บทที่ 431 พบหน้ากัน – ตอนที่ต้องอ่านของ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
ตอนนี้ของ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 431 พบหน้ากัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 431 พบหน้ากัน
บทที่ 431 พบหน้ากัน
“เจ้าคนนี้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้? คุณหนูของเราต้องการ…”
สาวใช้เพิ่งเปิดปากก็ถูกฉู่หนิงจูห้ามเอาไว้แล้ว
ฉู่หนิงจูได้ยินเสียงของลู่เซวียน จึงหันหน้ากลับมา เมื่อพบว่าเป็นเขา สายตาของนางก็วูบไหวอย่างร้อนรุ่มใจ
เท่านั้นเองลู่เซวียนจึงได้พบฉู่หนิงจู
“แม่นางฉู่” ลู่เซวียนค้อมตัวคำนับ “ขออภัย ข้าเพียงแต่คิดว่าเครื่องประดับนี้เหมาะกับพี่สะใภ้ข้า ไม่ได้คิดจะแย่งเจ้า หากเจ้าชอบก็เลือกเถิด ข้าจะมองหาอย่างอื่น”
“พี่หญิงมู่ยังไม่มาที่เมืองหลวงหรือ?” ฉู่หนิงจูเอ่ยถาม
“ข้าเพิ่งได้รับจดหมายจากฉาวอวี่ เขากล่าวว่ามีน้องสาวคนใหม่อีกหนึ่งคน ข้าจึงมาที่นี่ ว่าจะเลือกสร้อยอายุยืนให้หลานสาวของข้า เห็นว่าอันนั้นไม่เลว คิดจะนำไปเป็นของขวัญให้พี่สะใภ้สักหน่อย”
“พี่หญิงมู่คลอดลูกแล้วหรือ? ดียิ่งนัก” ฉู่หนิงจูกล่าวด้วยความยินดี “อันที่จริงแล้วข้าชอบทับทิมที่อยู่ข้าง ๆ มากกว่า หากท่านคิดว่าของสิ่งนี้ไม่เลว เช่นนั้นก็ซื้อก่อนเถิด!”
“ได้” ลู่เซวียนเอ่ย “ขอบคุณแม่นางที่ยอมตัดใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจ” ฉู่หนิงจูมองลู่เซวียน หัวใจพลันเจ็บแปลบขึ้นมา
นึกไม่ถึงว่าเขาจะจำนางไม่ได้จริง ๆ
ถึงแม้นางตั้งใจจะแปลงโฉม ทำให้ผิวคล้ำลง วาดคิ้วให้หนาขึ้น อีกทั้งยังจงใจบีบน้ำเสียงให้ทุ้มต่ำ แต่นางก็ไม่ใช่บุรุษที่แท้จริง จะแยบยลเพียงนั้นได้อย่างไร?
“เช่นนั้น… ข้าต้องไปแล้ว” ฉู่หนิงจูเอ่ย
“แม่นางฉู่ ข้ามีหนึ่งคำถาม” ลู่เซวียนรั้งนางเอาไว้
ฉู่หนิงจูหันมาอย่างรวดเร็ว “ท่านว่ามาเถอะ”
แม้กระทั่งสาวใช้ยังจับความตื่นเต้นในน้ำเสียงของนางได้
ลู่เซวียนรู้สึกเพียงสตรีตรงหน้าช่างน่ารัก สายตาของเขาพลันอบอุ่นขึ้น
“ท่านคล้ายคลึงกับสหายร่วมชั้นผู้หนึ่งของข้าเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องอันใดกับเขาหรือไม่ เขาก็แซ่ฉู่เช่นกัน นามหลิง” ลู่เซวียนมองฉู่หนิงจูอย่างคาดหวัง
ฉู่หนิงจูนิ่งเงียบไป
เขาจำไม่ได้จริง ๆ…
ทว่าก็ถูกแล้ว หากเขาจะจำได้ คงจำได้ไปนานแล้ว เขาเพียงแค่ ‘โง่งม’ จนคิดไม่ออกเท่านั้นเอง
“ข้า…” ฉู่หนิงจูไม่รู้ว่าต้องตอบคำถามลู่เซวียนอย่างไร
หากปฏิเสธ นั่นจะไม่เท่ากับว่าหลอกลวงหนักยิ่งกว่าเดิมอีกหรือ? ภายหน้าเรื่องเปิดเผยขึ้นมา เขาจะไม่ยิ่งโมโหกว่าเดิมหรือไร
แต่ถ้ายอมรับ นั่นก็เท่ากับว่าโป้ปดเช่นกัน
นอกเสียจากว่าจะบอกความจริงกับเขา ทว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะแก่การสารภาพแม้แต่น้อย
“คุณหนู พวกเรากำลังรีบนะเจ้าคะ” สาวใช้ช่วยฉู่หนิงจูไว้ได้ทัน
ฉู่หนิงจูจึงเอ่ยกับลู่เซวียน “คุณชายลู่ ข้ายังมีเรื่องต้องทำ วันนี้ต้องขอตัวก่อนแล้ว”
ลู่เซวียนมองฉู่หนิงจูเดินจากไป
เขารู้สึกว่าคุณหนูฉู่ผู้นี้คลับคล้ายว่ากำลังวิ่งหนีเขา ตาฝาดไปเองหรือ?
…
ปีที่แล้วหิมะตกลงมาอย่างหนัก พืชผลปีนี้ราวกับถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งจริง ๆ ในหลาย ๆ ที่ไม่มีแม้กระทั่งหญ้างอกขึ้นมาแม้เพียงกอเดียว ถึงแม้จะงอกขึ้นมาแล้ว ก็ราวกับถูกแม่เลี้ยงเลี้ยงดูมา ล้วนแต่แห้งเหี่ยวแคระแกร็นทั้งสิ้น
หลังจากเผชิญภัยพิบัติจากหิมะ บัดนี้ทั่วทุกหัวระแหงจึงเกิดวิกฤตการขาดแคลนอาหาร
ในท้องพระโรง ลู่อี้ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าขุนนาง ฟังขุนนางเอ่ยถึงภัยพิบัติในหลายสถานที่
“ใต้เท้าลู่ไม่เพียงเยี่ยมยอดในการปกครองท้องถิ่นเท่านั้น เขายังเก่งกาจด้านตรวจสอบคดีต่าง ๆ เป็นที่สุด” หลินอี้เจี๋ยโผล่มาจากข้างหลัง “ใต้เท้าลู่ รีบเร่งเข้าล่ะ วันนี้ยังมีอีกหนึ่งคดีที่ท่านต้องติดตาม”
ลู่อี้ประกบมือแล้วกล่าวขอรับ
ฟางหยวนเจิ้งแค่นเสียงหึ “ศาลต้าหลี่ทั้งวันล้วนเต็มไปด้วยคดีมากมาย ไม่รู้จริง ๆ ว่าคนตายมากมายเพียงนั้นมาจากที่ใด กล่าวแล้วยังเป็นศาลต้าหลี่ที่ไร้ความสามารถ ถึงได้ทำให้เจ้าฆาตกรมั่นใจถึงเพียงนี้”
“หากใต้เท้าฟางคิดว่าศาลต้าหลี่ไร้ความสามารถ ไม่สู้ข้าไปขอคำแนะนำจากฮ่องเต้ ให้ใต้เท้าฟางมาดูแลศาลต้าหลี่เป็นอย่างไร?” หลินอี้เจี๋ยเอ่ยเสียงเรียบ
“ท่านคิดว่าข้าเกรงกลัวท่านงั้นรึ?”
“แน่นอนว่าใต้เท้าฟางไม่เกรงกลัว” สิ้นคำนั้น หลินอี้เจี๋ยจึงหันไปกล่าวกับลู่อี้ “ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งชั่วยาม หากภายในหนึ่งชั่วยามยังไม่กลับมา ข้าจะถือว่าเจ้าละเลยต่อหน้าที่”
ลู่อี้ “…”
ดูเหมือนศาลต้าหลี่จะไม่ค่อยกลมเกลียวกับกรมพระคลังนัก
อย่างน้อยขุนนางอาวุโสสองท่านนี้ก็ไม่ค่อยลงรอยกัน
ชายหนุ่มผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม “ใต้เท้าทั้งสองท่านไม่กระดากอายใต้เท้าลู่หรือ? ใต้เท้าลู่รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ให้สอนกรมพระคลังเชียวนะ”
“องค์ชายรอง…” ใต้เท้าทั้งสองค้อมคำนัก
องค์ชายรองสะบัดมือ “ไม่ต้องมากพิธี”
ลู่อี้ค้อมคำนับองค์ชายรอง
“ข้ามักจะได้ยินท่านพ่อตาเอ่ยถึงใต้เท้าลู่บ่อยครั้ง” องค์ชายรองเอ่ยกับลู่อี้ “ใต้เท้าลู่น่าสนใจยิ่งกว่าที่คาดไว้เสียอีก”
“องค์ชายชมเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ลู่อี้รู้ว่าพ่อตาขององค์ชายรองคือเจียงเก๋อเหล่า
“ข้ามีโรงม้าอยู่นอกเมือง ปกติมักจะไปขี่ม้าที่นั่น หากใต้เท้าลู่มีเวลาว่างก็แวะมา” องค์ชายรองหัวเราะ “ข้าเป็นคนเกียจคร้าน ไม่เข้าใจเรื่องในราชสำนัก ทว่าข้าชมชอบบรรยากาศที่อบอวลด้วยความรัก ฝีมือบรรเลงผีผาของแม่นางหลี่ว์ซู่จากหอร้อยบุปผาเยี่ยมยอดนัก ค่ำคืนนี้นางจะขึ้นทำการแสดง ใต้เท้าลู่อยากไปชมด้วยกันหรือไม่?”
“องค์ชายกล่าวชวน ข้าน้อยปฏิเสธคงเป็นการไม่เคารพแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...