สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 892

บทที่ 892 ยอมหมดตัวหรือยอมจำนน

บทที่ 892 ยอมหมดตัวหรือยอมจำนน

“ใต้เท้ากงถูกโจรลักพาตัวไประหว่างการเดินทางพ่ะย่ะค่ะ ถูกขโมยตราประทับ ขาหัก ทั้งยังถูกคนโยนลงจากภูเขา”

เซี่ยชิงโจวรายงานข่าวที่ได้รับมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ให้ลู่จื่ออวิ๋นฟัง

“ดูเหมือนว่าเมืองหลินจะมีปัญหาบางอย่าง”

“อีกทั้งยังเป็นปัญหาใหญ่” เซี่ยชิงโจวกล่าว “แม้ว่าใต้เท้ากงจะถูกเหยียดหยามทั้งยังได้รับบาดเจ็บ ทว่าเขากลับนำข่าวสำคัญมากข่าวหนึ่งกลับมา นั่นคือเขาได้ยินมาว่าเมืองหลินมีบางอย่างผิดปกติ”

“เมืองหลินโด่งดันเรื่องเหมืองแร่”

“ไม่ผิด”

“ใต้เท้าเซี่ย เรื่องนี้เกรงว่าคงต้องให้ท่านไปที่นั่นด้วยตนเองสักเที่ยวแล้ว เพียงแต่ท่านก็เห็นสถานการณ์ยามนี้ มันอันตรายเป็นอย่างยิ่ง ท่านยินดีที่จะเสี่ยงหรือไม่?” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ยถาม

“ฮองเฮาเพียงรับสั่งมา ข้อน้อยย่อมยินดีทำอย่างสุดความสามารถ” เซี่ยชิงโจวกล่าว

ลู่จื่ออวิ๋นและเซี่ยชิงโจวหารือกันในท้องพระโรงเป็นเวลานาน เมื่อเซี่ยชิงโจวออกมา ในมือเขามีตราบัญชาการทหารเพื่อระดมกองทัพและยังมีป้าย ‘เสมือนเราอยู่ที่นี่’ อีกหนึ่งชิ้น

มู่ซืออวี่เดินเข้าไปในพระตำหนัก เห็นลู่จื่ออวิ๋นตรวจทานฎีกาด้วยความโมโหอยู่ตรงนั้น นางไม่ได้รบกวน จนกระทั่งลู่จื่ออวิ๋นตรวจทานฎีกาเสร็จแล้วสังเกตเห็นนาง มู่ซืออวี่จึงเดินเข้าไป

“ท่านแม่ ท่านมาแล้วหรือ”

“ข้าเห็นว่าเจ้ากำลังยุ่งยากใจ”

“ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามคาด ไม่ได้ยุ่งยากอะไรแม้แต่น้อย ลูกเพียงแค่โมโหอยู่บ้างเท่านั้น” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “ทางท่านแม่เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”

“นอกจากพัฒนาความแข็งแกร่งทางด้านทหารของอาณาจักรแล้ว ทรัพยากรเงินก็สำคัญมากเช่นกัน ก่อนที่แม่จะกลับแคว้น แม่จะช่วยเจ้าแก้ปัญหาด้านการเงินเสียก่อน ที่เหลือพวกเจ้าต้องพึ่งพาตนเองแล้ว”

“ท่านแม่ ท่านเตรียมตัวจะกลับไปยังอาณาจักรฮุ่ยแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

“ทางพ่อเจ้าก็ต้องการข้าเช่นกัน” มู่ซืออวี่กล่าว “นอกจากนี้ ท่านพ่อเจ้ายังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ ข้าไม่กลับไปเป็นเวลานาน หากเขาคิดทรยศขึ้นมา นั่นจะไม่แย่หรือ?”

“ท่านพ่อจะไม่ทำเช่นนั้น”

“จิตใจบุรุษไม่อาจคาดเดา แม่ยังไม่กล้าเอ่ยอย่างมั่นใจ แต่เจ้ากลับมั่นใจในตัวเขา” มู่ซืออวี่เอ่ย “จริงสิ เจ้าให้กรมพระคลังเตรียมรับเงินให้ดี ไม่เกินสามวัน จะมีคนมาส่งเงินถึงหน้าประตู”

ไม่ถึงสามวันต่อมา พ่อค้าคนแรกที่มาส่งเงินก็เดินเข้ามาในกลุ่มการค้า มู่ซืออวี่ไม่ได้ออกหน้า ผู้ที่ออกหน้าคือฉานอีซึ่งเป็นสาวใช้

หลายวันต่อมา เจ้าหน้าที่กรมพระคลังแต่ละคนต่างยิ้มกริ่มและหรี่ตาลง พวกเขาเดินเฉิดฉายไปมา แต่ละคนดูกระชุ่มกระชวย ดูอ่อนเยาว์ลงไปหลายปี

การเข้าร่วมกลุ่มการค้าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นั่นต้องดูว่าแสดงความจริงใจเพียงใด

พ่อค้าคนแรกใช้ทรัพย์สินหนึ่งในห้าของสกุลแลกกับโอกาสที่จะได้เข้าร่วมกลุ่มการค้า หลังจากนั้นมู่ซืออวี่ก็ให้คำแนะนำในการทำกิจการกับเขา พ่อค้าที่เดิมทีสีหน้าอมทุกข์เบิกบานใจขึ้นมาทันที การเปลี่ยนแปลงนี้ของเขาถูกพ่อค้าคนอื่น ๆ สังเกตเห็น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสกุลหรือเพื่อกิจการ พวกเขาก็ทำได้เพียงยอมจำนนเท่านั้น

นับวันยิ่งมีพ่อค้ายอมจำนนมากขึ้นเรื่อย ๆ รายชื่อสมาชิกของกลุ่มการค้าขยายออกหลายร้อยรายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ

นอกจากไม่กี่คนที่เพิ่งยอมจำนน คนอื่น ๆ ล้วนใช้เงินเป็นใบเบิกทาง มิเช่นนั้น พวกเขาย่อมไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมกลุ่มการค้าด้วยซ้ำ

ถึงกระนั้นมู่ซืออวี่ก็ยังคงมุ่งไปที่การฝึกคนกลุ่มแรกที่ยอมจำนน หลังจากที่คนกลุ่มนั้นกินดื่มอิ่มหนำแล้ว ผู้ที่เหลือจึงจะมีสิทธิ์เคี้ยวกระดูกดื่มน้ำแกงได้

“ท่านทำกิจการร้านอาหาร” มู่ซืออวี่กล่าว “เคยคิดจะส่งอาหารร้านพวกท่านไปยังแคว้นอื่นหรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย