สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 45

บทที่ 45 เตียงพับหลังแรก

บทที่ 45 เตียงพับหลังแรก

หลังเสร็จสิ้นการทำรองเท้าฟาง มู่ซืออวี่ก็นำเศษผ้าเก่ามาเช็ดเศษฟางออก เพราะนางไม่ต้องการให้เท้าของลู่จื่ออวิ๋นบาดเจ็บ

“อวิ๋นเอ๋อร์ มาลองสวมดูเถิดว่าขนาดพอดีกับเท้าของเจ้าหรือไม่”

ลู่จื่ออวิ๋นเห็นวัตถุรูปร่างประหลาดจึงเดินเข้าไปดูรองเท้าในมือมู่ซืออวี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ลู่เซวียนหยุดสอน ก่อนจะหันมามองพร้อมเอ่ยด้วยความรังเกียจ “นั่นอะไร? จะสวมใส่ได้จริงหรือ?”

“รองเท้าผ้าที่ไหนก็หน้าตาดูไม่ได้ทั้งนั้นแหละน่า ตอนนี้ข้าไม่มีเงินซื้อรองเท้า ข้ามีเงินเมื่อไหร่ ข้าจะซื้อรองเท้าปักลายอันงดงามให้กับอวิ๋นเอ๋อร์เอง”

ก่อนหน้านี้ เงิน 20 ตำลึงถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ใช้จ่ายเป็นค่ารักษาให้กับท่านหมอจูจำนวน 12 ตำลึง อีก 8 ตำลึงเหลือไว้ให้ลู่อี้คืนเพื่อนร่วมชั้นที่หยิบยืมเงินจากงานเลี้ยงของฟางโจวอวี่

จนถึงตอนนี้เขาก็เป็นหนี้เพื่อนร่วมชั้นคนนั้นจำนวนมาก อีกทั้งยังต้องใช้เงินเพื่อซื้อยาให้กับลู่เซวียน เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินให้ได้มากที่สุด

“งดงามมากเจ้าค่ะ” ลู่จื่ออวิ๋นกล่าว

มู่ซืออวี่ลูบผมของลู่จื่ออวิ๋น “ขอเวลาแม่อีกนิด หากแม่หาเงินได้ สิ่งแรกที่แม่จะทำคือซื้อรองเท้าใหม่ให้เจ้า”

“อื้อ ข้าเชื่อใจท่านแม่” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ยอย่างวางใจ

เมื่อมองไปยังแววตาอันใสซื่อบริสุทธิ์ดุจกวางของลู่จื่ออวิ๋น มู่ซื่ออวี่ก็แอบตำหนิและสาปแช่งในใจ เจ้าของเดิมของร่างนี้ช่างใจร้ายและไม่สมควรเป็นแม่เลยจริง ๆ

หลังจากสวมรองเท้าที่สานจากฟางแล้ว ลู่จื่ออวิ๋นก็ยกขาขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น เด็กน้อยจ้องมองซ้ำแล้วซ้ำอีก

“ท่านพี่ ดูรองเท้าใหม่ของข้าสิ งดงามยิ่งนัก”

ลู่ฉาวอวี่ตะคอก “มีสิ่งใดที่เรียกว่างดงามหรือ!”

ท่าทางรังเกียจของเขาเป็นเช่นเดียวกับลู่เซวียน หากลักษณะภายนอกของเขาไม่คล้ายคลึงกับลู่อี้ นางคงคิดว่าบิดาผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงของเขาคือลู่เซวียน

เฮอะ! หากนางทะลุมิติมาเป็นลูกสะใภ้ลู่เซวียน นางคงฆ่าตัวตายไปแล้ว

หลังจากแก้ปัญหาการเดินเท้าเปล่าของลู่จื่ออวิ๋นแล้ว มู่ซืออวี่ก็ดำเนินงานที่ค้างไว้ให้เสร็จสิ้น

ลู่จื่ออวิ๋นไว้วางใจนางมากยิ่งขึ้น คอยอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือนางขณะทำงาน

มู่ซืออวี่เป็นกังวล เนื่องจากที่นี่มีของมากเกินไปและลู่จื่ออวิ๋นอาจเผลอทำตกได้ คงจะไม่ใช่เรื่องดีนักหากเด็กน้อยไปแตะต้อง แต่เมื่อจ้องมองไปยังแววตาแห่งความปีติของเด็กน้อย มู่ซืออวี่ก็ทำได้เพียงร่วมมือกับลูกสาวอย่างใจเย็น

ปึง!

นางทำงานช่างไม้ที่แสนน่าเบื่อได้เชี่ยวชาญจนดูเหมือนว่าเคยทำมาแล้วนับพันครั้ง

ลู่ฉาวอวี่จ้องมองด้วยความงุนงงพลางครุ่นคิด

นางเป็นผู้ใดกัน?

เมื่อยามราตรีมาถึง ลู่อี้เดินทางกลับมาพร้อมไก่ฟ้าสองตัว

ลู่ฉาวอวี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

ไก่ฟ้าสองตัวนั้นไร้ค่ายิ่ง มีค่าน้อยกว่ายาของลู่เซวียนเสียอีก

“ท่านพี่” มู่เจิ้งหานเดินมายังหน้าประตูพร้อมกระต่ายสองตัว “ดูเถิด… ข้าจับกระต่ายได้”

มู่ซืออวี่กำลังล้างหม้อ พอได้ยินเสียงของน้องชายก็รีบออกมาดู นางเห็นว่ามู่เจิ้งหานอุ้มกระต่ายสองตัวที่ยังคงมีชีวิตมาด้วย ดังนั้นจึงเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ยอดเยี่ยมจริง! น้องชายของข้า”

มู่เจิ้งหานเกาหัวก่อนจะก้มศีรษะลงด้วยความเคอะเขิน

“พี่เขยเป็นผู้สอนให้ฆ่าล่า เขาทำรังกระต่ายได้ด้วย”

“ครั้งแรกถือว่าดีเลย พรุ่งนี้ข้าจะไปขายกระต่ายในเมืองกับพี่เขยเจ้า”

เนื่องจากมู่เจิ้งหานและถงซื่อปรารถนาที่จะดูแลตัวเองให้ได้ พวกเขาไม่อาจทำสิ่งใดหากไม่มีเงิน เงินที่มีอยู่ก็ไม่อาจเลี้ยงตัวเองได้

“อื้ม!” แววตาของมู่เจิ้งหานเป็นประกาย

หลังจากวางกระต่ายลง มู่เจิ้งหานก็เข้าไปหาถงซื่อ

เสียงสนทนาของแม่ลูกดังสนั่นจากด้านใน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย