สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 815

สรุปบท บทที่ 815 โจรกบฏถูกจับ: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

ตอน บทที่ 815 โจรกบฏถูกจับ จาก สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 815 โจรกบฏถูกจับ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายจีนโบราณ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 815 โจรกบฏถูกจับ

บทที่ 815 โจรกบฏถูกจับ

จวนลู่ มู่ซืออวี่ยืนอยู่ข้างเตียง นางเอ่ยถามท่านหมอที่กำลังตรวจชีพจร “ลูกสาวข้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”

ท่านหมอตอบ “โชคดีที่คุณหนูร่างกายแข็งแรง หากเป็นคนธรรมดาแช่น้ำเย็นเช่นนี้ ร่างกายคงย่ำแย่ไปนานแล้ว”

“เช่นนั้นนาง…”

“คุณหนูไม่เป็นอะไรมาก ทว่านางต้องพักฟื้นสักระยะ อย่างไรเสียอยู่ในอากาศหนาวเย็นขนาดนั้น แม้ร่างกายจะแข็งแรงก็ไม่อาจทนรับความทรมานได้”

“เช่นนั้นท่านก็เขียนเทียบยาเถิดเจ้าค่ะ!”

“ได้”

ลู่จื่อชิงและลู่ฉาวจิ่งคอยอยู่ข้าง ๆ

“ท่านแม่ มีคนรังแกพี่หญิงหรือเจ้าคะ?” ลู่จื่อชิงเอ่ยถาม

มู่ซืออวี่ลูบหัวของลู่จื่อชิง “ในโลกนี้มีคนเลวร้ายมากมาย แม่ไม่ได้ปกป้องพี่หญิงเจ้าให้ดีทำให้นางถูกคนเลวรังแก แต่แม่สัญญา ภายหน้าจะปกป้องพวกเจ้าด้วยความระมัดระวังให้มากยิ่งกว่านี้ ไม่ให้พวกเจ้าถูกคนรังแกได้”

“ท่านแม่ ข้าไม่ต้องการให้ท่านปกป้อง ข้าจะจะปกป้องตนเอง” ลู่จื่อชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ขอเพียงข้าเก่งกล้ามากพอ นั่นจึงจะไม่ถูกคนรังแก”

“อายุยังน้อย เหตุใดทำตัวราวกับผู้ใหญ่เช่นนี้หืม?” มู่ซืออวี่ส่งรอยยิ้มจาง ๆ ให้นาง

ลู่ฉาวจิ่งแตะลงบนคิ้วของมู่ซืออวี่เอ่ยเสียงหวานเจื้อยแจ้ว “ท่านแม่ไม่ต้องกังวล พี่หญิงไม่เป็นไร ข้าจะดูแลพี่หญิงให้ดีเอง ให้พี่หญิงพักนิดหน่อยนางก็ดีขึ้นแล้ว เช่นนี้ท่านแม่ก็จะสบายใจอย่างเมื่อก่อน”

“เด็กดี”

“ฮูหยิน คุณหนูกลับมาได้อย่างปลอดภัย นับว่าสวรรค์คุ้มครองแล้ว ท่านอย่ากังวลไปเลยนะเจ้าคะ” ซางจือนำอาหารเข้ามา “ทานอะไรหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ท่านไม่ได้ทานอะไรนานแล้วนะเจ้าคะ”

“ตอนนี้ข้ากินไม่ลง” มู่ซืออวี่เอ่ย “เจ้าได้ยินเสียงหรือไม่ เสียงนั้นมาจากในวังหลวง ข้าจะกินลงได้อย่างไร?”

ขณะที่มู่ซืออวี่เฝ้าลู่จื่ออวิ๋น นางก็ต้องปลอบลูกทั้งสองคนไปด้วย

นางดูลู่จื่ออวิ๋นกินยาต้ม จากนั้นจึงให้บ่าวรับใช้ยกโจ๊กผักมาแล้วป้อนให้คนป่วยทานเพื่อรองท้องสักหน่อย

ท่านหมอไม่ได้บอกว่าเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์จะฟื้นขึ้นมาเมื่อใด เพียงกล่าวว่าร่างกายไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรมาก ถึงแม้นางจะหมดสติไปก็ไม่นานนัก

“ฮูหยิน สถานการณ์ในวังยังไม่สงบเจ้าค่ะ”

“คอยสังเกตการณ์พวกเขา หากมีอะไรไม่ถูกต้องให้รีบบอกข้าทันที”

“ฮูหยิน ครั้งก่อนฝ่าบาทให้ท่านไปจัดวางกลไกหรือเจ้าคะ?”

“วังหลวงเป็นที่ใดกัน? ข้าจะไปจัดวางกลไกลสุ่มสี่สุ่มห้าได้หรือ? ฝ่าบาทตั้งใจจะทำเช่นนั้น เพียงแต่ข้าปฏิเสธข้อเสนอของพระองค์ไปและวางกลไกในพระตำหนักที่พระองค์มักจะตรวจฎีกาอยู่ที่นั่นเท่านั้น”

“หากรู้ก่อนมิสู้วางกลไกไปเสีย ป่านนี้โจรกบฏพวกนั้นคงถูกจับไปนานแล้ว”

“สามีข้าตามตรวจสอบพวกมันมาหลายปี ตามจับคนไปทุกหนทุกแห่ง กล่าวกันตามหลักก็นับว่ารู้จักพวกมันมาไม่น้อย คิดว่าคราวนี้คงจัดการให้สิ้นซากได้”

ลู่อี้เข้าใจศัตรูคู่อาฆาตพวกนี้หรือไม่?

แน่นอนว่าเข้าใจ

เขาไม่เพียงแต่สืบพบความเป็นมาของเซียวหลีเท่านั้น แต่ยังรู้ด้วยว่าเหตุใดบนร่างกายพวกเขาล้วนสักลายเสือดาว

เสือดาวเป็นสัตว์ประจำอาณาจักรเหลียง เหตุที่เซียวหลีเลือกเสือดาวเป็นสัญลักษณ์ นั่นเป็นเพราะเขามีสายเลือดของอาณาจักรเหลียงไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่ง

กล่าวไปแล้วเซียวหลีผู้นี้ก็นับได้ว่าเป็นเชื้อพระวงศ์เช่นกัน

เพียงแต่ราชวงศ์ของเขาไม่ใช่ราชวงศ์ของฟ่านหยวนซี หากแต่เป็นราชวงศ์ก่อนหน้า

เมื่อพวกเขานำคนเข้าไปในห้องลับก็เห็นเพียงฮ่องเต้นอนจมกองเลือดอยู่

ฟ่านหยวนซี

เขาถูกกระบี่แทงแล้ว

ฟ่านหยวนซียังคงมีสติหลงเหลืออยู่ เมื่อเห็นพวกเขาเข้าไปก็ยิ้มอย่างอ่อนแรง “ไล่ล่าเหยี่ยวมาทั้งวัน สุดท้ายดวงตาข้ากลับถูกเหยี่ยวแผดเผา คราวนี้… ข้าก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน”

“จะต้องไม่เป็นไรอย่างแน่นอน” ลู่อี้พยุงเขาขึ้นมา “หมอหลวง… รีบไปตามหมอหลวงเดี๋ยวนี้”

“เจ้าคนแอบอ้างผู้นั้นแสร้งทำได้คล้ายคลึงทีเดียว เพียงแต่เมื่อครู่ข้าไม่มีเวลาสนใจนาง ย่อมไม่ได้สังเกตว่านางมีปัญหาเป็นธรรมดา ต่อมาข้าพานางหนีออกจากห้องลับจึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทว่าข้าก็ยังตกหลุมพราง แต่นางก็ไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบ ข้าสังหารนางภายในกระบี่เดียว คมดาบข้ายังคมอยู่ใช่หรือไม่?”

“ฝ่าบาทกล่าวให้น้อยลงเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“เกรงว่าหากหยุดพูดแล้ว ข้าจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก”

“ฝ่าบาทจะเป็นทหารหนีทัพหรือ? ตอนนั้นที่ข้าช่วยท่านเถลิงอำนาจ พวกเราตกลงกันแล้ว ขอเพียงท่านยังอยู่ในอำนาจหนึ่งวัน ข้าก็จะเป็นขุนนางที่มีอำนาจที่สุด หากท่านไปแล้ว เช่นนั้นเกียรติยศความมั่งคั่งของข้าไม่สูญสิ้นหรือ?”

“ท่านแม่เคยกล่าวว่านางมีความสัมพันธ์อันดีกับคนในหุบเขาเทพโอสถ บางทีคนในหุบเขาเทพโอสถอาจมอบโอสถชั้นเลิศให้นาง ข้าจะให้คนไปหาแม่ข้าประเดี๋ยวนี้!” ลู่ฉาวอวี่กล่าว

“รีบไป”

มู่ซืออวี่กำลังดีใจที่ลู่จื่ออวิ๋นฟื้นแล้ว หลังจากได้ยินเรื่องราวจากอีเจี้ยนที่รุดมาจากวังหลวง นางก็ให้ซางจือไปหยิบโอสถรักษาชีวิตที่ซ่อนไว้ก้นกล่องมามอบให้อีเจี้ยนทันที

“นี่เป็นของขวัญจากน้องสะใภ้ ใต้หล้านี้มีเพียงสองเม็ด เม็ดหนึ่งเป็นมรดกตกทอดของหุบเขาเทพโอสถ อีกหนึ่งเม็ดมอบให้ข้า น้องสะใภ้ของข้ากล่าวว่าตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ทานลงไปจะช่วยรักษาชีวิตไว้ได้”

“ขอบคุณฮูหยิน ข้าจะรุดกลับวังหลวงประเดี๋ยวนี้!” อีเจี้ยนรับยาแล้วหมุนกายจากไป

[1] สุนัขที่กำลังจะจมน้ำ หมายถึง คนเลวที่หมดอำนาจลงไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย