สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 537

บทที่ 537 ฮวาหรงบ้าไปแล้ว

บทที่ 537 ฮวาหรงบ้าไปแล้ว

ณ หอซือเป่า ทันทีที่ลู่จื่ออวิ๋นนั่งลง หยางเจิงก็เข้ามาหา นางเอ่ยกระซิบเบา ๆ “จื่ออวิ๋น เจ้ารู้หรือไม่? ฮวาหรงบ้าไปแล้ว”

“บ้าไปแล้ว?” ลู่จื่ออวิ๋นประหลาดใจ “เหตุใดจึงบ้าหรือ?”

นางประหลาดใจจริง ๆ

ถึงแม้งูจะน่ากลัวมาก ทว่างูเหล่านั้นล้วนถูกถอดเขี้ยวออกหมดแล้ว ไม่กี่ตัวที่ไม่ถูกถอดเขี้ยวออกก็มีพิษไม่มาก หากถูกกัด อย่างมากแม่นางหมูโง่นั่นก็คงมีอาการบวมบริเวณผิวเนื้อเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เหตุใดฮวาหรงจึงบ้าไปแล้วเล่า?

“ข้าก็ไม่รู้” หยางเจิงตอบ “ข้าเพียงแต่ได้ยินผู้อื่นเล่าลือมาเช่นกัน”

ฮวาหรงเป็นบ้าไปได้อย่างไรไม่มีผู้ใดรู้ ทว่านางกลับกลายเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ

ท่านเจ้าหอสวีและฮวาหรงเป็นญาติกัน สีหน้านางจึงไม่น่าดูชมนัก

ถึงแม้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับฮวาหรงจะเกิดขึ้นหลังจากนางออกจากหอซือเป่า ทว่าท่านเจ้าหอยังคงรู้สึกเสมอว่าเป็นความล้มเหลวของตนที่ดูแลนางไม่ได้ หญิงสาวคนหนึ่งถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ นางจึงชดเชยให้พ่อแม่ของฮวาหรงด้วยเงินจำนวนมหาศาล

ฮวาหรงบ้าไปแล้ว ตำแหน่งของนางจึงว่างลงชั่วคราว หากกล่าวกันตามเหตุผล ควรมีคนมาแทนที่ตำแหน่งนางโดยเร็ว ทว่าผู้ดูแลเมิ่งกลับยินดียอมให้ตำแหน่งนั้นว่างต่อไปแทนที่จะมอบหมายมันให้ผู้อื่น

คนที่เดิมทีล้วนจับจ้องตำแหน่งนี้ล้วนผิดหวังเป็นอย่างมาก

“ผู้ดูแลเมิ่ง” ลู่จื่ออวิ๋นร้องเรียกผู้ดูแลเมิ่ง

ผู้ดูแลเมิ่งหยุดฝีเท้า แล้วมองมาที่นางนิ่ง ๆ “มีเรื่องอันใด?”

“ผู้ดูแลเมิ่ง ข้ามีบางอย่างให้ท่านดู” ลู่จื่ออวิ๋นกล่าว

“เช่นนั้นเจ้าตามข้ามา”

ลู่จื่ออวิ๋นตามผู้ดูแลเมิ่งเข้าไปในห้องตำรา

นางนำผ้าชิ้นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ

“นี่เป็นผ้าที่ข้าปั่นออกมาตามวิธีโบราณ” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “แล้วข้าค่อยนำไปย้อม ท่านลองดูว่าเหมือนผ้าของฮูหยินอู่อันโหวหรือไม่”

ผู้ดูแลเมิ่งสัมผัสผ้าชิ้นเล็กนั้นดู

“เจ้าคิดค้นออกมาได้แล้วจริง ๆ”

“เช่นนั้นแบบนี้…”

“ทว่าสีที่ย้อมออกมายังคงบกพร่องอยู่อีกเล็กน้อย” ผู้ดูแลเมิ่งเอ่ยขัดนาง “ข้าจะให้เวลาเจ้าลองศึกษาอีกหนึ่งเดือน หากได้ผล เรื่องนี้ก็จะให้เจ้าจัดการ”

“เจ้าค่ะ”

“วันนี้ท่านเจ้าหอไม่มีกะจิตกะใจจะสอนพวกเจ้า เจ้าก็มาติดตามข้าเถอะ!” ผู้ดูแลเมิ่งกล่าว

ลู่จื่ออวิ๋นพยักหน้าหงึกหงัก “ได้เจ้าค่ะ”

ไม่รู้ด้วยเหตุใด นางกลับมักจะรู้สึกว่าผู้ดูแลเมิ่งภายนอกดูเย็นชา แต่อันที่จริงกลับเป็นคนที่พูดด้วยง่ายคนหนึ่ง

ในหอซือเป่า มีเพียงลู่จื่ออวิ๋นเท่านั้นที่รู้สึกว่าผู้ดูแลเมิ่งใกล้ชิดสนิทสนมกับนาง ขณะที่ผู้อื่นหวังว่าจะสามารถอยู่ให้ห่างจากผู้ดูแลนางนี้ให้ได้ หญิงเย็บปักที่เดิมทีได้รับมอบหมายให้ผู้ดูแลเมิ่งนั้นล้วนกระตือรือร้นที่จะถูกโยกย้ายไปทำหน้าที่ส่วนอื่น เพราะผู้ดูแลคนนี้รับมือได้ยากเกินไป

ลู่จื่ออวิ๋นคิดว่าความบาดหมางระหว่างนางกับฮวาหรงจะจบลงแล้ว แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะได้พบอีกฝ่ายอีกครั้งเร็วปานนี้

วันนี้เป็นวันหยุดของนาง ขณะที่กำลังนั่งรถม้าเพื่อไปเยี่ยม ‘คนงาม’ ที่สนามม้า จู่ ๆ ก็มีคนผู้หนึ่งกระโจนออกมา

ม้าตกใจตื่นกลัว คนขับรถม้าดึงสายบังเหียนไว้ได้ทันท่วงที

“นังหนูคนนี้มาจากที่ใด เหตุใดจึงเดินไม่ดูถนนหนทาง?”

“ฮ่า ๆๆ… เจ้าดูสิบนฟ้ามีเทพสวรรค์… ที่นั่นก็มีเทพสวรรค์… ที่นี่ก็มีเทพสวรรค์… ฮ่า ๆๆ…”

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ลู่จื่ออวิ๋นจึงเปิดม่านออก เห็นเพียงด้านนอกมีสตรีบ้า ๆ บอ ๆ ผู้หนึ่ง

นั่นคือฮวาหรง…

ฮวาหรงไม่เย่อหยิ่งจองหองอย่างเคยอีกต่อไป บัดนี้นางสวมเสื้อผ้ารุงรัง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำลายและน้ำมูก ดูไปแล้วไม่ปกติมากจริง ๆ

ตอนที่หยางเจิงบอกว่าฮวาหรงบ้าไปแล้วนั้น นางยังคงไม่เชื่อ แต่เมื่อนางเห็นฉากนี้ นางจึงพบว่า…

ในอกพลันรู้สึกคับแน่น

“คุณหนู ท่านไม่บาดเจ็บนะขอรับ?” คนขับรถม้าเอ่ยถาม

“ไม่เป็นไร” ลู่จื่ออวิ๋นปล่อยม่านลง

“ไม่รู้ว่าเป็นคนบ้าบ้านใด เหตุใดไม่รู้จักดูแลให้ดีหน่อย?” คนขับรถม้าบ่นพึมพำ “คุณหนู ท่านนั่งให้ดีนะขอรับ บ่าวจะไปต่อแล้ว”

“อืม”

ณ สนามม้า ลู่จื่ออวิ๋นป้อนขนมให้เจ้าชาด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย