจหยั่งรากลึกของเมืองไห่ก็คือตระกูลกู้ คุณชายกู้ตระกูลกู้ เย่จิ่นเป็น และสวมใส่กางเกงตัวเดียวกันเติบโตมาพร้อมกันกับลู่หานถิง
เซี่ยเสี่ยวแด๋รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของซูซีเปลี่ยนไป เธอจึงได้เอ่ยพูดต่อ “พี่ซูซี พี่ลืมแล้วเหรอว่าเซี่ยซีหวั่นเคยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งสองต่อสองตอนที่อยู่ชนบท ทั้งสองคนยังหลับนอนด้วยกันทั้งคืนในถ้ำ ตอนนั้นเซี่ยซีหวั่นเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง กลับกล้ามั่วกับผู้ชายดิบเถื่อนแบบนั้นแล้ว”
ซูซียกไวน์แดงขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว จากนั้นก็ยื่นมือขึ้นไปผลัก ผลักเซี่ยเสี่ยวแด๋ลงไปนอนบนเตียง
ท่าทางของซูซีหยาบกระด้างมาก หัวของเซี่ยเสี่ยวแด๋ชนเข้ากับตู้บนหัวเตียงดัง โป๊ก เธอเจ็บจนน้ำตาแทบไหลออกมา
ขณะนั้นเองซูซีก็ขึ้นมากดทับบนตัวเธอ ดวงตาแดงก่ำของเขาจ้องมองไปที่เซี่ยเสี่ยวแด๋
ท่าทางของซูซีทำให้เซี่ยเสี่ยวแด๋รู้สึกกลัวขึ้นมา ทุกครั้งที่เธอพูดเรื่องเซี่ยซีหวั่นอยู่กับผู้ชายคนอื่น เขาก็ควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้ทุกครั้ง และมีท่าทีที่น่ากลัว
แต่เซี่ยเสี่ยวแด๋ชอบซูซีมากเหลือเกิน ดังนั้นเธอจึงยื่นมือไปโอบรัดคอของซูซีไว้ “พี่ซูซี ฉันรักพี่นะ พี่เป็นผู้ชายคนเดียวของฉัน ครั้งแรกของฉันก็มอบให้พี่นะ”
ซูซีหน้าตาดูดุร้ายขึ้นมา ใช่แล้ว เซี่ยซีหวั่นหักหลังเขา ก็แค่ผู้หญิงใจง่ายคนหนึ่ง ไม่มีค่าอะไรสักนิด
เขาต้องลืมเซี่ยซีหวั่นให้ได้!
ซูซียื่นมือไปถึงเสื้อผ้าของเซี่ยเสี่ยวแด๋ออก เซี่ยเสี่ยวแด๋ดีใจแล้วกอดเขาเอาไว้ “พี่ซูซี ฉันจะอยู่กับพี่ตลอดไป”
ซูซีหลับตาลง แต่ในหัวของเขาไม่สามารถลบภาพของเซี่ยซีหวั่นออกไปได้เลย ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก แม่ของเซี่ยซีหวั่นพาเธอมาเป็นแขกที่บ้านตระกูลซู แม่ของเซี่ยซีหวั่นถามเขาว่า “ซูซี วันข้างหน้าให้หวั่นหวั่นเป็นภรรยาของนาย นายว่าดีไหม?”
ตอนนั้นเด็กหนุ่มอย่างเขาหน้าแดงไปหมด เขินอายจนพูดอะไรไม่ออกสักคำ เลยได้แต่หลบเข้าไปอยู่ในห้อง
วันนั้น เด็กทั้งสองจึงได้หมั้นหมายกันไว้
เขายังจำได้เซี่ยซีหวั่นตอนเด็กนั้นฉลาดและอ่อนน้อมมาก ดวงตาสีดำสดใสจ้องมองเขา ยิ้มให้เขา เรียกเขาว่า พี่ซูซี
ซูซีเอาหน้าซุกไปที่ผมของเซี่ยเสี่ยวแด๋ น้ำเสียงแผ่วเบาพึมพำชื่อคนออกมา พึมพำเรียกหวั่นหวั่น...
เซี่ยเสี่ยวแด๋เมื่อได้ยินชื่อ หวั่นหวั่น ก็เหมือนถูกน้ำเย็นสาดใส่ตั้งแต่หัวลงมา ล้างภาพความรักและความสุขทั้งหมดของเธอออกไปจนหมดสิ้น
.....
เซี่ยเสี่ยวแด๋นอนหลับไปแล้ว ในความมืดมิดนั้น ซูซีกำลังเอนหลังพิงกับหัวเตียง ยกมือขึ้นมาจุดไฟที่บุหรี่ แล้วสูบมันอย่างเงียบ ๆ
ขณะที่บุหรี่มวนนั้นกำลังจะถูกสูบจนหมด ซูซีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู กดหาเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่ง แล้วโทรออก
ทันใดนั้น ก็มีเสียงสดใสของเซี่ยซีหวั่นดังออกมาจากในสาย “ฮัลโหล”
“ฉันเอง” ซูซีพ่นควันบุหรี่ออกมา
เซี่ยซีหวั่นเงียบไปสักครู่ “โทรหาฉัน มีธุระอะไรเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีพันล้าน รักฉันให้มีสติหน่อย
นิยายที่เคยอ่านแล้วชอบหายไปหลายเรื่องเลยค่ะชอบอ่านซ้ำบางเรื่องอ่านจบแล้วก็มาเริ่มใหม่แต่ก็ไม่ต่อเนื่องค่ะ...