บทที่ 968 ฮูหยินผู้เฒ่าประกาศผลลัพธ์
บทที่ 968 ฮูหยินผู้เฒ่าประกาศผลลัพธ์
คนสกุลสิงทุกครอบครัวนั่งลงตรงที่นั่งตนคนแล้วคนเล่า
หลังจากสิงเจียซือกลับมาได้หลายวัน นางเพิ่งได้พบกับคนสกุลสิงครบทุกคนเป็นครั้งแรก
ปกติพวกเขาล้วนงานยุ่ง… ไม่สิ ควรเป็นยุ่งอยู่กับการเที่ยวเล่นของตนเองมากกว่า นับวันยิ่งพบกันได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้พวกเขาไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของฮูหยินผู้เฒ่า จึงลุกขึ้นมาจากดินแดนแห่งความอ่อนโยน*[1]
สิงเจียซือได้กลิ่นชาดฉุนกึก พลันนึกรังเกียจขึ้นมา
นับตั้งแต่บิดานางจากไป แต่ละบ้านในสกุลสิงนับวันยิ่งสะเปะสะปะเละเทะขึ้นเรื่อย ๆ ครอบครัวอย่างนี้หากจะให้กลับมาจริง ๆ ให้รอความตายยังง่ายดายเสียกว่า
นางไม่ได้บอกว่ามีเพียงบิดานางเท่านั้นที่สามารถทำให้สกุลสิงคงอยู่ได้ หากแต่เป็นเพราะมีบิดาของนางคอยควบคุม พี่น้องแต่ละบ้านจึงยังคงปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ทว่าบัดนี้บ้านใหญ่ไม่อยู่แล้ว ไม่มีผู้ใดควบคุมพวกเขาได้อีก พวกเขาจึงปลดปล่อยตนเองออกมา
ผู้สืบเชื้อสายสกุลสิงนั้นมีไม่น้อย ทว่าจนกระทั่งบัดนี้ยังไม่มีผู้ใดเล่าเรียนศึกษาอย่างจริงจัง แน่นอนว่า ไม่นับเจ้าสิบที่กำลังร่ำเรียนอยู่ต่างเมือง นางหวังว่าเจ้าสิบจะไม่กลับมาที่สกุลสิง อย่ามารับผลกรรมจากปลวกที่คอยกัดกินบ้านพวกนี้เลย
“เจ้ารอง ตรวจดูเสียหน่อย ขาดผู้ใดไปหรือไม่?” ฮูหยินผู้เฒ่าถาม
นายท่านรองสิงมองไปรอบ ๆ แล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ มาครบแล้ว”
“ครบที่ใดกัน? เจ้าสิบไม่ได้กลับมาไม่ใช่หรือ?” ฮูหยินสามสิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงมุ่งร้าย “ข้าว่านะเจ้าห้า เจ้าไม่กลับมาก็แล้วไปเถอะ เจ้าสิบเป็นทายาทสกุลสิงเรา เจ้าเอาเขาไปซ่อนไว้ที่ใด?”
“พอได้แล้ว เจ้าสิบกำลังเรียนหนังสืออยู่ต่างเมือง ซ่อนตัวอะไรกัน?” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยขัดนาง “วัน ๆ เอาแต่จับตามองผู้เยาว์ มีผู้อาวุโสที่ใดทำอย่างเจ้าบ้าง?”
ฮูหยินสามสิงเบ้ปาก เตะนายท่านสามสิงที่สัปหงกอยู่ข้าง ๆ หนึ่งที
นายท่านสามสิงยืดตัวนั่งตัวตรงพลางกล่าว “มีอะไร ๆ?”
“ท่านพูดว่ามีอะไรหรือ?” ฮูหยินสามสิงกล่าว “ไม่กลับมาที่บ้านสองสามวัน กลับมาก็หลับอีก ดินแดนแห่งความอ่อนโยนข้างนอกนั่นไม่ให้ท่านได้นอนหลับดี ๆ หรือไร?”
“ต่อหน้าผู้เยาว์ เจ้าพูดอะไรน่ะ?” นายท่านสามสิงอับอายเป็นอย่างมาก “ท่านแม่ ท่านเรียกพวกเรามารวมตัวกัน ที่แท้มีเรื่องอะไรกันแน่?”
เดิมทีฮูหยินผู้เฒ่าสิงคิดจะจัดงานเลี้ยงของสกุลเสียก่อนค่อยประกาศเรื่องนี้ ทว่าดูแล้วแต่ละคนจิตใจไม่ได้อยู่ที่บ้าน หากยังรั้งรอต่อไปแม้เพียงหนึ่งเค่อก็เกรงว่าจะยุ่งยากจึงเอ่ยเรื่องสำคัญขึ้นมาก่อน
“วันนี้แขกสกุลหัวมาเยือน” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ย “ข้าเคยบอกพวกเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว สกุลหัวตั้งใจจะเกี่ยวดองกับสกุลสิงเรา จึงเลือกแม่นางที่พ้นวัยปักปิ่นจากสกุลสิงเราไปเป็นสะใภ้สกุลหัวผู้หนึ่ง”
“เช่นนั้นพวกเขาเลือกผู้ใดหรือ?” นายท่านสามสิงมองดูหลานสาวทั้งสองของเขา
สิงเจียซือยกถ้วยชาขึ้นมาถูมันเบา ๆ
นายท่านรองสิงมีบุตรชายจากภรรยาเอกหนึ่งคน บุตรสาวจากภรรยาเอกหนึ่งคน บุตรสาวจากอนุหนึ่งคน บุตรชายจากอนุสองคน
นายท่านสามสิงมีบุตรชายจากอนุหนึ่งคน บุตรสาวจากอนุหนึ่งคน บุตรฝาแฝดของนายท่านสี่สิงล้วนเป็นลูกจากภรรยาเอก ทว่าตัวเขาเป็นบุตรอนุ ดังนั้นล้วนเป็นสายรอง
นอกจากเจ้าสิบที่เกิดในบ้านใหญ่แล้ว กล่าวได้ว่าบุตรชายภรรยาเอกของบ้านรองสูงศักดิ์ที่สุด
สิงเจียซือมองดูคนผู้นั้นด้วยสายตาเคร่งขรึม ดูเหมือนว่าร่างกายของลูกพี่ลูกน้องจะถูกสุราและราคะทำให้เหนื่อยล้าอ่อนแรง สายตานางพลันฉายแววรังเกียจขึ้นมา
“ความหมายของฮูหยินหัวคือ นางชอบเจ้าห้า ยังคงเลือกเจ้าห้าเป็นสะใภ้สกุลหัวของพวกเขา”
สิงเจียซือเงยหน้าขึ้นทันที นางหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่า “ท่านย่า นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
“ข้าเอ่ยชัดเจน เจ้าก็ได้ยินชัดเจนแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงกล่าว “หากเจ้าอยากฟัง ข้าจะเอ่ยอีกรอบ ฮูหยินหัวชอบนิสัยของเจ้ามากกว่า จึงได้เลือกเจ้าเป็นสะใภ้สกุลหัว”
“ข้าไม่ยินดี”
“เรื่องการแต่งงานล้วนจัดการโดยผู้ใหญ่ มีเรื่องเจ้ายินดีหรือไม่ยินดีที่ใด?” นายท่านสามสิงเอ่ย “ในเมื่อสกุลหัวถูกใจเจ้าห้า เช่นนั้นพวกเราก็มาตระเตรียมสินเดิม จัดการเรื่องงานแต่งโดยเร็วที่สุดเถอะ”
“เจ้าห้า นี่เป็นเรื่องดีนะ!” ฮูหยินรองสิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “สกุลหัวร่ำรวยเพียงนั้น คนมากมายเพียงใดอยากได้คู่ครองที่ดีเช่นนี้แต่ก็ไม่อาจเอื้อม ฮูหยินหัวเห็นแก่หน้าแม่เจ้าจึงเลือกเจ้า มิเช่นนั้น ดูสภาพเจ้าตอนนี้สิ สกุลหัวจะถูกใจเจ้าได้อย่างไร?”
สิงเจียซือนอนแผ่อยู่บนเตียง ครุ่นคิดหาวิธีฝ่าทะลวงเรื่องนี้ไป
วิธีทำให้อีกฝ่ายกลัวไม่มีประโยชน์ เช่นนั้นมีเพียงทำให้อีกฝ่ายถอนหมั้นแล้ว
สกุลสิงช่วงนี้จะต้องจับตาดูนางอย่างเข้มงวดเป็นแน่ นางคิดจะออกไปก็คงยาก เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นางทำได้เพียงขอความช่วยเหลือ
สหายทั้งหลายของนางล้วนอยู่ข้างนอก หากครานี้นางเผชิญอันตรายจากชนเผ่าต่าง ๆ นางย่อมขอความช่วยเหลือได้ในเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตาม ในเมืองหลวง นางมีเพียงคนผู้เดียวที่สามารถบากหน้าไปขอความช่วยเหลือได้
ใต้เท้าลู่
“ข้ามักจะรบกวนเขาอยู่เรื่อยเช่นนี้ ไม่ค่อยดีกระมัง? เขาดูเหมือนยุ่งเพียงนั้น” สิงเจียซือเอ่ยกับตนเอง
“เมี้ยว…” เจ้าสมบัตินอนอยู่ตรงหน้านาง จ้องมองนางด้วยดวงตากลมโตคู่นั้นของมัน
สิงเจียซือยกเจ้าสมบัติขึ้นแล้วกล่าวว่า “ใต้เท้าบอกว่าต้องการทดแทนคุณข้า ตอนนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ข้ารบกวนใต้เท้าสักหน่อยคงไม่เป็นไรกระมัง เจ้าสมบัติ”
“เมี้ยว…”
“เจ้าบอกว่าไม่มีปัญหา เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหา” สิงเจียซือเอ่ย “ตอนนี้ข้าออกจากจวนไม่ได้ ทำได้เพียงให้คนไปส่งจดหมายแล้ว”
ฉิงโหรวและฉิงฮุ่ยยืนอยู่นอกประตู ได้ยินเสียงพูดคุยกับตนเองอยู่ข้างใน ทั้งคู่พลันนึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณหนูไม่เป็นอะไรจริง ๆ หรือ?”
“บางที… อาจจะ… ไม่เป็นไรกระมัง!”
หากการพูดคุยกับแมวเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้นางคงยังปกติอยู่นั่นแหละ
[1] ดินแดนแห่งความอ่อนโยน หมายถึง สิ่งที่ทำให้ลุ่มหลงมัวเมาอย่างเช่น สตรี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...