สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 914

บทที่ 914 ซ่งหานจือกำลังจะจากไป

บทที่ 914 ซ่งหานจือกำลังจะจากไป

เรื่องไร้สาระระหว่างฉีเซียวและคู่หมั้นของเขาสงบลงภายในไม่กี่วัน ว่ากันว่าหลังจากที่แม่นางจูออกมาจากคุกกรมกลาโหมแล้ว นางยืนกรานที่จะไปตามติดน้องชายต่างมารดาของฉีเซียวเพื่อทำตามสัญญาหมั้นหมายแทน

เดิมทีสัญญาการหมั้นหมายนี้ไม่ได้กำหนดชื่อผู้ใด เป็นเพียงคำมั่นสัญญาที่มารดาฉีเซียวให้ไว้กับสหายสนิท บัดนี้แม่นางจูผู้นั้นตกหลุมรักคุณชายสกุลฉีแล้ว หากกล่าวกันตามเหตุผลก็พอมีทางเป็นไปได้

ว่ากันว่าเพราะเรื่องนี้ จวนสกุลฉีจึงวุ่นวายอยู่หลายวัน อย่างไรเสียมารดาผู้ให้กำเนิดฉีเซียวก็อ่อนแอ ป่วยกระเสาะกระแสะมาโดยตลอด เรื่องภายในจวนจึงอยู่ภายใต้การควบคุมของอนุภรรยา

ไม่ผิด! อนุผู้นั้นคือมารดาผู้ให้กำเนิดน้องชายต่างมารดาของใต้เท้าฉี

ตอนได้ยินเรื่องนี้ มู่ซืออวี่กำลังเล่นไพ่นกกระจอกอยู่กับเหล่าฮูหยินหลายคน ฮูหยินผู้สูงศักดิ์เหล่านี้ราวกับเครื่องนินทาเดินได้ แม้กระทั่งรายละเอียดว่าอนุผู้นั้นเป่าลมข้างหมอนอย่างไรล้วนพรรณนาออกมาได้อย่างชัดเจน

“ฟังท่านกล่าวเช่นนี้แล้ว คู่หมั้นผู้นี้ก็ปรากฏตัวได้เหมาะเจาะเสียจริง!” ฮูหยินเจี่ยวางไพ่เจ็ดแต้มลงไปแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใต้เท้าฉีเซียวอายุมากเพียงใดแล้ว? หากต้องการทำตามสัญญาหมั้นหมายกับสกุลฉี ก็ควรปรากฏตัวสองสามปีก่อน ไม่ต้องรอให้ถึงเวลานี้ มิอย่างนั้นเรื่องนี้จะตกไปถึงมืออนุได้หรือ?”

“ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!” ฮูหยินหลิ่วผู้มีสำเนียงอย่างหมู่บ้านกลางน้ำเจียงหนานเอ่ยเบา ๆ “ถึงแม้ฮูหยินฉีจะสุขภาพไม่ดี ป่วยกระเสาะกระแสะ อย่างไรก็ไม่ถึงคราวอนุผู้นั้นมารับผิดชอบเรื่องภายในจวนกระมัง? ใต้เท้าฉีเป็นพวกกินพืชหรือไร?”

“เรื่องนี้ท่านไม่รู้” ฮูหยินเจียงที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น “ฉีเซียวไม่ได้อาศัยอยู่ในจวนฉี หลังจากมาเป็นขุนนาง เขาก็แยกจวนออกมาแล้ว ไม่ว่านางอนุผู้นั้นจะเหิมเกริมเพียงใดก็ไม่กล้าละเลยฮูหยินฉี อย่างไรเสียอารมณ์ของใต้เท้าฉีก็ไม่ได้จัดว่าดีเท่าไหร่”

“อย่างนี้ค่อยฟังดูสมเหตุสมผลขึ้นมาหน่อย ในเมื่อไม่กล้าล่วงเกินใต้เท้าฉี เช่นนั้นคู่หมั้นผู้นี้มันเรื่องอะไรกัน? หรือว่าจู่ ๆ ก็นึกถึงการแต่งงานขึ้นมาเลยคิดจะปีนต้นไม้สูงใหญ่?”

สายตาหลายคู่หันมามองมู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่ลังเลว่าจะลงตัวใดดี เมื่อนางสังเกตเห็นความร้อนแรงในดวงตาหลายคู่นั้นจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไยพวกท่านต้องมองข้า ข้าไม่ได้รู้มากไปกว่าพวกท่าน ไม่ว่าแม่นางจูผู้นั้นจะมาจากที่ใด อย่างไรใต้เท้าฉีก็ไม่ยอมปล่อยให้ตนเองต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน เว้นเสียแต่จะเป็นสตรีที่เขาพึงใจ แม้กระทั่งจะเป็นสมรสพระราชทานจากฝ่าบาทก็อย่าหวังว่าเขาจะยอมก้มหัวยอมรับ”

“ข้าได้ยินว่าลูกชายของอนุผู้นั้นเพิ่งถึงวัยแต่งงาน พี่ชายยังไม่ได้แต่งงาน ยากที่น้องชายจะได้แต่ง บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ ถึงอยากเร่งให้ใต้เท้าฉีแต่งงานโดยเร็วที่สุดกระมัง!”

“นั่นก็ไม่จำเป็นต้องหาคนเช่นนี้…”

“ผ่านมาหลายปีเพียงนี้แล้ว ใต้เท้าฉีไม่ยินยอมแต่งงาน ในที่สุดก็มีคนเริ่มสานสัมพันธไมตรี แต่จากนี้ไปคงไม่มีผู้ใดกล้าสานสัมพันธ์แล้วกระมัง”

“พระชายา ท่านคุ้นเคยกับใต้เท้าฉี ท่านไม่เคยถามเลยหรือว่าเขาชอบอย่างไร?”

มู่ซืออวี่จับไพ่แล้วกล่าวว่า “มีอะไรให้ถามกัน? ชีวิตคนไม่จำเป็นต้องมีลูกมีภรรยาเสมอไป เขาอาจไม่ต้องการผูกมัดก็เป็นได้ อย่างไรก็ไม่ได้กระทบกับผู้อื่น”

หลังจากเล่นไพ่นกกระจอกไปสองสามรอบ มู่ซืออวี่ก็เตรียมงานเลี้ยงหม้อไฟให้พี่หญิงน้องหญิงกินร่วมกันก่อนจะแยกย้าย การรวมตัวอย่างหาได้ยากนี้

“พระชายา ท่านอ๋องและใต้เท้าฉีกำลังหารือบางอย่างอยู่ในห้องตำรา เกรงว่ากว่าจะกลับเข้าห้องก็ดึกมากแล้วจึงให้บ่าวมาแจ้งท่านเจ้าค่ะ” สาวใช้รายงาน

“เอาละ ข้ารู้แล้ว” มู่ซืออวี่ดื่มสุราเล็กน้อย ขณะที่กำลังจะกลับห้อง จู่ ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงหันกลับไปถามสาวใช้ผู้นั้น “พวกเขาทานอาหารเย็นหรือยัง?”

“คงใกล้ทานแล้วเจ้าค่ะ”

“เจ้าบอกให้ครัวเตรียมบัวลอยหมักสุราเสียหน่อยเถอะ ใต้เท้าฉีชอบทาน”

“เจ้าค่ะ”

มู่ซืออวี่เมาเล็กน้อยจึงเข้าพักผ่อนหลังจากอาบน้ำ อย่างไรก็ตาม นอนไปได้ไม่นานก็รู้สึกเหมือนมีคนกำลังเขย่าตัว เมื่อนางลืมตาที่พร่ามัวขึ้นจึงเห็นลู่จื่อชิงนั่งอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย