สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 612

บทที่ 612 ไม่มีอะไรน่าสงสัย

บทที่ 612 ไม่มีอะไรน่าสงสัย

ณ ศาลต้าหลี่ ลู่อี้มองสตรีในภาพเหมือน จากนั้นมองบันทึกในมือ

“ฉินเหลียนเอ๋อร์ อายุยี่สิบสี่ปี บิดาของนางเคยเป็นอดีตนายอำเภอเฝินหยาง เขาถูกสั่งขังคุกฐานฉ้อราษฎร์บังหลวง ภรรยาและลูกสาวถูกขายไปอยู่หอโคมเขียว…”

เจี่ยเฉิงผิงที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้น “สตรีผู้นี้มีอะไรผิดปกติหรือขอรับ?”

“ไม่มีอะไรผิดปกติ” หากมองเพียงผิวเผิน ที่มาที่ไปล้วนแน่ชัด ไม่มีอะไรน่าสงสัย

“เช่นนั้นเหตุใดท่านจึงตรวจสอบนางเล่า?”

“ได้ยินว่าระยะนี้นางได้รับความโปรดปรานเป็นพิเศษ”

“คงไม่ใช่ใต้เท้าลู่ต้องการประจบสตรีหอโคมเขียวนางหนึ่งกระมัง?”

“ประจบนั้นแน่นอนว่าไม่ แต่ข้าอยากจะเจอฉินเหม่ยเหรินผู้นี้”

สตรีที่อาศัยอยู่ในพระตำหนักกานลู่ล้วนถูกเรียกว่าเหม่ยเหริน แม้จะกล่าวว่าอยู่ในวังหลัง เหม่ยเหรินก็ถือเป็นสถานะหนึ่ง ทว่าเหม่ยเหรินนี้เป็นเพียงชื่อที่ฮ่องเต้เรียกเล่น ๆ เท่านั้น ไม่ใช่ยศศักดิ์

เจี่ยเฉิงผิงส่งบันทึกในมือเขาให้ลู่อี้ “ระยะนี้มีคดีนี้ที่ค่อนข้างยากทีเดียว ใต้เท้าจัดการเรื่องนี้ก่อนเถิด!”

ลู่อี้เปิดบันทึกอ่านดู ข้างในระบุรายละเอียดว่านายทหารสองคนขัดแข้งขัดขากันเนื่องจากความแค้นเคืองส่วนตนทำให้หมู่บ้านแห่งหนึ่งถูกกลุ่มโจรป่ากวาดล้างสังหารสิ้นทั้งหมู่บ้าน

“ผู้ใดเป็นคนส่งต่อคดีนี้มา?”

“ตอนที่ข้าน้อยมาถึง บันทึกนี้ก็วางอยู่บนโต๊ะแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจวางมันไว้ หนึ่งในนั้นเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของใต้เท้าซูเซิ่งซึ่งติดตามเขาและผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน บุตรสาวของท่านแม่ทัพซูเซิ่ง อีกไม่นานก็จะเป็นน้องสะใภ้ของท่านแล้วไม่ใช่หรือ? จะต้องมีคนจงใจทำให้พวกท่านแตกคอกันอย่างแน่นอน!”

หากจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี อย่างเบาที่สุดการแต่งงานระหว่างลู่เซวียนและสกุลซูจะต้องล่มเป็นแน่ อย่างหนักที่สุด ไม่ช้าก็จะมีคนกล่าวหาลู่อี้ว่าใช้อำนาจส่วนรวมเพื่อประโยชน์ส่วนตน ปกป้องขุนนางกระทำความผิด

“เรื่องเช่นนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของศาลต้าหลี่” ลู่อี้เอ่ยด้วยท่าทีสงบ “ปล่อยให้เป็นหน้าที่กรมอาญา”

“กรมอาญาจะต้องปวดหัวเป็นแน่” เจี่ยเฉิงผิงหยิบบันทึกไป

“ช้าก่อน…” ลู่อี้รั้งเจี่ยเฉิงผิงเอาไว้ “อีกฝ่ายอยากจะให้ข้าลุยน้ำโคลน หากโยนไปให้กรมอาญาอย่างนี้ ท้ายที่สุดมันก็จะวนกลับมาหาข้าอยู่ดี ช่างเถิด ข้าจะจัดการเอง”

ณ จวนอู่อันโหว ลู่จื่ออวิ๋นส่งเสื้อผ้าให้มามาที่อยู่ข้าง ๆ แล้วยืนตัวตรง

ฮูหยินอู่อันโหวมองนางด้วยรอยยิ้ม “ยืนทำอะไรอยู่? เจ้านั่งลงก่อนเถิด”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ฮูหยิน” ลู่จื่ออวิ๋นกล่าว

“ข้ายังต้องลองดูว่ามันพอดีหรือไม่ เจ้าคงไม่ได้จะยืนรอข้าอยู่ที่นี่กระมัง?” ฮูหยินอู่อันโหวลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “นั่งลงเถอะ รอข้าลองสวมใส่ดูก่อน แล้วเจ้าค่อยไป”

เมื่อลู่จื่ออวิ๋นเห็นฮูหยินอู่อันโหวเดินถือเสื้อผ้าเข้าไปในห้องด้านในจึงค่อย ๆ นั่งลง

สาวใช้ยกน้ำชาและขนมมา

ผ่านไปพักหนึ่ง ฮูหยินอู่อันโหวก็ออกมาแล้วเอ่ยถาม “เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร?”

ลู่จื่ออวิ๋นมองดูฮูหยินอู่อันโหวแล้วจึงเอ่ย “ฮูหยิน ระยะนี้ท่านผอมลงใช่หรือไม่?”

ฮูหยินอู่อันโหวลูบ ๆ คลำ ๆ เอวตนเอง “ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ”

เดิมทีเป็นการสั่งตัดพิเศษ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะหลวมแล้ว

“ฮูหยิน ข้าจะแก้ให้ท่านอีกรอบนะเจ้าคะ”

“ไม่ต้องยุ่งยากกลับไปกลับมาแล้ว” ฮูหยินอู่อันโหวเอ่ย “เช่นนี้เถอะ ให้เจ้ารั้งอยู่แก้ให้ข้าที่นี่คงไม่เหมาะสมนัก เจ้าเองก็คงกดดันเป็นแน่ ไม่สู้ข้าให้พวกเขาตระเตรียมอุปกรณ์เย็บปักให้ แล้วเจ้าก็เลือกสถานที่เหมาะ ๆ แล้วค่อย ๆ แก้เป็นอย่างไร?”

“ได้เจ้าค่ะ” ลู่จื่ออวิ๋นตอบรับทันที

เพียงแค่แก้ขนาดเอว คงใช้เวลาไม่มากนัก

บ่าวรับใช้นำลู่จื่ออวิ๋นไปยังศาลาหลังหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย