สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 256

บทที่ 256 เคยได้ยินพี่ใหญ่เซี่ยของพวกเจ้าพูดยาว ๆ เช่นนี้ยามใดบ้าง?

บทที่ 256 เคยได้ยินพี่ใหญ่เซี่ยของพวกเจ้าพูดยาว ๆ เช่นนี้ยามใดบ้าง?

หลังห่าฝนกระหน่ำหนักผ่านพ้น หยาดพิรุณก็โปรยปรอยดุจสายไหม พร่างพรมลงบนสรรพสิ่ง ชะล้างโคลนตมท่ามกลางโลกโลกีย์

ลู่อี้เดินออกมาจากห้องหนังสือของเจียงเหล่า เดิมทีเขาสวมอาภรณ์เปียกชุ่ม แต่เพราะอยู่ในห้องหนังสือเนิ่นนาน ยามนี้อาภรณ์ของเขาจึงแห้งแล้ว

ชิวสุ่ยนำร่มออกมาแล้วหยุดลู่อี้ไว้ “ท่านลู่ นี่คือร่มที่คุณหนูของเราเตรียมไว้ให้ท่าน”

ลู่อี้ประสานมือคารวะ “ขอบคุณแม่นาง โปรดขอบคุณเจตนาดีแก่คุณหนูแทนข้าด้วย ต้องขอตัวก่อน”

ว่าแล้วเขาก็เดินลุยฝนไป

“คุณหนู ท่านก็เห็นแล้วว่าคนผู้นั้นไม่สนใจ” ชิวสุ่ยหันไปกล่าวกับเฉินซือจวินที่เดินออกมาด้านหลัง

“หากเขาไม่แตกต่างจากคนทั่วไป ข้าคงไม่ชายตาแลเขาหรอก” เฉินซือจวินมองตามร่างของลู่อี้

“โลกนี้มีบุรุษตั้งมากมาย ไฉนต้องปฏิบัติแตกต่างกับคนผู้มีลูกเมียแล้วเช่นนี้ด้วยเจ้าคะ?” ชิวสุ่ยทวงถามความเป็นธรรม

“บางที… เขาอาจแตกต่างก็ได้” เฉินซือจวินกล่าว “อย่าเที่ยวพูดพล่อย ๆ ข้างนอก เข้าใจหรือไม่?”

ลู่อี้ลงจากม้าที่หน้าประตูเรือนสกุลลู่

ลู่จือเชียนให้ลู่อี้อาบน้ำร้อนก่อน แล้วจึงเปลี่ยนอาภรณ์สะอาดชุดใหม่ให้ หลังจากชำระกายเสร็จสิ้น ลู่อี้ก็เดินไปทางห้องนอนหลัก

มู่ซืออวี่นั่งอยู่ที่โต๊ะ มีรูปวาดมากมายอยู่ตรงหน้า

ลู่อี้ยืนข้างหลังมู่ซืออวี่อยู่เนิ่นนาน นางหลงลืมตนในภวังค์เสียจนไม่ทันสังเกตเห็นเขาเลย

ไม่อาจทราบว่าเนิ่นนานเพียงไร ในที่สุดมู่ซืออวี่ก็วาดเส้นสุดท้ายเสร็จ

“เอาล่ะ” นางวางพู่กันลงแล้วบิดขี้เกียจ ก่อนจะเห็นลู่อี้นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้าง ๆ

“ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อใด?”

ลู่อี้ชี้ภาพวาดข้าง ๆ เขา “ข้าเข้ามาตอนที่เจ้าวาดภาพนั้นไปได้ครึ่งทาง”

“แล้วไม่เรียกข้าเล่า?”

“เห็นเจ้าตั้งสมาธิ ข้าจะรบกวนเจ้าได้ลงคอหรือ? เจ้ากำลังมีความสุข ดูอย่างไรก็งดงามเหลือเกิน ”

“ข้ามีความคิดอยู่”

“อืม ว่ามาเถอะ”

“ข้าอยากไปทำกิจการในเมืองซูโจว” มู่ซืออวี่กล่าว “เมืองฮู่เป่ยว่าใหญ่ แต่ก็มีพื้นที่จำกัด และยามนี้ก็เกือบอิ่มตัวแล้ว ข้าต้องการขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น แต่ที่นี่ไม่เหลือลูกค้ารายใหญ่แล้ว ต่างจากเมืองซูโจว ข้าเยือนเมืองซูโจวหนก่อน เห็นว่ารุ่งเรืองขึ้นกว่าเก่ามากนัก ต้องขยายกิจการได้แน่”

ลู่อี้วางหนังสือลงแล้วยื่นมือไปหามู่ซืออวี่ “มานี่”

มู่ซืออวี่ไม่รู้ว่าเขาเรียกเพราะอะไร แต่ก็ผุดลุกแล้วเดินไปหาเขา “มีอะ…”

เขาคว้านางรวบตัวลงนั่งตัก

“หนก่อนไม่เข็ดหลาบ ยังกล้าไปเมืองซูโจวหรือ?”

ลู่อี้เอ่ยพลางล้วงมือที่อยู่ไม่สุขเข้าไปในอาภรณ์นาง

มู่ซืออวี่พลันสิ้นกำลัง แทบจะละลายในอ้อมแขนเขา

“คุยกันดี ๆ สิ อย่า…”

ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาดำทะมึนอุ้มนางไปยังเตียงใหญ่ฝั่งตรงข้าม

ต่อให้คุยกันดี ๆ ก็ไม่มีทางได้พูด มีแต่จะทำให้นางพูดไม่ออก

เสียงครวญครางขาด ๆ หาย ๆ ราวกับเสียงแมวลอดออกมาจากในมุ้งเตียง ประสานกับเสียงลมเสียงฝนเป็นท่วงทำนองอันตราตรึงดังแว่วอยู่เนิ่นนาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย