สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 525

บทที่ 525 เป่าหูข้างหมอน

บทที่ 525 เป่าหูข้างหมอน

“ข้าโมโหจะตายแล้ว!”

ฮูหยินหรงลงมาจากรถม้า เดินผ่านประตูเข้าไปด้วยความโมโห เมื่อเห็นสาวใช้หน้าตาสะสวยคนหนึ่งเดินผ่านมาก็ถีบอีกฝ่ายไปหนึ่งที

“อ๊ะ…” สาวใช้ผู้นั้นกำลังจะค้อมคำนับ ทว่าหลังจากถูกถีบ ร่างกายบอบบางของนางก็ถลาปลิวออกไป

บ่าวรับใช้ข้างหลังไม่แม้แต่จะชำเลืองมอง ราวกับไม่เห็นสิ่งใดทั้งสิ้น

เจี่ยงจือปรายตามองสาวใช้ผู้นั้น เอ่ยด้วยท่าทีดุร้าย “ยังไม่พานางไปอีก? มองแล้วเสนียดลูกตาเสียจริง”

ฮูหยินหรงระบายโทสะไปแล้ว ทว่าสีหน้าเกรี้ยวกราดของนางไม่สงบลงแม้แต่น้อย

“ฮูหยิน….” พ่อบ้านเดินเข้ามาหา “บ่าวรับใช้ของฮูหยินสกุลลู่อยู่ด้านนอกขอรับ บอกว่าต้องมาเก็บเงินสี่พันสองร้อยตำลึง เอ่อ…”

“เอาให้เขาไป!” ฮูหยินหรงเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “สักวันหนึ่ง ข้าจะเก็บทั้งต้นทั้งดอกกลับคืนมา”

เจี่ยงจือรู้จักมารดาของตนดี นับแต่ท่านพ่อของนางมาเป็นรองผู้บัญชาการ ท่านแม่ของนางไม่เคยเสียเปรียบถึงเพียงนี้ ด้วยนิสัยขี้งกของนางแล้ว ต้องเกลียดคนสกุลลู่เข้ากระดูกดำเป็นแน่

เช่นนี้ก็ดี นางเองก็ไม่ชอบคนสกุลลู่เช่นเดียวกัน ลู่จื่ออวิ๋นผู้นั้นราวกับจิ้งจอกกลับชาติมาเกิด สตรีเช่นนั้นภายหน้าไม่มีทางสงบเสงี่ยมแน่นอน

เจี่ยงจือเล่าความชั่วร้ายสารพัดของลู่จื่ออวิ๋นให้มารดาฟัง ทำให้ฮูหยินหรงโกรธยิ่งกว่าเดิม

“บุตรสาวของผู้ตัดสินคดีตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ภายหน้าจะหวังมีครอบครัวที่ดีอันใดได้อีก? นางหน้าตาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสวรรค์ประทานพรหรือคำสาปกันแน่!”

มีวิธีมากมายในการทำลายคนผู้หนึ่ง หากแนะนำนังเด็กคนนั้นให้พวกที่ชื่นชอบนางเป็นพิเศษ สกุลลู่ยังจะปกป้องนางได้อีกหรือ?

คืนนั้น เจี่ยงเฟิงหยางแบกร่างอันเหนื่อยล้ากลับมาที่บ้าน

ฮูหยินหรงต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น สั่งให้บ่าวไพร่อุ่นอาหารให้

เจี่ยงเฟิงหยางโบกมือแล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้อง ข้าทานมาจากข้างนอกแล้ว”

“วันนี้ท่านพี่ดูเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ หรือว่ามีเรื่องยุ่งยากในราชสำนักเจ้าคะ?”

“นี่เป็นเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งควรเอ่ยถามหรือ?” เจี่ยงเฟิงหยางขมวดคิ้ว “เจ้าเพียงแค่ดูแลเรื่องที่บ้านให้ดีก็พอแล้ว”

ฮูหยินหรงเอ่ยอย่างเสียใจ “ข้าก็ไม่ได้อยากถามเรื่องงานของท่าน หากไม่ใช่ว่า… พี่หญิงน้องหญิงล้วนถูกฮูหยินลู่เชิญไปที่เรือนพักร้อนเพื่อแช่น้ำพุร้อน แต่นางกลับมิอยากพบข้าเพียงผู้เดียว ข้าจึงอยากรู้ว่าท่านพี่กับใต้เท้าลู่ผู้นั้นมีความขัดแย้งอันใดกันหรือไม่ ถึงได้ทำให้ฮูหยินลู่ไม่พอใจ”

“ฮูหยินลู่ไหน?” เจี่ยงเฟิงหยางขมวดคิ้ว

“ศาลต้าหลี่มีใต้เท้าลู่กี่คนกันเจ้าคะ?”

“ลู่อี้?”

“นอกจากเขาแล้วจะมีผู้ใดได้”

“ปกติลู่อี้มีความสัมพันธ์นับว่าไม่เลวกับข้า” เจี่ยงเฟิงหยางไม่เห็นด้วย “ฮูหยินของเขาเพิ่งมาถึงเมืองหลวงได้ไม่นาน ยังไม่คุ้นชินกับเรื่องที่นี่ บางทีนางอาจหละหลวมไปบ้าง ไม่มีอะไรต้องเก็บมาคิด”

ฮูหยินหรงได้ยินดังนั้น สีหน้านางก็ไม่สู้ดีนัก

เจ้าคนไร้ประโยชน์นี่นับถือลู่อี้เป็นพี่เป็นน้องแล้ว ไม่ฉุกคิดแม้แต่น้อยว่าพวกคนสกุลลู่ไม่ได้เห็นสกุลหยางอยู่ในสายตา

“มิใช่หละหลวม แต่เป็นการจงใจ” ฮูหยินหรงกอดแขนเจี่ยงเฟิงหยางเอาไว้แล้วพูดอยู่เป็นนานสองนาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย