สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 149

บทที่ 149 กินน้ำส้มสายชู

บทที่ 149 กินน้ำส้มสายชู

มู่ซืออวี่เดินเข้ามา เห็นเย่อิงเกอร้องไห้อย่างเศร้าใจก็ถามลู่เซวียนว่า “ตอนนี้จะทำอย่างไร?”

นางแค่อยากสั่งสอนบทเรียนให้โหยวจิ้นจง แม้บาดแผลของเขาจะดูร้ายแรง ทว่าในความเป็นจริงเป็นเพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น เดี๋ยวก็ฟื้นขึ้นมาเอง

“อิงเกอ เจ้าจะกลับไปไม่ได้ หากกลับไปอยู่ข้างกายเขาอีก เจ้าถูกเขาทุบตีจนตายแน่” ลู่เซวียนกล่าว “โหยวจิ้นจงทั้งเห็นแก่ตัวทั้งน่ารังเกียจ เจ้าเห็นเขาสภาพนี้แล้ว เขาจะไม่ลงไม้ลงมือได้อย่างไร?”

“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”

พูดอยู่นานกลับไม่ได้ใจความสำคัญเลยแม้แต่คำเดียว

เย่อิงเกอรู้ดีว่าคนผู้นี้น่ารังเกียจเพียงใด ไม่เช่นนั้นนางคงไม่โกรธเช่นนี้

“อิงเกอ ข้าจะไปส่งเจ้า หนีไปจากที่นี่เถอะ หนีไปจากเขา ยิ่งไกลยิ่งดี” ลู่เซวียนกล่าว

เย่อิงเกอส่ายหัวเบา ๆ “ไม่มีประโยชน์ พี่เซวียน ข้าเป็นอนุของเขา อนุต่ำต้อยยิ่งกว่าบ่าวรับใช้ หากข้าไปแล้ว ขอแค่เพียงเขาแจ้งแก่ทางการ ข้าจะถูกออกหมายจับทันที”

“เจ้ากลับไปไม่ได้เป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นเจ้ารักษาชีวิตไว้ไม่ได้แน่ ใช่แล้ว ไปคิดหาหนทางกับพี่ชายข้าเถิด เขาฉลาดขนาดนั้น จะต้องคิดหนทางออกมาได้แน่ ๆ” ลู่เซวียนกล่าว

“เช่นนั้นคนผู้นี้…” มู่ซืออวี่เหลือบมองชายที่นอนอยู่บนพื้น

“จะสนใจเขาไปไย?” ลู่เซวียนเหลือบมองโหยวจิ้นจงด้วยความรังเกียจ “คนเลวไร้ยางอายพรรค์นี้ ตายอยู่ที่นี่เสียก็ดี”

หลังจากล่าช้ามานาน เมื่อกลับมาหาลู่อี้ เขาก็ยืนรออยู่ที่ประตูศาลาว่าการแล้ว

ครั้นลู่อี้เห็นเย่อิงเกอ จึงมองไปยังลู่เซวียนด้วยสายตาสับสน

ลู่เซวียนดึงลู่อี้เข้ามากระซิบข้าง ๆ หลังจากเล่าเรื่องราวอย่างสั้น ๆ แล้ว เขาก็อธิบายสถานการณ์ของเย่อิงเกอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ท่านพี่ พี่ชายของอิงเกอเป็นสหายร่วมเรียนกับเรา มีความสัมพันธ์อันดีกับเรามาโดยตลอด เมื่อไม่กี่ปีก่อนถูกม้าเตะโดยไม่คาดคิด ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากมารักษา โหยวจิ้นจงใช้โอกาสนี้ยื่นข้อเสนอว่าเขาจะรับอิงเกอเป็นอนุของเขา ตระกูลเย่จึงส่งอิงเกอไปให้เจ้าสารเลวโหยวจิ้นจง ทว่าต่อมาพี่ชายอิงเกอก็เสียชีวิต อิงเกอกลายเป็นหุ่นเชิด หากพี่ชายที่อยู่ในปรโลกรับรู้เข้าคงตายตาไม่หลับแน่ ๆ”

“เจ้าเชื่อใจข้าหรือไม่?” ลู่อี้ถาม

“แน่นอน ท่านเป็นพี่แท้ ๆ ของข้า บนโลกนี้ไม่มีผู้ใดดีกับข้าเท่าท่านแล้ว” ลู่เซวียนรู้สึกว่าลู่อี้กำลังพูดอะไรโง่ ๆ

“เช่นนั้นก็ทำตามแผนของข้า” ลู่อี้กล่าว ก่อนจะเดินกลับไปหาเย่อิงเกอ “อิงเกอ เจ้าต้องกลับไป กลับไปอยู่ข้างกายของโหยวจิ้นจง”

เย่อิงเกอสั่นสะท้านไปทั้งตัว

มู่ซืออวี่พยุงเย่อิงเกอเอาไว้ ไม่ให้ถลาล้มลงบนพื้น

“เดินไปคุยที่อื่นเถอะ” ลู่อี้เอ่ยกับเย่อิงเกอ

เย่อิงเกอก้มหัวของนางลง เดินตามหลังลู่อี้ไปจนถึงมุมหนึ่งไม่ไกลจากตรงนั้น

มู่ซืออวี่มองตามไปทางนั้นพลางบ่นพึมพำ “ยังมีเรื่องอะไรที่ข้าฟังไม่ได้อีก ลึกลับซับซ้อนจริงเชียว”

“กินน้ำส้มสายชู*[1] หรือ?” ลู่เซวียนเอ่ยถาม

“เฮอะ เจ้ายังไม่กินน้ำส้มสายชู แล้วข้าจะกินน้ำส้มสายชูได้อย่างไร?” มู่ซืออวี่จ้องมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์

“เจ้าอย่าพูดจาไร้สาระ ข้ากับอิงเกอไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างที่เจ้าคิด” ลู่เซวียนเอ่ย “ข้าและท่านพี่เป็นสหายร่วมเรียนกับพี่ชายของอิงเกอ ตอนนั้นพวกเรามีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อิงเกอมักจะมาส่งของให้พี่ชายของนาง พวกเราจึงรู้จักกัน อันที่จริงข้ามองนางเป็นน้องสาวมาเสมอ พี่ชายของนางไม่อยู่แล้ว ครั้นมาเห็นนางตกอยู่ในเงื้อมมือของโหยวจิ้นจงแบบนี้ ข้าย่อมปวดใจมาก”

“เป็นเพียงน้องสาวจริง ๆ หรือ?” มู่ซืออวี่ประหลาดใจ

สมองของนางคิดถึงละครฉากใหญ่ นึกว่ารักแรกถูกแย่งชิงไปเสียอีก สุดท้ายเขากลับมองนางเป็นแค่น้องสาว

อารมณ์กำลังได้ที่ เตรียมผ้าไว้ซับน้ำตาเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่ภาพยนตร์โศกนาฏกรรมเสียนี่

ลู่อี้และเย่อิงเกอกลับมาแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย