สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 108

บทที่ 108 ร่องรอยของภรรยา

บทที่ 108 ร่องรอยของภรรยา

ลู่อี้ยัดรูปภาพรูปหนึ่งใส่มือนักการเกา “ชายผู้นี้ทะเลาะวิวาทกับพ่อของเขาเรื่องการพนัน สุดท้ายก็ฆ่าพ่อตัวเอง ขโมยเงินแล้วหลบหนีไปเมื่อคืนนี้ คงต้องรบกวนพี่ใหญ่เกานำคนไปจับเขามารับโทษแล้ว”

นักการเการับมา สีหน้าหยอกล้อพลันจางหายไป เขาจ้องมองดวงตาที่เหมือนกับกระดิ่งทองแดงของคนตรงหน้าแล้วก่นด่าฆาตกร “ไอ้คนเลวยิ่งกว่าเดรัจฉานนั่น ข้าจะจับเขากลับมาทันที”

หลังจากที่นักการเกาออกไปแล้ว ลู่อี้ก็มองไปรอบ ๆ อย่างเย็นชา คนอื่น ๆ ถูกเขามองเช่นนั้นก็รู้สึกละอาย จึงหันไปทำงานของตัวเองต่อไปอย่างจริงจัง

“เจ้าหน้าที่ลู่” จู่ปู้เดินเข้ามา “เมื่อวานนี้ท่านช่วยข้าขวางไว้ ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง? ข้ามียาแก้ฟกช้ำ ท่านถอดเสื้อผ้าออก ข้าจะทาให้ท่าน”

“ไม่จำเป็นแล้ว ท่านจู่ปู้ ภรรยาข้าทายาให้ข้าแล้วเมื่อเช้านี้” ลู่อี้ประสานมือขอบคุณ

“ภรรยาเจ้าทาให้เจ้างั้นหรือ? เช่นนั้นรอยบนหน้าเจ้า… เพราะเจ้าบาดเจ็บกลับมา ภรรยาถึงได้กัดเจ้างั้นรึ?” จู่ปู้ยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

“ไม่ขอรับ ภรรยาข้าเพียงแค่ชอบล้อเล่น”

“ฮ่าฮ่า ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ คนหนุ่มคนสาวโกรธง่ายเป็นธรรมดา” จู่ปู้ขยิบตาให้ ราวกับเรื่องนี้เข้าใจตรงกันอย่างไรอย่างนั้น

“ท่านจู่ปู้ มีคดีหนึ่งที่อยากจะขอคำแนะนำ ไม่รู้ว่าจะสะดวกขยับสักก้าวไปพูดคุยสักครู่ได้หรือไม่?”

จู่ปู้เห็นคนตรงหน้าก็เจริญหูเจริญตาขึ้นร้อยเท่า ไม่ได้สนใจว่าสีหน้าเย็นเยียบนั้นจะทำให้คนกลัวหรือไม่ เขาเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น “ที่ของข้าไม่มีคน ไปคุยกับข้าที่นั่นเถอะ”

เรื่องที่ลู่อี้อยากถามคือเรื่องของภัตตาคารเจียงซื่อ

จู่ปู้ได้ยินเช่นนี้แล้วสีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้นมา

“เจ้ามีความสัมพันธ์อันดีกับภัตตาคารเจียงซื่อหรือ?”

“คนเฝ้าร้านของที่นั่นพอจะมีความสัมพันธ์อันดีกับข้าอยู่บ้าง ในตอนที่ข้าตกต่ำที่สุด สหายผู้นั้นช่วยเหลือข้าเสมอ”

“หากแค่อยากช่วยคนเฝ้าร้านคนหนึ่ง เรื่องนั้นไม่ยาก แต่ถ้าอยากช่วยคนภัตตาคารเจียงซื่อทั้งหมด เกรงว่าจะไม่ได้”

“เท่าที่ข้ารู้มา เรื่องราวทั้งหมดเกิดจากของปลอมที่คนในร้านคนหนึ่งนำมา หากจะกล่าวโทษ ย่อมเป็นความผิดของคนที่นำมา คนอื่นย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์”

“หากไม่มีคนตาย คดีนี้ย่อมไม่มีการลงโทษสถานหนัก แต่ในเมื่อมีคนตายนี่ก็ยุ่งยากแล้ว หวังซานหนีไปแล้ว ทุกสิ่งล้วนเป็นคำข้างเดียวของคนอื่น เป็นหลักฐานไม่ได้ เถ้าแก่ภัตตาคารเจียงซื่อยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ต้องได้รับโทษสถานหนักอย่างแน่นอน เถ้าแก่จัดการร้านหละหลวม ก็ต้องได้รับโทษสถานหนักเช่นกัน คนเฝ้าร้านคนอื่น ๆ ได้รับการผ่อนปรนให้ไปเข้ากองทัพได้ หากจ่ายค่าปรับก็สามารถให้คนกลับมาได้”

ลู่อี้สอบถามอีกครั้ง พยายามยกเหตุผลทุกอย่างเพื่อหาวิธีพิสูจน์ให้ทุกคนในภัตตาคารเจียงซื่อพ้นโทษ แต่ด้วยกฎหมายเวลานี้ หากเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าคนตาย ย่อมต้องได้การตัดสินโทษสถานหนัก

ขณะที่ลู่อี้พยายามหาหนทางเพื่อช่วยทุกคนในภัตตาคารเจียงซื่อ มู่ซืออวี่ก็พบถังเหยียนจื้อที่มาโดยไม่ได้รับเชิญอีกครั้ง

“น้องซืออวี่…” เขาผลักประตูเอาไว้ไม่ให้มู่ซืออวี่ปิดได้ น้ำลายไหลราวกับสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง

“ใครเป็นน้องของเจ้า? น้องของเจ้าทำงานเป็นสาวรับใช้อยู่ที่จวนหลี่ อย่าได้เข้าใจผิด” มู่ซืออวี่เอ่ยอย่างเย็นชา “หากยังไม่ไปอีก อย่าได้ตำหนิที่ข้าไม่เกรงใจ”

“น้องซืออวี่ ฟังข้าสักคำ ภัตตาคารเจียงซื่อถูกปิดแล้ว ตอนนี้เจ้าไม่มีคู่ค้าอีกแล้ว เหตุใดไม่ร่วมมือกับเราล่ะ”

“เรื่องภัตตาคารเจียงซื่อคงไม่ใช่ฝีมือของพวกเจ้าหรอกนะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย