สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 496

บทที่ 496 นี่ไม่ใช่เจ้าเลย

บทที่ 496 นี่ไม่ใช่เจ้าเลย

“สตรีที่เราบังเอิญพบวันนี้คือลี่เฟยกระมัง?” มู่เจิ้งหานเอ่ย “สตรีที่ทำร้ายท่านอาของเจ้า”

“อืม”

“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงสงบเพียงนี้?”

ลู่ฉาวอวี่เลิกคิ้วหันไปมองมู่เจิ้งหาน “ท่านน้า นั่นคือวังหลวง ถึงแม้ศัตรูจะยืนอยู่ต่อหน้า ท่านก็จำต้องอดทนเอาไว้”

มู่เจิ้งหาน “…”

เขาเองก็รู้ เพียงแต่อดรู้สึกคับข้องใจไม่ได้

“หากท่านอยากแก้แค้นใครสักคน ไม่จำเป็นต้องฆ่าเขาหรอก แค่ต้องพรากของที่เขาห่วงใยมากที่สุดไป” ลู่ฉาวอวี่กล่าว “รีบร้อนไปไย?”

ณ ประตูพระราชวัง เซี่ยคุนบนหลังม้าหยุดนิ่งอยู่ที่นั่น เมื่อเห็นรถม้าของสกุลลู่ใกล้เข้ามา เขาจึงควบม้าเข้าไปใกล้ ๆ

“พี่ใหญ่เซี่ย” มู่เจิ้งหานเรียกเซี่ยคุน

เซี่ยคุนพยักหน้าให้ทั้งสองคนเล็กน้อย

“ใต้เท้าลู่ทำธุระอยู่ไม่ไกลจากที่นี่พอดี คุณชายน้อยทั้งสองอยากรออยู่ที่นี่สักประเดี๋ยว แล้วค่อยกลับไปพร้อมกันหรือไม่?” เซี่ยคุนถาม

“ดีเลย!” สายตาของมู่เจิ้งหานเปล่งประกายขึ้นมา “พี่เขยของข้ามีคดีใช่หรือไม่?”

“ใช่” เซี่ยคุนไม่ปิดบัง “เป็นคดีที่จัดการยากคดีหนึ่ง กำลังสอบความจากทหารเฝ้าประตูวัง”

“คดีนี้เกี่ยวข้องกับวังหลวงหรือ?” ลู่ฉาวอวี่คาดเดา

“ไม่ผิด เหล่ามามาผู้หนึ่งในวังหลวงเสียชีวิต เหล่ามามาเป็นคนข้างกายของไทเฮา นางจึงถูกส่งมาที่ศาลต้าหลี่เพื่อตรวจสอบสาเหตุการตาย”

ลู่ฉาวอวี่ลงจากรถม้า ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วมองไปรอบ ๆ ท้ายที่สุดก็พบลู่อี้ท่ามกลางฝูงชน

ลู่อี้ถามสองสามคำถาม หลังจากได้รับคำตอบที่ต้องการแล้ว เขาจึงหมุนตัวเดินเข้ามาหาพวกเซี่ยคุน

“ไยวันนี้จึงออกมาเร็วนัก?” ลู่อี้เอ่ยถามลู่ฉาวอวี่

“องค์ชายห้าต้องทำการบ้านชดเชย วันนี้จึงให้เขาทำด้วยตนเอง พวกเราไม่อยู่เป็นเพื่อนเขาแล้ว” ลู่ฉาวอวี่อธิบาย

“หากเจ้าไม่อยากเป็นสหายร่วมเรียนกับเขา ข้าจะเรียนองค์ชายห้าให้”

“ไม่จำเป็น เขาไม่เล่าเรียนก็เป็นเรื่องของเขา ข้ายังมีสิ่งที่ต้องเล่าเรียนศึกษาอีกไม่น้อย ขนาดหอสมุดของพระราชวังมีตำราโบราณที่สูญหายไปมาก ข้ายังศึกษาที่เหลืออยู่แทบไม่หมด”

“ดี เจ้ารู้ว่าตนต้องการสิ่งใดมาตั้งแต่ยังเล็ก พ่อเคารพการตัดสินใจของเจ้า” ลู่อี้เอ่ย “ไปเถอะ อาเล็กของเจ้าคงคิดถึงแย่แล้ว วันนี้ไปทานอาหารกับเขากัน”

ลู่เซวียนถูกปลดออกจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทางการแล้ว แม้ร่างกายของเขาจะฟื้นฟูได้เป็นอย่างดี ทว่าในระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เกรงว่าอารมณ์ของเขาจะยังไม่ดีขึ้นอีกสักพัก

หลังจากทานมื้อค่ำ ลู่เซวียนเล่นกับลู่ฉาวอวี่และลู่จื่ออวิ๋นอยู่พักหนึ่ง

เขาสามารถเดินได้บ้างแล้ว เพียงแต่ไม่เร็วนัก พวกเขาจึงเล่นหมากรุกอยู่ในสวนครู่ใหญ่ โดยมีเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์อยู่ข้าง ๆ คอยชี้แนะลู่เซวียน

“นี่… วางลงตรงนี้…” ลู่จื่ออวิ๋นชี้ไปที่ตำแหน่งหนึ่งบนกระดาน

“เจ้าเองยังเล่นหมากได้ไม่ดี ยังจะให้คำแนะนำไม่ได้ประโยชน์นั่นกับท่านอาอีกหรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ยล้อบุตรสาวอยู่ข้าง ๆ

ลู่ฉาวอวี่ไม่ได้พูดอะไร เมื่อลู่เซวียนเดิน พอถึงตาเขา เจ้าตัวจึงเดินไปอีกตำแหน่ง

“ครอบครัวพวกเจ้าช่างครึกครื้นเสียจริง” ฟ่านหยวนซีเดินเอ้อระเหยลอยชายเข้ามา “มีอะไรกินหรือไม่ ข้าหิวจะตายแล้ว”

“จื่อซู เจ้าให้แม่ครัวทำอาหารมาเพิ่มสักสองสามจาน” มู่ซืออวี่ออกคำสั่ง

“ข้าไม่ต้องการอาหารที่แม่ครัวทำ” ฟ่านหยวนซีมองมู่ซืออวี่ “แต่ต้องการกินอาหารฝีมือเจ้า แม่ครัวทำจะสู้เจ้าทำได้หรือ? อย่าคิดจะทำแบบส่ง ๆ กับข้า”

“ท่านอ๋อง ท่านดูด้วยว่านี่มันยามใดแล้ว หากข้าไปทำอาหารให้ท่าน เช่นนั้น วันนี้ก็ไม่ต้องพักผ่อนแล้ว” มู่ซืออวี่เอ่ย “ข้าไม่ทำ”

“เอาบะหมี่มาให้ข้าสักถ้วยก็ได้ เท่านี้พอใจหรือไม่?” ฟ่านหยวนซีไม่สบอารมณ์ “เมื่อก่อนเจ้าเคยหวาดกลัวข้า บัดนี้ไม่กลัวแล้ว ทั้งยังหยาบคายกว่าเดิม เป็นดังคาด ข้าไม่ควรทำตัวสุภาพกับเจ้าจริง ๆ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย