บทที่ 62 รูดบัตรของเขา
“จูบ...ถึงขั้นไหน?”
เมื่อเห็นดวงตาที่ร้ายกาจของเย่หลิง เซี่ยซีหวั่นก็พูดอย่างอาย “จูบถึงแค่ต้นคอ!”
เย่หลิงรู้สึกแปลกใจ “หวั่นหวั่น ฉันเพิ่งบอกว่าประธานลู่เป็นคนที่มีวุฒิภาวะความเป็นผู้ใหญ่ ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นผู้ใหญ่ไม่เพียงแค่คำพูดและการกระทำที่ดีแถมยังมีฐานะและอำนาจ สิ่งที่สำคัญที่สุดถ้าพูดถึงเรื่องนั้นแล้วเขาก็มีวุฒิภาวะพอที่จะมีได้”
ใบหน้าเล็กที่สวยของเซี่ยซีหวั่นแดงเหมือนกุ้งที่สุก “หลิงหลิง!”
“ฉันดูแล้วประธานลู่มองทะลวงเธอ เธอเป็นเหมือนกระต่ายสีขาวตัวน้อยที่ไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ดันหลุดไปในถ้ำหมาป่าของเขา เขาทนที่จะไม่สัมผัสเธออาจจะเป็น...เขาเลี้ยงเธอในฐานะเด็กผู้หญิงจึงปล่อยให้เธอค่อย ๆ เติบโต”
เซี่ยซีหวั่นไม่อยากพูดอีกต่อไปแล้ว ทุกครั้งที่เย่หลิงขึ้นทางด่วนเธอก็จะถูกโยนออกจากรถ
ในตอนนั้นเธอกับลู่หานถิงแค่จูบกันเท่านั้น คืนนั้นเขากอดเธอทั้งคืนเหมือนกับว่า...เหมือนจะชอบจูบมาก.............
เย่หลิงมองไปที่ดวงตาที่สดใสของเซี่ยซีหวั่นตาเป็นประกาย เธอรู้ว่าเธอชอบลู่หานถิงมาก เย่หลิงก็ไม่ได้แปลกใจ หวั่นหวั่นยังไม่ถึง 20 ปี ได้พบลู่หานถิงในวัยนี่มันยากที่ใจจะไม่เต้น
เธอมองไปที่ลู่หานถิง สายตาของลู่หานถิงก็จ้องไปที่หวั่นหวั่น มันเป็นสายตาของผู้ชายที่มองไปที่ผู้หญิงของเขา
ในฐานะญาติฝ่ายหญิงข้อนี้ถือว่าให้ผ่านได้ แต่มีปัญหาใหญ่อีกอย่างนั่นคือเซี่ยเหยียนเหยียน
เย่หลิงกลับมาที่ปัญหาเดิม “หวั่นหวั่น ระหว่างประธานลู่และเซี่ยเหยียนเหยียนมันเกิดอะไรขึ้น เธอถามเขาไหม?”
“ฉันถามแล้ว เขาบอกเซี่ยเหยียนเหยียนเคยช่วยชีวิตเขา เขาถือเป็นผู้มีพระคุณ”
อะไรนะ?
ใบหน้าเย่หลิงเต็มไปด้วยคำถาม “เซี่ยเหยียนเหยียนคนนี้จะช่วยชีวิตคนอื่นด้วยความเมตตาจริง ๆ อีกอย่างเธอช่วยชีวิตเป็นด้วย ช่วยครั้งหนึ่งดันเป็นประธานบริษัทลู่ซื่ออย่างลู่หานถิง คงไม่ใช่ว่าจงใจหรอกนะหรือเป็นแผนของเธอ ส่งคนมาฆ่าประธานลู่ จากนั้นเธอก็เป็นฮีโร่มาช่วย”
เซี่ยซีหวั่นชื่นชมเย่หลิงในเรื่องนี้อยู่มาก คนที่นินทาผู้อื่นเป็นงานอดิเรก แม้กระทั่งเบาะแสเล็กน้อยก็สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างละครเลือดสาดได้
อยู่ดี ๆ เย่หลิงก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นได้ “หวั่นหวั่น แล้วผู้ชายที่เธอเคยช่วยไว้ก่อนหน้านี้ ทำไมเธอไม่ช่วยลู่หานถิงล่ะ”
“.............”
เซี่ยซีหวั่น : หรือว่าฉันควรไปถามตัวเองเมื่อเจ็ดปีก่อน?
เย่หลิงขมวดคิ้ว “หวั่นหวั่นฉันรู้สึกว่าเซี่ยเหยียนเหยียนคนนี้มีความลับบางอย่าง เมื่อสิบปีก่อนหลังจากที่เธอกลับไปที่บ้านเกิด ทำไมฝีมือการแพทย์ของเซี่ยเหยียนเหยียนถึงได้ล้ำหน้าได้รวดเร็วขนาดนี้ จนกลายเป็นเด็กอัจฉริยะ เธอใช้วิธีอะไรในการช่วยลู่หานถิง จับบริษัทลู่ซื่อได้?”
ข้อแรกเซี่ยซีหวั่นรู้สึกว่าฝีมือการแพทย์ที่ล้ำหน้าของเซี่ยเหยียนเหยียน เชื่อมโยงกับการตายของหม่ามี้และอาการโคม่าของคุณปู่ ซึ่งนี่เป็นเรื่องลึกลับ
ข้อสอง เธอไม่รู้ว่าเซี่ยเหยียนเหยียนช่วยลู่หานถิงได้อย่างไร เมื่อกี้ตอนที่ลู่หานถิงอยู่ในรถก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง ลู่หานถิงกำลังปิดบังเหตุการณ์ตอนที่ถูกช่วยชีวิตไว้ เขาไม่อยากที่จะพูดถึงมันพูดเพียงสองสามคำก็ตัดจบ นั่นแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมีความสำคัญมากสำหรับเขาและเขายังคงหมกมุ่นอยู่เรื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมาอย่างไม่เคยลืม
นี่คือสิ่งที่เซี่ยซีหวั่นให้ความสำคัญมากที่สุด
ผู้หญิงทุกคนไม่สามารถทนเฉยกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ไม่สามารถแบ่งความรักกับผู้หญิงคนอื่นได้ เซี่ยซีหวั่นก็เช่นกัน
จินฮัวจ้างป้าคนหนึ่งมา ป้าทำอาหารให้สามอย่างและซุปหนึ่งอย่างเสร็จอย่างรวดเร็ว
อาหารเย็นจบลงเซี่ยซีหวั่นก็ไปอาบน้ำ เธอถือผ้าขนหนูเช็ดผมที่เปียกหมาด ๆ เมื่อมองไปชั้นล่างก็พบว่าลู่หานถิงกับรถRolls-Royce Phantom ยังไม่ไปไหน
เขายังอยู่ที่เดิม
เซี่ยซีหวั่นก้มลงมองจากนั้นก็ปิดผ้าม่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีพันล้าน รักฉันให้มีสติหน่อย
นิยายที่เคยอ่านแล้วชอบหายไปหลายเรื่องเลยค่ะชอบอ่านซ้ำบางเรื่องอ่านจบแล้วก็มาเริ่มใหม่แต่ก็ไม่ต่อเนื่องค่ะ...