สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1067

บทที่ 1067 ประหารชีวิตต่อหน้าธารกำนัล

บทที่ 1067 ประหารชีวิตต่อหน้าธารกำนัล

ในยุคโบราณ นักโทษประหารถูกกำหนดให้ประหารชีวิตหลังสารทฤดู เหตุที่นักโทษประหารสามารถหลบหนีได้ก็เพราะมีคนใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้

พวกเขาถูกพรรคเทพจันทราล่อลวง ลอบสังหารฮูหยินเก้ามิ่งขั้นหนึ่ง กระทำความผิดที่ไม่อาจอภัย นายอำเภอจึงได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้สังหารคนเหล่านี้ทันที

นักโทษประหารหลายสิบคนถูกนำตัวไปยังลานประหาร

ชาวบ้านต่างมามุงดูหลังจากทราบข่าว มองนักโทษประหารเหล่านั้นที่กำลังกระเสือกกระสนดิ้นรนด้วยสีหน้าทนไม่ได้

“พวกเรายังไม่เคยเห็นเหตุการณ์ที่คนมากมายเพียงนี้ถูกประหารพร้อม ๆ กันเลย”

“พวกเขากระทำความผิดร้ายแรง บัดนี้ยังคิดจะสังหารเก้ามิ่งฮูหยินขั้นหนึ่งอีก ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ดึงให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนไปด้วย”

“นั่นน่ะซี ไม่รู้จริง ๆ ว่าพวกเขาคิดอะไร อย่างไรก็ใกล้ตายแล้ว อยู่นิ่ง ๆ อย่างเชื่อฟังไม่ได้รึ ไยต้องไปฆ่าคน บัดนี้ดีนัก เดิมทียังสามารถอยู่ได้อีกสองสามเดือนแท้ ๆ”

“ข้าได้ยินว่า… พวกเขาถูกคนพรรคเทพจันทราพาตัวไป”

ชาวบ้านต่างเผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมา

ขณะนี้ราชสำนักกำลังตามล่าผู้ศรัทธาของพรรคเทพจันทรา หากมีผู้ศรัทธาพรรคเทพจันทราในหมู่ชาวบ้าน เช่นนั้นก็จะถูกขังคุก

มู่ซืออวี่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน มองดูนักโทษประหารถูกประหารชีวิต

นางกำลังรอคนของพรรคเทพจันทรา ทว่าคนเหล่านั้นกลับไม่ปรากฏตัว เห็นได้ว่านักโทษที่ถูกลงโทษเป็นเพียงลูกนอกสมรสที่ไม่เป็นที่ต้องการ

อย่างไรก็ตาม นางเชื่อว่าพรรคเทพจันทราปะปนอยู่ในฝูงชนอย่างแน่นอน เพราะเป้าหมายของพวกเขาคือนาง ในเมื่อนางยังไม่ตาย คนเหล่านั้นย่อมไม่หยุดลงมือ

“คนเหล่านั้นที่ชอบหลบเลี่ยงสายตา ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ส่งคนตามไปดู” มู่ซืออวี่กล่าว

ลู่เยี่ยปลอมตัวเป็นผู้คุ้มกันธรรมดายืนอยู่ข้างหลังนาง “นายหญิงวางใจ คนของเราจับตามองอยู่ที่นี่นานแล้ว”

นายอำเภอประหารชีวิตนักโทษประหาร สืบเนื่องมาจากการเตรียมการของมู่ซืออวี่

ประการแรก นักโทษประหารเหล่านี้ถูกตัดสินโทษประหาร ตายช้าไม่สู้ตายเร็วหน่อย เพราะยังสามารถใช้เป็นเหยื่อล่อได้

ประการที่สอง คนเหล่านี้ไม่อาจเก็บไว้ได้อีกต่อไป หากถูกคนของพรรคเทพจันทราช่วย นางย่อมมีปัญหาให้ปวดหัวไม่จบไม่สิ้น ถึงแม้พวกมันจะเป็นเพียงมด ทว่าการมีมดมากเกินไปก็อาจเป็นปัญหาได้

ประการที่สามเป็นการตักเตือน ชาวบ้านส่วนใหญ่มักอวดรู้ คิดว่าพรรคเทพจันทราเป็นลัทธิศักดิ์สิทธิ์ ในเมื่อการใช้คำเตือนนั้นไร้ประโยชน์ เช่นนั้นก็ใช้คมดาบบอกพวกเขาว่าเมื่อเข้าร่วมกับพรรคเทพจันทราแล้ว พวกเขาและญาติสนิทมีเพียงต้องย้ายศีรษะออกจากคอเท่านั้น

มู่ซืออวี่กลับมาที่ว่าการอำเภอ

นายอำเภอพานักการมา นักการทำการคุมตัวคนที่มีท่าทีลับ ๆ ล่อ ๆ หลายสิบคนไป

คนเหล่านี้คือคนที่ปะปนอยู่ในฝูงชนเมื่อครู่นี้

“พระชายา คนเหล่านี้ล้วนมีสัญลักษณ์ของพรรคเทพจันทราอยู่บนตัวขอรับ”

“เช่นนั้นก็เริ่มไต่สวนเถอะ! ผู้ใดเอ่ยความจริงก็กลับบ้านได้ หากไม่เอ่ยความจริงจะถูกพาไปที่ลานประหาร ให้เพชฌฆาตที่นั่นเริ่มช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกครั้ง”

“ขอรับ”

นักการนำคนของพรรคเทพจันทราไปยังห้องขัง

นายอำเภอกล่าวกับมู่ซืออวี่ “พระชายา คนของพวกข้าถูกส่งไปตรวจสอบแล้ว ภูมิประเทศของเขาว่านเฟิ่งนั้นอันตราย ตามหายากจริง ๆ หากผู้สูงศักดิ์ผู้นั้นที่ท่านกล่าวตกลงไปที่นั่น เกรงว่า…”

“เกรงว่าอะไร?”

“เกรงว่าจะถูกหมาป่ากินไปแล้วขอรับ” นายอำเภอกัดฟันเอ่ยออกมารวดเดียว

“บางทีเขาอาจไม่ได้ตกลงไปที่นั่น”

“เป็นไปไม่ได้ขอรับ” นายอำเภอกล่าว “พวกเราส่งคนเก็บสมุนไพรออกไปหลายคน คนเก็บสมุนไพรเหล่านั้นเป็นพยานได้ว่ามีคราบเลือดบนหน้าผา ทั้งยังมีร่องรอยของคนตกลงมา เกรงว่าผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นจะ…”

ประสบเหตุร้ายมากกว่าดีแล้ว

มู่ซืออวี่หลับตาลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย