บทที่ 510 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า – ตอนที่ต้องอ่านของ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
ตอนนี้ของ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 510 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 510 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
บทที่ 510 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
“ได้…” มู่ซืออวี่กำลังจะรับปาก เมื่อนางเห็นท้องฟ้าจึงเอ่ยขึ้นว่า “หากออกจากเมืองไปในเวลานี้ วันนี้คงกลับมาไม่ทันกระมัง?”
“เรือนพักร้อนล้วนมีทุกอย่าง ข้าให้คนไปจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว คืนนี้พักที่นั่น ร่างกายจะได้อบอุ่น” ลู่อี้กุมมือมู่ซืออวี่
“แค่เราสองคนหรือ? แล้วลูก ๆ เล่า?”
“พวกเขาโตเพียงนี้แล้ว ที่บ้านมีบ่าวรับใช้มากมายคอยดูแล จากพวกเขาไปเพียงคืนเดียวคงไม่เป็นไร”
“เสี่ยวชิงเอ๋อร์ก็โตแล้วหรือ?” มู่ซืออวี่เหลือบมองสามี ทว่ายังคงขึ้นไปบนรถม้า “จื่อเยวี่ยน เจ้าอยู่ดูแลเสี่ยวชิงเอ๋อร์”
เรือนพักร้อนมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่นอกเมือง ใช้เวลานั่งรถม้าเพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ปกติแล้วหากอากาศดีคงใช้เวลาไม่นาน แต่ตอนนี้มีหิมะทับถมบนเส้นทาง รถม้าจึงเคลื่อนที่ช้าลง
เมื่อพวกเขามาถึง ยังคงเป็นเวลาไม่เย็นมากนักจึงเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ใกล้เรือนพักร้อนได้
“ที่นี่ค่อนข้างห่างไกลผู้คน” มู่ซืออวี่กล่าว “ดินไม่เหมาะกับการปลูกพืช”
“ไม่ผิด” ลู่อี้เอ่ย “ดังนั้นข้าจึงซื้อมาโดยไม่ได้ใช้เงินมากนัก”
“ซื้อมา หมายความว่า…”
“ข้าซื้อที่ดินของทั้งหมู่บ้านไว้แล้ว” ลู่อี้กล่าว “รอหิมะหยุดตกแล้วอากาศอุ่นกว่านี้หน่อย เจ้าค่อยทำทุกอย่างกับเรือนพักร้อนนี้ได้ตามที่เห็นว่าเหมาะสม”
มู่ซืออวี่มองลู่อี้ด้วยความประหลาดใจ
นางคิดว่าเขาซื้อเรือนพักร้อนที่มีน้ำพุร้อนเพียงแค่หลังเดียว แต่เขาซื้อหมู่บ้านเลยหรือ?
หากเป็นเพียงเรือนพักร้อนที่มีน้ำพุร้อน คงไม่มีพื้นที่ให้ใช้สอยมากนัก ทว่าหากเป็นทั้งหมู่บ้านก็คงมีที่ดินมากมายที่ใช้ประโยชน์ได้
ลู่อี้กระชับเสื้อคลุมให้มู่ซืออวี่ “หิมะเริ่มตกอีกแล้ว วันนี้อย่าเพิ่งไปดูเลย พวกเราไปบ่อน้ำพุร้อนกันเถอะ”
“อืม…”
เช้าตรู่วันถัดมา รถม้าพาสองสามีภรรยากลับไปยังเมืองหลวง คนหนึ่งไปที่ศาลต้าหลี่เพื่อไปทำงาน ส่วนอีกคนกลับไปที่จวนลู่
วันนี้เป็นวันวางขายแผ่นแปะทำความร้อนอย่างเป็นทางการ
นอกจากแผ่นแปะทำความร้อนแล้ว ยังมีถุงอุ่นมืออีกด้วย
ฮูหยินของสกุลผู้มั่งมีก็มีเตาอุ่นมือเช่นกัน ทว่าถุงอุ่นมือของเรือนกรุ่นฝันแตกต่างออกไป ยิ่งไปกว่านั้นนางยังได้วาดลวดลายการ์ตูนต่าง ๆ ลงบนถุงอุ่นมือเหล่านั้นด้วย แม้ว่าการออกแบบจะแปลกใหม่ แต่กลับไม่เคยขาดแคลนลูกค้า
“อาจารย์ เพิ่งวางขายได้ไม่นานก็หมดเกลี้ยงแล้วขอรับ” เฟิงเจิงเดินเข้าไปในห้องตำราแล้วแจ้งกับมู่ซืออวี่ที่กำลังออกแบบตู้เสื้อผ้าใหม่ “พวกเรายังมีสินค้าอยู่อีกหรือไม่ขอรับ?”
“ไม่มีแล้ว” มู่ซืออวี่กล่าว “วันนี้ขายเพียงเท่านี้ ที่เหลือพรุ่งค่อยว่ากัน”
“อาจารย์ สินค้าจำนวนเท่านี้ยังไม่เพียงพอนะขอรับ!” เฟิงเจิงกล่าว “หากท่านมีกำลังคนไม่เพียงพอ พวกเราจัดหากำลังคนเพิ่มได้ ในเมื่อสิ่งนี้ขายง่ายมาก เหตุใดไม่ทำให้มากหน่อยเล่าขอรับ”
“เจ้าลืมเรื่องกิจการหลักของเราไปหมดแล้วหรือ?” มู่ซืออวี่เหลือบมอง “แผ่นแปะทำความร้อนเป็นเพียงลูกเล่นในการขยายชื่อเสียงของเรา อันที่จริงแล้ววิธีการทำของสิ่งนี้ไม่ได้ยาก ขอแค่เพียงลองแกะวิธีทำออกมา อีกไม่กี่วัน สินค้าปลอมก็จะถูกวางขาย สินค้าแต่ละชิ้นของเรามีสัญลักษณ์เรือนกรุ่นฝันอยู่ เราก็แค่ต้องการให้ชื่อของเราเป็นที่รู้จัก”
“แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่แพง ทำกำไรน้อยแต่ก็ขายได้ในจำนวนมาก!” เฟิงเจิงพึมพำ
“ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำ!” มู่ซืออวี่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้อากาศหนาว สิ่งนี้ช่วยให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นได้ อีกทั้งยังใช้หาเงินได้ เหตุใดจะไม่ขายต่อเล่า? ”
การปรากฏตัวของแผ่นแปะทำความร้อนกลายเป็นกระแสใหม่ในเมืองหลวง ผู้คนที่รู้สึกหนาวจนต้องสวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ จู่ ๆ ก็ถอดเสื้อผ้าหนา ๆ ออก เผยเรือนร่างงดงามได้แม้ในฤดูหนาว
แถวของคนที่มาต่อซื้อแผ่นแปะทำความร้อนยาวเหยียด ดูคร่าว ๆ แล้วมีอย่างน้อยสามสิบคน
ชายคนหนึ่งเบียดฝูงชนเข้ามา ผลักหญิงชราที่อยู่ข้างหน้าออกไป เขาวางมีดในมือลงบนโต๊ะ เอ่ยกับคนงานขายแผ่นแปะทำความร้อนว่า “ข้าอยากได้สิบชิ้น!”
“ขออภัย ได้โปรดเข้าแถวด้วยขอรับ” คนงานคนนั้นพูด
“รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร พวกข้ามาจากจวนอี๋ผิงโหว ยังต้องต่อแถวเพื่อซื้อของไร้สาระนี่ของเจ้าด้วยหรือ?” ชายคนนั้นกล่าวเยาะเย้ยอย่างลำพองใจ
คนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังรีบถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็ว คิดจะอยู่ให้ห่างจากชายคนนั้น
“ขออภัย สินค้าขายหมดแล้ว” เฟิงเจิงเดินเข้ามา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ลูกค้าทุกท่าน รบกวนพวกท่านมาเข้าแถวตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้เถิด”
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่หรือ? เมื่อครู่นี้ก็อยู่ตรงนั้น พอข้ามามันก็หายไปแล้วหรือไร?” ชายคนนั้นดึงมีดในมือออกมา
“ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงคนโง่ หากยังไม่ถอยออกไปอีก จะกลายเป็นคนตายในไม่ช้า” เสียงเยือกเย็นเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ผู้ใด…” ชายคนนั้นหันกลับมาก็ถูกร่างหนึ่งเตะออกไปโดยไม่ทันเห็นแม้แต่เงา
เบื้องหน้ามีเด็กหนุ่มสี่คน เห็นได้ชัดว่าสองคนเป็นเจ้านาย และอีกสองคนเป็นผู้ติดตาม
หนึ่งในเด็กหนุ่มของบุตรหลานผู้มั่งมีนั้นดูสะดุดตาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย รูปร่างหน้าตา หรือบุคลิก แม้กระทั่งบรรยากาศรอบกายที่เขาแผ่ออกมายังดูเย่อหยิ่งเล็กน้อยแต่กลับดูไม่ติดขัด มิหนำซ้ำยังค่อนข้างโดดเด่นราวกับควรเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
“จวนอี๋ผิงโหวใช้ไม่ได้เลย ไยสุนัขที่เลี้ยงมาไม่เชื่องถึงเพียงนี้” เซี่ยชิงโจวเอ่ยพลางหัวเราะ “นึกไม่ถึงว่าจะกล้ามาแสดงเขี้ยวเล็บต่อหน้าซื่อจื่อน้อยจวนอู๋อันโหว เหนื่อยกับการใช้ชีวิตแล้วหรือไร?”
ชายที่ถูกเตะออกไปรู้เพียงแค่ว่าคนตรงหน้าเขายุ่งด้วยไม่ได้ง่าย ๆ ทว่าเขาไม่รู้จักตัวตนของอีกฝ่าย เมื่อเซี่ยชิงโจวเอ่ยชื่อของซื่อจื่อน้อยแห่งจวนอู๋อันโหวออกมา เขาก็ตระหนักว่าตนชนกำแพงเหล็กเข้าแล้ว
“ผู้น้อยมันเดรัจฉาน นายท่านซื่อจื่อได้โปรดไว้ชีวิตผู้น้อยด้วยเถอะ ผู้น้อยจะไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...