สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 827

บทที่ 827 คืนวันแต่งงาน

บทที่ 827 คืนวันแต่งงาน

ภายใต้แสงเทียน เซี่ยเฉิงจิ่นมองหญิงสาวที่มีใบหน้างามราวดอกท้อ

ภายใต้ชุดเจ้าสาว ลู่จื่ออวิ๋นเย้ายวนใจราวกับดอกโบตั๋น บริสุทธิ์และสง่างามราวกับดอกไป่เหอฮวา*[1]

เป็นสองคุณลักษณะที่ไม่น่าจะผสมผสานในตัวคนคนเดียวได้ ทันทีที่นางเงยหน้าขึ้น ดวงตาสุกใสชัดเจนคู่นั้นราวกับน้ำพุที่เย้ายวนให้เขาจมดิ่งลงไป

เซี่ยเฉิงจิ่นรอคอยมาหลายปีแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง

วันที่ทุกสิ่งสวยงามราวกับความฝัน

“อะแฮ่ม…” ลู่จื่ออวิ๋นกระแอม “ท่านอยากมองอีกนานแค่ไหน?”

เซี่ยเฉิงจิ่นหัวเราะเบา ๆ แล้วเอ่ยว่า “ตลอดชีวิต”

ลู่จื่ออวิ๋นทั้งเขินอายและหมั่นไส้ “ท่านไม่เหนื่อยบ้างหรือ?”

เซี่ยเฉิงจิ่นหยิบแก้วสุราขึ้นมา แล้วยื่นแก้วอีกใบให้นาง

“ฮองเฮาพูดถูกจริง ๆ เราเหนื่อยนิดหน่อย ควรรีบพักผ่อน แต่ก่อนจะพักผ่อน ขอดื่มสุราสักแก้วก่อน”

ลู่จื่ออวิ๋นรับแก้วมา แล้วดื่มร่วมกับเขาพอเป็นพิธี

หลังจากดื่มเสร็จ เซี่ยเฉิงจิ่นก็วางแก้วสุราในมือลงบนโต๊ะ

เขาถอดมงกุฎหงส์อันหนักหน่วงบนศีรษะของนางออกสายตาร้อนแรง “ตอนนี้สามีจะช่วยให้เจ้าผ่อนคลายเอง”

ลู่จื่ออวิ๋นรู้สึกว่าดวงตาของเขาร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟ ประหนึ่งว่าสามารถแผดเผาคนที่ถูกมองได้

ค่ำคืนลึกล้ำ แสงจากเทียนสีแดงเต้นระบำสั่นไหว เช่นเดียวกันกับเตียงมังกรที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเสียงครางแผ่วเบาราวกับลูกแมวเหมือนดังมาจากนอกวัง แต่ก็ดูเหมือนจะมาจากในวังด้วย สลับกับเสียงกระซิบรักอันแผ่วเบา เกลี้ยกล่อมลูกแมวน้อยให้ยอมให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการ…

เมื่อขันทีเฒ่าเห็นว่าเหล่าข้ารับใช้ในวังรู้สึกเขินอายจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้จึงกล่าวว่า “พวกเจ้าไปเตรียมน้ำร้อนไว้ให้พร้อม อย่าไปคิดถึงเรื่องที่ไม่ควรคิด มิเช่นนั้นจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองตายได้อย่างไร”

“ท่านพ่อ ฮ่องเต้โปรดปรานองค์หญิงอันหยางผู้นี้มาก” ขันทีที่อยู่ข้างเขากล่าวขึ้น “ก่อนหน้านี้มีคนเคยพูดไว้ว่าองค์ฮ่องเต้ไม่พึงใจสตรี แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่…”

“หุบปาก!” ขันทีเฒ่าดุ “อย่าคิดว่าเพราะข้าเป็นพ่อทูนหัวของเจ้าแล้วจะพูดเรื่องไร้สาระที่นี่ได้ เรื่องส่วนตัวของฮ่องเต้และฮองเฮา ไม่อาจพูดออกมา เจ้าได้ยินหรือไม่? แล้วก็ทำหน้าที่รับใช้ฮองเฮาให้ดีด้วย”

ไม่จำเป็นต้องบอกว่าเซี่ยเฉิงจิ่นชอบฮองเฮาที่เขาเพิ่งแต่งงานด้วยมากแค่ไหน เพราะไม่ว่าใครก็เห็นได้ชัด

เขาอยู่ใกล้ชิดนางตลอดทั้งวัน ตั้งแต่กลับมา นอกจากจะจัดการเรื่องด่วนในราชสำนักแล้วก็แทบจะไม่เห็นเขาเลย ตอนนี้พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ฮองเฮาจึงได้ย้ายเข้ามาอยู่ในวังหลวง เขาจะได้ไม่ต้องวิ่งไปไหนมาไหนอีก

ครึ่งเดือนต่อมา กลุ่มอารักขาลู่จื่ออวิ๋นจะต้องเดินทางกลับอาณาจักรฮุ่ยแล้ว

ลู่ฉาวอวี่รับประทานอาหารเย็นกับน้องสาวและน้องเขยของเขาในวังหลวง ก่อนจะกล่าวถึงเรื่องที่จะเดินทางกลับอาณาจักรในวันพรุ่งนี้

“ท่านพี่ ท่านบอกให้ท่านแม่มาหาข้าบ่อย ๆ ด้วยนะเจ้าคะ” ลู่จื่ออวิ๋นอดเศร้าไม่ได้

“ให้ท่านแม่มาคนเดียวหรือ?”

“ท่านกับท่านพ่อต่างก็มีงานยุ่งจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมาหาข้าบ่อย ๆ” ลู่จื่ออวิ๋นรู้สึกใจหาย

“ตราบใดที่เจ้าต้องการ ข้าและท่านพ่อก็มาได้ตลอดเวลา” หลังจากที่ลู่ฉาวอวี่พูดจบ เขาก็มองเซี่ยเฉิงจิ่น “ข้าขอฝากน้องสาวของข้าไว้กับท่านด้วย หากวันหนึ่งท่านรู้สึกเบื่อหน่ายและคิดว่านางไม่ใช่ผู้หญิงที่ท่านคิดถึงอีกต่อไปก็แค่ส่งคนมาแจ้งข่าว ประตูจวนสกุลลู่ของข้าเปิดรับนางทุกเมื่อ นางยังมีญาติเช่นเราที่สามารถพึ่งพาได้ แต่หากท่านทำร้ายน้องสาวของข้า ทั้งอาณาจักรเฟิ่งหลินของเจ้าจะไม่มีทางอยู่รอดต่อไปได้อีก”

“สถานการณ์ที่ท่านพูดถึงนี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” เซี่ยเฉิงจิ่นมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ใครบอกว่าฮ่องเต้โหดเหี้ยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ ข้าอยากเป็นฮ่องเต้ที่มีคนรักเพียงคนเดียวไปตลอดชีวิต ไม่ได้มีเพียงแค่สกุลลู่เท่านั้นที่เห็นคุณค่าของความรักและความชอบธรรม สกุลเซี่ยของข้าก็มีคุณธรรมในการภักดีต่อคู่ครองอยู่ในสายเลือดเช่นกัน”

“ได้เลย ข้าจะจับตาดูท่านต่อไป” ลู่ฉาวอวี่หยิบแก้วสุราขึ้นมา “นางเป็นสมบัติของครอบครัวลู่เรา ตอนนี้เราได้มอบมันให้กับท่านแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะทะนุถนอมนาง”

“ข้ารับปากว่าจะทะนุถนอมนางเท่าชีวิต”

ในที่สุดชายทั้งสองก็เสร็จสิ้นพิธีส่งมอบสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต

ลู่จื่ออวิ๋นอยู่ห่างไกลจากครอบครัว ตอนนี้แม้แต่พี่ชายของนางก็ยังต้องจากไป จึงรู้สึกใจหายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย