สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 163

สรุปบท บทที่ 163 ท่านจ่ายชำระทีละงวดได้: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สรุปเนื้อหา บทที่ 163 ท่านจ่ายชำระทีละงวดได้ – สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย โดย Internet

บท บทที่ 163 ท่านจ่ายชำระทีละงวดได้ ของ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย ในหมวดนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 163 ท่านจ่ายชำระทีละงวดได้

บทที่ 163 ท่านจ่ายชำระทีละงวดได้

อันอี้หางรู้จักนางจึงตอบเสียงเบากลับไป “ที่นี่ไม่มีอะไรเหมาะเลย”

“ท่านบอกมาเถิดว่าต้องการเสื้อผ้าแบบไหน จากนั้นค่อยจับคู่ให้ตรงตามความต้องการ อย่างเช่น ชุดกระโปรงสีส้มนี้สามารถเข้าคู่กับสีเข้มนั่นได้ เข้าชุดกับตัวสีเหลืองนั่นก็ได้เช่นกัน ยังมี…”

มู่ซืออวี่อธิบายอยู่นาน

อันอี้หางรอให้นางหยุดพูดก่อนจะกล่าวว่า “ที่ท่านพูดมาข้าล้วนเข้าใจทั้งหมด แต่ข้านำเงินมาไม่พอน่ะ”

“ท่านอยากจะซื้อเสื้อผ้าให้น้องสาวจริง ๆ หรือ?” มู่ซืออวี่ถาม “หากอยากซื้อจริง ๆ ข้ามีวิธีช่วยท่านได้”

“วันนี้น้องสาวของข้าจะแต่งงาน ข้าอยากจะซื้อชุดสวย ๆ สักชุดให้นางเป็นของขวัญ ท่านมีวิธีใดหรือ?” อันอี้หางถามนาง

มู่ซืออวี่จึงเล่าวิธีของตนให้อันอี้หางฟัง

อันอี้หางเผยสีหน้าประหลาดใจ “นี่คือสิ่งที่ท่านคิดเองหรือ?”

“ตกลงหรือไม่?” มู่ซืออวี่ถาม “หากตกลง ข้าจะเรียกเจ้าของร้านออกมา”

“ขอบคุณ” อันอี้หางกล่าว “เช่นนั้นต้องรบกวนฮูหยินแล้ว”

“ซูอวี้” มู่ซืออวี่เรียกเจิ้งซูอวี้ที่อยู่ไม่ไกลนัก

ครั้นเจิ้งซูอวี้ได้ยินเสียงนี้ จึงเอ่ยลากับคุณหนูเจี่ยงที่อยู่ข้าง ๆ จากนั้นก็เดินเข้ามาหา

“มาแล้ว”

“ข้าอยากจะปรึกษากับท่านสักหน่อย” มู่ซืออวี่เอ่ยว่า “หากจะให้คุณชายอันแบ่งชำระเป็นงวด ๆ เป็นอย่างไร?”

“แบ่งชำระ?” เจิ้งซูอวี้ไม่เคยได้ยินวิธีเช่นนี้มาก่อนจึงรู้สึกสงสัย “ไหนลองเล่าให้ฟังหน่อยสิ”

มู่ซืออวี่จึงอธิบายอีกครั้ง

“แน่นอนว่าวิธีนี้มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ใช้ได้ ดังนั้นท่านต้องเป็นคนเลือก บางคนต่อให้แบ่งชำระก็ไม่สามารถจ่ายเงินได้ แต่บางคนแค่ขาดเงินเพียงชั่วคราวเท่านั้น ท่านเพียงทำให้ง่ายต่ออีกฝ่ายเท่านั้น อันที่จริงนี่ไม่ใช่การอำนวยความสะดวกให้ตนมากขึ้นหรือ? อีกทั้งทำเช่นนี้ยังสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นอีกด้วย”

“ข้าเข้าใจแล้ว ขอแค่เพียงอีกฝ่ายแสดงของสำคัญ เช่น หลักฐานสำมะโนครัว หรือสิ่งของที่สามารถจำนำได้ เช่นนี้ก็จะทำให้อีกฝ่ายสามารถแบ่งจ่ายหลาย ๆ งวดได้ หลังจากจ่ายครบแล้วก็จะคืนให้อีกฝ่าย”

“ไม่ผิด ๆ”

“ไม่รู้ว่าคุณชายผู้นี้มีสิ่งของสำคัญใดหรือ?” เจิ้งซูอวี้เรียนรู้แล้วประยุกต์ใช้ทันที

อันอี้หางครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะดึงป้ายชื่อแสดงสถานะของตนออกมา “ข้าเป็นบัณฑิตของสำนักบัณฑิตเขาเขียว บัณฑิตของสำนักบัณฑิตเขาเขียวทุกคนมีป้ายไม้ที่ข้างหลังสลักชื่อของพวกเราเอาไว้ ตอนนี้ของสำคัญของข้ามีเพียงสิ่งนี้ ท่านสามารถส่งคนไปสอบถามดูได้ ข้าคืออันอี้หางจากสำนักบัณฑิตเขาเขียว”

“เอ่อ…” เจิ้งซูอวี้งุนงง

ป้ายไม้นี้อาจจะมีความสำคัญต่ออันอี้หางมาก แต่สำหรับนางแล้ว…

เทียบไม่ได้แม้แต่อีแปะเดียว

“ใช้ทะเบียนบ้านก็ได้เช่นกัน ทะเบียนบ้านสำคัญมาก หากไม่มีทะเบียนบ้าน เจ้าก็ทำอะไรหลาย ๆ อย่างไม่ได้” มู่ซืออวี่กล่าว

“ข้าจะจ่ายเงินที่เหลือภายในสิบวัน ใช้ป้ายไม้นี้เป็นสิ่งค้ำประกันไปก่อนได้หรือไม่?” อันอี้หางถาม

เจิ้งซูอวี้หันมามองมู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่ดึงเจิ้งซูอวี้มาแล้วเอ่ยสองสามคำ

เมื่อทั้งสองคนหันกลับมา เจิ้งซูอวี้ก็ตกปากรับคำ “แต่ท่านต้องเขียนหนังสือยืมหนี้ด้วยตัวเอง”

“ไม่มีปัญหา” อันอี้หางตอบรับ

หลังจากเขียนหนังสือยืมหนี้แล้ว อันอี้หางก็ขอให้มู่ซืออวี่ช่วยเขาเลือกเสื้อผ้าหนึ่งชุด

อันอี้หางนำเงินมา 4 ตำลึงเงิน ยังเหลืออีก 6 ตำลึงเงินที่ยังไม่ชำระ

“ข้าน้อยอันอี้หาง ยังไม่รู้ว่าต้องเรียกฮูหยินว่าอย่างไร?”

พบกันหลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันมากนัก วันนี้ยังช่วยเขามากมาย ย่อมต้องถามชื่อเอาไว้ ครั้งหน้าพบกันจะได้รู้ว่าต้องเรียกว่าอย่างไร

“คุณชายอาจจะจำไม่ได้แล้ว” มู่ซืออวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ครั้งหนึ่งข้าตกอยู่ในอันตราย ก็เป็นคุณชายที่ช่วยข้าเอาไว้”

อันอี้หางเผยสีหน้ามึนงง

มู่ซืออวี่จึงอธิบายเหตุการณ์ในตอนนั้น

อันอี้หางพลันจำได้ทันที “ที่แท้ก็เป็นท่าน”

“คุณหนูรองเจิ้ง ข้าน้อยถังหมิงฉง”

สายตาของถังหมิงฉงจับจ้องอยู่ที่มู่ซืออวี่

นางเป็นสตรีของลู่อี้

เฮอะ! วันนี้ก็ช่างมันเถิด เรื่องอื่นสำคัญกว่า

มู่ซืออวี่เองก็จ้องมองถังหมิงฉง คนที่สร้างความยุ่งยากให้ลู่อี้เช่นกัน

“นับแต่ภัตตาคารหมายเลขหนึ่งและภัตตาคารเจียงซื่อปิดไป ร้านอาหารของคุณชายถังก็กลายมาเป็นกิจการที่ดีที่สุด” เจิ้งซูอวี้เอ่ยเบา ๆ “ดูกิจการนี้แล้ว ไม่เลวจริง ๆ”

“พอใช้ได้” ถังหมิงฉงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่มีงานอดิเรกอื่น ๆ ชอบแค่ทำการค้าขายน่ะ จนถึงตอนนี้ ร้านอาหารของสกุลข้าไปได้ไม่เลว ได้ยินว่ากิจการของคุณหนูเจิ้งก็กำลังไปได้ดี พูดแล้วพวกเรานี่ก็เหมือนกันทีเดียว”

อาหารเรียงรายเข้ามาแล้ว

มู่ซืออวี่เริ่มลงมือทานอาหาร

ความรังเกียจแวบผ่านสายตาของถังหมิงฉง

นังหญิงบ้านนอกกิริยาหยาบคายคนนี้นี่

แกร๊ง!

เขาเอื้อมมือออกไปหยิบผัก แต่การเคลื่อนไหวใหญ่โตเกินไป ทำให้ปัดตะเกียบของมู่ซืออวี่หล่นลง

“อ๊ะ ขออภัย”

มู่ซืออวี่หลุบตามองตะเกียบที่อยู่บนพื้น แล้วช้อนตาขึ้นมองถังหมิงฉง

นางแค่อยากอยู่เงียบ ๆ แต่ชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ

“ที่นี่ไม่เลวจริง ๆ ฝั่งตรงข้ามยังเป็นเรือนวสันต์” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้นเบา ๆ “กลิ่นบนร่างกายของคุณชายไม่ใช่กลิ่นของผัก แต่ดูเหมือนกลิ่นกายของสตรีจากเรือนวสันต์มากกว่า เห็นได้ชัดว่าทำเลไม่เลวจริง ๆ หากลูกค้าฝั่งตรงข้ามหิวขึ้นมา ก็สามารถสั่งอาหารรสเลิศจากที่นี่ให้ไปส่งได้ หากลูกค้าที่นี่อิ่มแล้ว ก็สามารถไปฝั่งตรงข้ามเพื่อความรื่นเริงได้เช่นกัน”

“พูดจาเหลวไหลอะไร?” ถังหมิงฉงเอ่ยด้วยสีหน้าเยือกเย็น

“ข้าพูดผิดหรือ? ตรงข้ามไม่ใช่เรือนวสันต์หรือไร?” มู่ซืออวี่มองไปทางนั้น “แม่สาวน้อยบนหน้าต่างฝั่งตรงข้ามนั้นน่ะ ไม่ใช่ว่ากำลังโบกสะบัดผ้าเช็ดหน้าให้คุณชายถังมิตรสหายเก่าแก่หรือ?”

“คุณหนูเจิ้ง ท่านพ่อให้เรานัดดูตัวกันที่นี่สองคน เหตุใดท่านจึงพาหญิงบ้านนอกไม่รู้ความมาที่นี่?” ถังหมิงฉงโกรธเกรี้ยว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย