สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 817

บทที่ 817 ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว!

บทที่ 817 ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว!

“เซียวหลีก็ประหารวันนี้ด้วยหรือ?”

“เจ้าค่ะ”

มู่ซืออวี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยว่า “นำเสื้อคลุมมา ข้าจะไปดูเสียหน่อย”

“ฮูหยิน วันนี้โจรกบฏเหล่านั้นจะถูกฆ่าแล้วนะเจ้าคะ มีความเป็นได้ว่าอาจมีพรรคพวกของพวกมันซุกซ่อนอยู่ในเมืองหลวง หากพวกมันมาปล้นลานประหาร ฮูหยินไปเช่นนี้จะอันตรายมาก ไม่ต้องไปจะดีกว่านะเจ้าคะ”

“แม้กระทั่งเจ้ายังคิดได้ เจ้าคิดว่าขุนนางราชสำนักเหล่านั้นจะไม่รู้เรื่องนี้เชียวหรือ? บัดนี้ลานประหารจะต้องถูกเฝ้าอย่างแน่นหนาเป็นแน่ หากพวกคนเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้นมาจริง ๆ ก็ดี เราจะได้ส่งพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน ราชสำนักเคลื่อนไหวใหญ่โตเพียงนี้ หลาย ๆ ที่ในเมืองหลวงจะต้องถูกทางการปิดล้อมไว้แล้วเป็นแน่ โจรกบฏมากมายเพียงนี้ถูกจับ หากหนึ่งในพวกเขารอดชีวิตไปได้ ขอเพียงสมองไม่ได้มีปัญหา ย่อมไม่เข้ามารนหาที่ตายอย่างแน่นอน”

“ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดฮูหยินต้องอยากเจอโจรกบฏเหล่านั้นอีกเล่าเจ้าคะ! หากไม่ใช่ฮูหยินฉลาด เมืองฮู่เป่ยทั้งเมืองคงจะกลายเป็นซากปรักหักพังไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าบ้านเรือนผู้คนมากมายเพียงใดจะถูกทำลาย”

“ข้าต้องเห็นคนพวกนั้นตายด้วยตาตนเองจึงจะวางใจได้” มู่ซืออวี่เอ่ย “พวกมันเก่งกาจเรื่องแปลงโฉมไม่ใช่หรือ? ก่อนการประหาร ขุนนางที่รับผิดชอบควบคุมการประหารจะตรวจสอบตัวตนพวกเขา ข้าอยากเห็นให้ชัดเจนว่าคนที่ตายเป็นผู้ใด”

ณ ลานประหาร ชาวบ้านที่มาดูการประหารชี้ไปยังนักโทษประหารผู้หนึ่งที่กำลังจะโดนลงดาบ หากไม่ใช่เพราะมีกองกำลังเฝ้าลานประหารอย่างเข้มงวด เกรงว่าจะโยนผักเน่า ๆ หรือสาดน้ำใส่เสียแล้ว

มู่ซืออวี่อยู่ท่ามกลางฝูงชน มองไปที่เซียวหลีที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงนั้น

เซียวหลีก็เห็นมู่ซืออวี่แล้วเช่นกัน

เขายิ้มอย่างถือดี ราวกับว่าตนไม่ได้กำลังจะถูกประหาร หากแต่กำลังจะขึ้นครองบัลลังก์เป็นผู้ครองแผ่นดิน

ลู่ฉาวอวี่สวมใส่เครื่องแบบขุนนาง ใบหน้าที่นับวันยิ่งดูเหมือนลู่อี้มากขึ้นทุกทีดูสง่างามเป็นอย่างยิ่ง

ชายหนุ่มผู้เป็นขุนนางควบคุมการประหาร ไม่คู่ควรกับสถานที่แห่งความตายนี้แม้แต่น้อย เหล่าราษฎรมองดูใบหน้าหล่อเหลาที่นับวันยิ่งองอาจมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น สีหน้าชาวบ้านล้วนเต็มไปด้วยความไว้วางใจและความชื่นชม ท้ายที่สุดแล้วในช่วงระยะเวลาหลายปีมานี้ ชื่อเสียงของมู่ซืออวี่ก็โด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ ชื่อเสียงในเมืองหลวงของลู่ฉาวอวี่ก็เช่นกัน

ชื่อเสียงของลู่ฉาวอวี่ส่วนใหญ่ล้วนมาจากตำแหน่งขุนนางของเขา ผนวกกับคดีที่เขารับผิดชอบ ไม่ใช่จากการมีบิดามารดาที่ถูกกล่าวถึงอยู่เสมอ เขาอาศัยความแข็งแกร่งของตนเองทำให้ได้มาซึ่งความเคารพและการยอมรับจากทุกคน

“ถึงยามอู่แล้ว ยืนยันตัวตนนักโทษ” ลู่ฉาวอวี่กล่าว

เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเอ่ยยืนยันตัวตนนักโทษทีละคน จากนั้นก็ตรวจสอบใบหน้าของพวกเขาเป็นเวลานาน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการแปลงโฉมอย่างการใช้หน้ากากหนังมนุษย์ หลังจากยืนยันได้แล้ว พวกเขาจึงรายงานให้ลู่ฉาวอวี่ทราบ

“ประหาร” ลู่ฉาวอวี่โยนป้ายประหารชีวิตลงไป

เซียวหลีมองไปทางมู่ซืออวี่

ทันทีที่ดาบใหญ่เหวี่ยงลงมา ภาพมากมายก็ปรากฏขึ้นในห้วงความคิดของเขา

หลายปีที่ผ่านมานี้ เขาตกอยู่ในมือสองสามีภรรยาครั้งแล้วครั้งเล่า อันที่จริงผู้ที่ทำให้เขารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุดไม่ใช่ลู่อี้ แต่เป็นมู่ซืออวี่

ในที่สุดก็จบลงแล้ว

ฉับ! ดาบฟันลงไป ศีรษะพลันร่วงหล่น

ศีรษะนั้นกลิ้งออกไปไกล เลือดพุ่งกระฉูดออกมา

เหล่าราษฎรเบือนหน้าหนีอย่างทนไม่ไหว

มู่ซืออวี่พรั่งพรูลมหายใจออกมา “คราวนี้คงจบลงจริง ๆ เสียที”

“ฮูหยิน พวกเราไปกันเถอะเจ้าค่ะ!” ชิงไต้พยุงนางไว้

มู่ซืออวี่พยักหน้าน้อย ๆ แล้วหมุนกายจากไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย