สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 607

บทที่ 607 เจี้ยหยวนลู่หวงน้องสาว

บทที่ 607 เจี้ยหยวนลู่หวงน้องสาว

เซี่ยเฉิงจิ่นมองลู่จื่ออวิ๋น จากนั้นจึงหันไปมองลู่ฉาวอวี่ มุมปากหยักยิ้มขึ้นมา เขาพาดแขนโอบไหล่ลู่ฉาวอวี่แล้วจึงเอ่ยว่า “ได้ยินว่าเจ้าเล่นหมากล้อมเก่ง ไม่สู้พวกเราเล่นด้วยกันสักรอบเป็นอย่างไร?”

ลู่จื่ออวิ๋นมองคนทั้งสองที่ทำท่าทีแปลก ๆ เดินออกไป

“เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ เจ้ามองอะไรอยู่หรือ?” เจี่ยหลิงหลงเอ่ยถาม

“คนแปลก ๆ สองคนน่ะ” ลู่จื่ออวิ๋นบ่น “ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหรอก พวกเราไปเล่นทางนู้นกันเถอะ”

“ข้าไปเล่นด้วยได้หรือไม่?” สิงเจียซือเดินเข้ามา “จวนพวกท่านน่าสนใจยิ่งนัก มีของล้ำค่าอยู่ทุกหนทุกแห่ง ข้าอยากเดินดูรอบ ๆ อีกครั้ง แต่ท่านแม่บอกว่าข้าไร้มารยาทจึงไม่ยอมปล่อยให้ข้าเดินเพ่นพ่านคนเดียว”

“ได้แน่นอน” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “เจ้าชอบหินใช่หรือไม่? ไม่นานมานี้มีหินแปลก ๆ ส่งมาที่จวนข้า แต่ละชนิดสวยงามมากเชียว ข้าจะพาเจ้าไปดู”

จวนสกุลลู่งามจริง ๆ และความงามเช่นนี้จำเป็นต้องก่อร่างสร้างขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย แม้จะเป็นเพียงหินก้อนหนึ่งก็ยังหาซื้อมาจากผู้อื่นด้วยราคาสูง ระยะนี้คนที่รู้ว่าฮูหยินลู่เป็นคนใจกว้างมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงส่งของแปลก ๆ มากมายมาให้

บางทีอาจเป็นเพราะมู่ซืออวี่กำลังตั้งครรภ์ ลู่อี้จึงไม่ให้นางไปทำงานที่ร้านบ่อยนัก นางจึงได้เริ่มตกแต่งประดับประดาสวนไปทุกหนทุกแห่ง

“เจี้ยหยวนลู่และเซี่ยซื่อจื่อกำลังแข่งขันกัน”

“ฝีมือในการเล่นหมากล้อมของเซี่ยซื่อจื่อได้รับการสั่งสอนจากปรมาจารย์จิงอีฝาน ถึงแม้เขาจะไม่ได้แข่งขันกับผู้อื่นบ่อยนัก แต่ทุกคนล้วนรู้ว่าฝีมือของเขาร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรเสียเจี้ยหยวนลู่ก็ยังเล็กทั้งยังเล่าเรียนหนังสือทุกวัน เขายังจะมีเวลาเล่นหมากล้อมหรือ?”

เมื่อฮูหยินอู่อันโหวได้ยินว่าบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของตนกำลังประชันฝีมือกับเจี้ยหยวนน้อยสกุลลู่ก็ขมวดคิ้วมุ่น “เจ้าเด็กคนนี้อยู่จวนผู้อื่นยังไม่รู้จักควบคุมตนเองแม้แต่น้อย”

“คนหนุ่มน่ะเลือดร้อน ให้พวกเขาแก้ปัญหาด้วยตนเองเถิด” อู่อันโหวปอกเปลือกลิ้นจี่ส่งให้ภรรยา “ลิ้นจี่เหล่านี้เป็นของดี ไม่กี่วันก่อนที่ข้าเข้าวังหลวง ฝ่าบาทให้ข้ารั้งอยู่ทานอาหารร่วมกัน ผลไม้หลังมื้ออาหารก็คือลิ้นจี่ ในจานมีเพียงห้าลูก คราแรกข้ายังไม่กล้าทานมัน ต่อมาข้าได้ยินว่าพระสนมขั้นสูงได้รับลิ้นจี่คนละสองลูก พระสนมขั้นต่ำได้รับเพียงคนละหนึ่งลูกเท่านั้น”

ฮูหยินอู่อันโหวมองลิ้นจี่กองย่อม ๆ ที่วางเป็นระเบียบเรียบร้อยกองนั้นแล้วเอ่ยว่า “สกุลลู่ช่างใจกว้างยิ่งนัก ฮูหยินลู่ผู้นั้นโอ้อวดตนใหญ่โตเช่นนี้ ไม่กลัวถูกคนเกลียดชังหรือไร?”

“สกุลลู่เดิมทีก็มั่งคั่ง ผู้ใดในเมืองหลวงไม่รู้บ้างว่าสกุลลู่ร่ำรวย? ในเมื่อคนทั่วหล้าล้วนทราบดี เหตุใดยังต้องปิดบัง? หากปิดบังซ่อนเร้นจะไม่น่าสงสัยกว่าหรือ?” อู่อันโหวเอ่ย “ใต้เท้าลู่เป็นคนฉลาด ฮูหยินลู่ท่านนั้นสามารถควบคุมกิจการที่ใหญ่โตของนางได้ สมองของนางย่อมไม่ได้ด้อยไปกว่าใต้เท้าลู่ พวกเขาคงพบเจอสถานการณ์มามากมายหลายรูปแบบแล้วถึงได้มีความมั่นใจเช่นนี้”

“เสมอ…” บ่าวรับใช้ประกาศผลการแข่งขันเสียงก้อง

เซี่ยเฉิงจิ่นวางหมากดำลงไป

ลู่ฉาวอวี่ค่อย ๆ รุกไปข้างหน้าทีละคืบ ไม่นานก็วางหมากขาวลงไป

หากตัดสินจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว หมากขาวเป็นฝ่ายได้เปรียบ

ทว่าลู่ฉาวอวี่รู้ดีว่าคนผู้นี้ยังไม่ได้แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มกำลัง เกรงว่าฉากที่แท้จริงจะมาในครึ่งหลังของเกมนี้

งานเลี้ยงนี้เดิมทีก็เป็นงานเลี้ยงฉลองของลู่ฉาวอวี่ นับแต่บทกลอนจนถึงการเล่นหมาก เขาแสดงให้ทุกคนได้ประจักษ์ว่าเขาแตกต่างจากบุตรหลานสกุลชนชั้นสูงเช่นไร อีกทั้งยังทำให้พวกเขาได้เห็นท่วงท่าอันสง่างามของเจี้ยหยวนเยาว์วัยด้วย

หลังจากงานเลี้ยงนี้ ในเมืองหลวงได้เกิดการขนานนามกลุ่มใหม่ขึ้นมา เรียกว่า… ‘ผู้มีพรสวรรค์ล้ำเลิศทั้งสี่’

ผู้มีพรสวรรค์ล้ำเลิศทั้งสี่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยว่ามีใครบ้าง คนทั้งสี่ล้วนเป็นผู้ที่ได้แสงจากงานเลี้ยงอย่าง ลู่ฉาวอวี่ โม่ชิงเหยียน เซี่ยเฉิงจิ่น และเจียงหว่านเฉินนั่นเอง

หลังจากเข้าร่วมงานเลี้ยง ฉินเหวินหานจึงกลับไปที่เมืองฮู่เป่ย ตอนที่เขามานั้นได้นำจดหมายจากท่านหมอจูมาด้วย เมื่อเขากลับ เขาก็นำข่าวดีของมู่เจิ้งหานและลู่ฉาวอวี่กลับไปเช่นกัน

หลังจากนั้นลู่ฉาวอวี่จึงกลับไปที่สำนักบัณฑิตเพื่อเตรียมตัวสอบปีหน้าต่อไป

“ฮูหยิน มีคนจากในวังมาเจ้าค่ะ” ฉานอีเดินเข้ามาจากข้างนอก เอ่ยกับมู่ซืออวี่ที่นอนอยู่ประหนึ่งแมวขี้เซา

“จากในวังหรือ?” มู่ซืออวี่เงยหน้ามองฉานอี “เจ้าแน่ใจหรือว่าจากในวัง?”

“มาจากในวังเจ้าค่ะ ผู้พูดมีเสียงแหบแห้งราวกับเป็ด จะมีที่ใดนอกจากในวังได้เจ้าคะ?” ฉานอีเอ่ย “ฮูหยิน บ่าวจะไปเตรียมชุดที่มีสง่าราศีให้ประเดี๋ยวนี้”

มู่ซืออวี่ลุกขึ้นมา จัดระเบียบร่างกายให้เรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยกับฉานอี “เอาละ ไม่ต้องหาแล้ว เจ้ามาช่วยข้าหวีผมเถอะ ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวหรอก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย