สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 227

บทที่ 227 คิดบัญชีกับแม่เฒ่าเจียง

บทที่ 227 คิดบัญชีกับแม่เฒ่าเจียง

บ่ายวันถัดไป มู่ซืออวี่วางหนังสือดีที่หอหนังสือหงเหวินส่งมาให้ในพื้นที่ของสมนาคุณ จากนั้นวางป้ายที่มีรูปวาดเชื้อเชิญไว้ตรงประตู ในนั้นระบุว่าหากซื้อมากกว่า 20 ตำลึงเงิน จะได้รับ ‘คันฉ่องสองด้าน’ เล่มพิเศษเป็นของสมนาคุณ

หลังจากจัดการเรื่องทั้งหมดนี้เสร็จสิ้นแล้ว นางจึงตรวจงานที่มอบหมายให้ลูกศิษย์ทั้งหมดกลับไปทำเพื่อดูความคืบหน้าล่าสุดของคนงาน

เซี่ยคุนนำห่อผ้าห่อหนึ่งมาส่งให้มู่ซืออวี่

“นี่อะไร?” มู่ซืออวี่รู้สึกสงสัย เมื่อนางเปิดออกดูก็พบว่าเป็นเสื้อผ้าสตรีชุดหนึ่ง

มองดูแล้วชุดสตรีนี้โปร่งบางมาก แน่นอนว่าไม่ใช่ขนาดตัวของนาง แต่จู่ ๆ นางก็รู้สึกอยากแกล้งเขาขึ้นมา

“ให้ข้าหรือ? เสื้อผ้าชุดนี้สวยจริง ๆ” มู่ซืออวี่นำไปทาบบนตัวนาง

เซี่ยคุน “…”

เขาจ้องหน้านางเขม็ง ประหนึ่งกำลังบอกว่า ‘นี่เจ้าโง่เง่าเต่าตุ่นไปแล้วหรือ?’

มู่ซืออวี่เห็นเขาเป็นเช่นนี้ก็หมดสนุก รีบวางเสื้อผ้าชุดนั้นลง

“เสื้อผ้าชุดนี้ตัดเย็บไม่เลว ราคาคงไม่ใช่ถูก ๆ กระมัง?”

“ไม่แพง”

“ไม่แพงจริง ๆ นั่นแหละ สินสอด 100 ตำลึงก็จ่าย เสื้อผ้า 2 ตำลึงเงินจะแพงอย่างไรกัน?” มู่ซืออวี่เอ่ยเย้า

“นาง….จะชอบหรือไม่?” เซี่ยคุนกังวลใจ

“ท่านคงไม่ได้ประหม่าใช่หรือไม่? โถ พ่อคนดี นี่เป็นประวัติการณ์จริง ๆ! พี่ใหญ่เซี่ยถึงกับตกประหม่า หายากยิ่งกว่าสายฝนสีแดงเสียอีก”

เซี่ยคุนคว้าเสื้อผ้าชุดนั้นขึ้นมา ยัดใส่อ้อมแขนของนางอีกครั้ง

“ท่านคงไม่ได้หวังให้ข้าเอาไปมอบให้นางแทนท่านใช่หรือไม่?” มู่ซืออวี่เลิกคิ้วขึ้น “พี่ชาย ตอนนี้นางเป็นคู่หมั้นคู่หมายของท่านแล้ว ท่านอยากให้อะไรก็ให้ได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีกแล้ว”

“ข้าไม่รู้ว่าต้องเอาไปให้อย่างไร” เซี่ยคุนยังคงไม่สบายใจ

“ท่านก็หอบเอาเสื้อผ้านี้ไป คุกเข่าลงข้างหนึ่ง แล้วเอ่ยกับนางด้วยความรักใคร่ ‘เสี่ยวอวี้ เจ้าจะใส่เสื้อผ้าที่ข้าซื้อมาหรือไม่’ เช่นนี้ก็ได้แล้ว”

มุมปากของเซี่ยคุนกระตุก เขามองนางราวกับนางเป็นคนโง่

มู่ซืออวี่หัวเราะคิกคัก “หากไม่อยากฟังข้า เหตุใดต้องมาถามข้า? นำเสื้อผ้าหนึ่งชุดไปมอบให้นั้นต้องมีคำพูดมากมายเพียงนั้นเชียวหรือ? ท่านก็แค่นำไปให้ก็พอแล้ว”

หัวคิ้วของเซี่ยคุนขมวดจนแทบจะบี้แมลงวันให้ตายได้แล้ว

ตอนที่เขาเห็นชุดนี้ก็คิดว่า หากนางสวมใส่มันจะต้องน่ามองมากเป็นแน่ เขาจึงตัดสินใจซื้อมาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ทว่าหลังจากซื้อมาแล้วก็เกิดปัญหา ไม่รู้ว่าควรมอบให้นางอย่างไร

มู่ซืออวี่ไม่สนใจเขาอีก ไม่ว่าเขาจะตามติดนางเพียงไร นางก็จะไม่นำไปส่งให้

“พี่สะใภ้” จางโม่หลานวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในร้าน “ท่านรีบกลับไปที่บ้านเถอะ ที่บ้านเกิดเรื่องแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น?” มู่ซืออวี่วางเครื่องเรือนไม้ในมือลง

“ข้าไม่อาจอธิบายให้ชัดเจนได้ในไม่กี่คำ วันนี้พี่อี้ยุ่งหรือไม่ หากไม่ยุ่งก็เรียกเขากลับไปด้วยเถอะ!” จางโม่หลานกล่าว

มู่ซืออวี่หันมองเซี่ยคุน “พวกเรากลับบ้านเถอะ ระหว่างทางแวะศาลาว่าการกันก่อน ดูว่าสามีข้ากลับไปด้วยได้หรือไม่”

เป็นไปดังคาด ไม่ว่าลู่อี้จะยุ่งเพียงใด เมื่อได้ยินว่าที่บ้านเกิดเรื่องเขาก็กลับมาด้วยทันที

มู่ซืออวี่และจางโม่หลานขึ้นรถม้าที่เซี่ยคุนบังคับ ลู่อี้นั่งอยู่ในรถม้าที่จือเชียนบังคับ ส่วนต้าจู้ที่บังคับเกวียนวัวมานั้นให้เขาค่อย ๆ ตามหลังกลับไป

ภายในรถม้า จางโม่หลานเล่าสิ่งที่นางรู้ให้มู่ซืออวี่ฟัง

“คนในหมู่บ้านเห็นถงซื่อและหลินต้าจ้วงนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน แม่เฒ่าเจียงบอกว่าหลินต้าจ้วงมาหามู้ต่าไห่ พอดีกับที่ถงซื่อกลับบ้านมาหาของที่เคยเก็บไว้ที่นั่นพอดี จึงได้ยั่วเย้าหลินต้าจ้วงและทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงกัน แม่ของท่านตื่นมาก็ร้องห่มร้องไห้ นางกลับไปถึงบ้าน พยายามแขวนคอตนเอง โชคดีที่แม่สามีของข้าเป็นห่วงก็เลยไปหานาง ช่วยนางเอาไว้ได้ ท่านหมอจูรีบร้อนมาหาข้ากับสามีที่กำลังจะเข้าเมืองพอดีจึงให้มาบอกท่าน ตอนนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว”

“ขอบคุณเจ้ามาก ไม่รู้ว่าข้าต้องตอบแทนพวกเจ้าอย่างไรดี” มู่ซืออวี่เอ่ยอย่างจริงใจ “เจ้ากำลังท้องกำลังไส้ ควรให้ท่านหมอจูมาเพียงคนเดียวก็พอแล้ว”

“ตอนนั้นข้ากำลังเป็นกังวล คิดว่าหากเขามาเพียงลำพังแล้วกล่าวได้ไม่ชัดเจนจะทำอย่างไร ข้ายังไม่ทันได้คิดอะไรมากมายก็ปีนขึ้นเกวียนวัวมาตามแล้ว”

จางโม่หลานลูบท้องของนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย