สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 97

บทที่ 97 นินทาว่าร้าย

บทที่ 97 นินทาว่าร้าย

ถังเหยียนจื้อกระอักกระอ่วน “ดูซะที่ไหนกัน? ข้าแค่คิดว่าจะกล่าวอย่างไรดี”

มู่ซืออวี่เผยสีหน้าหมดความอดทน “หากยังไม่ได้คิดว่าจะพูดอะไร เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดแล้ว”

“ช้าก่อน” ถังเหยียนจื้อขวางประตูไว้ “คือเรื่องเป็นเช่นนี้ ภัตตาคารหมายเลขหนึ่งอยากจะซื้อหมูตุ๋นของเจ้าจากใจจริง ภัตตาคารเจียงซื่อให้ราคามากน้อยเพียงใด? เราจะเพิ่มให้อีก 10 อีแปะ”

แม่เฒ่าเจียงเบิกตากว้าง

นั่นมันเงินมากเพียงใดกัน?

ความอิจฉาริษยาแวบผ่านแววตาของมู่ซือเจียว

ถึงแม้ว่าอยู่ในจวนสกุลหลี่จะกินอิ่มนอนอุ่น แต่รายได้ของสาวใช้ขั้นรองก็เพียงแค่หนึ่งตำลึงเงินเท่านั้น

มู่ซืออวี่ หญิงชาวบ้านคนนี้แค่อยู่บ้านยังได้รับเงินหลายตำลึง นางจะไม่อิจฉาได้อย่างไร?

“ไม่สนใจ” เมื่อมู่ซืออวี่รู้ว่าพวกเขามาเพื่อหมูตุ๋น นางก็กลับเข้าไปในเรือนโดยไม่พูดให้มากความอีกต่อไป ทั้งยังปิดประตูดังโครม

ถังเหยียนจื้อเคาะประตู “น้องซืออวี่ เจ้าอาจไม่รู้ว่าการเพิ่มให้สิบอีแปะต่อหนึ่งชั่งนั้นมากเพียงใด ข้าจะคำนวณให้เจ้าฟัง เดิมทีหากเจ้ามีหมูตุ๋น 10 ชั่ง พวกเขาให้เจ้า 30 อีแปะต่อหนึ่งชั่ง เช่นนั้นก็จะได้รับ 300 อีแปะ หากได้เพิ่ม 10 อีแปะต่อหนึ่งชั่ง เช่นนั้นก็จะได้ 400 อีแปะ หากรวมอย่างอื่นเข้าไปอีก ทุกวันเจ้าก็จะได้เงินเพิ่มอย่างน้อยถึง 150 อีแปะต่อวัน ได้เพิ่มวันละ 100 อีแปะทุกวัน เดือนหนึ่งก็จะเป็นเงินถึงสองสามตำลึงเงิน นั่นเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเชียวนะ!”

“น้องซืออวี่ เจ้าถูกภัตตาคารเจียงซื่อหลอกแล้ว ให้ข้าเข้าไปคุยรายละเอียดกับเจ้า…”

“ซืออวี่…”

ซ่า! น้ำหนึ่งอ่างสาดออกมา

ถังเหยียนจื้อเย็นเยือกไปทั้งตัว

“เจ้า!” มู่ซือเจียวกรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าทำอะไร?”

“เอ่ยปากทีไรก็น้องซืออวี่ หนวกหูจริง ๆ ใครเป็นน้องซืออวี่ของเจ้าไม่ทราบ?” มู่ซืออวี่มือเท้าสะเอวราวกับหญิงปากร้าย

มู่ซือเจียวรู้สึกกลัวจากสัญชาตญาณ

นางเพิ่งประจักษ์ในความสามารถด้านการตบตีของมู่ซืออวี่ ไม่คิดจะลองดีอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าญาติผู้พี่ของนาง

ถังเหยียนจื้อก็โมโหขึ้นมาบ้างแล้วเช่นเดียวกัน

เขาค่อย ๆ เช็ดน้ำออก ฝืนฉีกยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ออกมา “ซืออวี่ ข้าทำเพื่อประโยชน์ของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้ากับคนในครอบครัวไม่ยินดี แต่ความจริงแล้ว ท่านป้ากับเจียวเอ๋อร์ล้วนเป็นห่วงเป็นใยเจ้า”

ครั้นเอ่ยจบ เขาก็หันไปมองแม่เฒ่าเจียง

แม่เฒ่าเจียงก็รีบเออออห่อหมกตาม “ก็ใช่น่ะซี นังหนูอวี่ ย่าอาจจะดุไปหน่อย แต่ว่าย่ายอมรับผิดแล้ว ภายหน้าจะดีต่อเจ้าแน่นอน เจ้าจะต้องเชื่อย่านะ เหตุใดไม่มองข้ามเรื่องเงินไปเล่า?”

ถังเหยียนจื้อหันไปมองมู่ซือเจียวอีกครา

สีหน้าของมู่ซือเจียวแปลกพิกล นางเอ่ยขึ้นอย่างไม่เต็มใจแม้แต่น้อย “ภัตตาคารหมายเลขหนึ่งมีลูกค้าเยอะกว่าภัตตาคารเจียงซื่อ ย่อมต้องการในปริมาณที่มากกว่า เจ้าฉลาดอย่างนี้ จะคิดคำนวณไม่ได้เชียวหรือ?”

ถังเหยียนจื้อไม่ค่อยพอใจกับท่าทีของมู่ซือเจียวนัก แต่สิ่งที่นางเอ่ยยังฟังรื่นหูไม่เบา

“เหตุผลอยู่ตรงนี้นี่แหละ ภัตตาคารหมายเลขหนึ่งต้องการอย่างน้อยหลายสิบชั่งต่อวัน เจ้าได้จากภัตตาคารเจียงซื่อมากเพียงใดกัน? วันละสักกี่ร้อยอีแปะเชียว แต่ภัตตาคารหมายเลขหนึ่งสามารถทำให้เจ้ามีรายได้อย่างน้อยหนึ่งตำลึงเงินทุกวัน”

“ข้าตกลงกับภัตตาคารเจียงซื่อนานแล้ว เว้นเสียแต่ว่าภัตตาคารเจียงซื่อจะไม่ต้องการของของเราอีกต่อไป ไม่เช่นนั้นของของเราก็ขายให้เพียงภัตตาคารเจียงซื่อเท่านั้น ถึงแม้ข้าจะไม่ใช่คนค้าขาย แต่กฎเกณฑ์ข้อนี้ก็ยังเข้าใจ”

ครั้นเอ่ยจบ ประตูก็ถูกปิดฉับลงอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ว่าคนข้างนอกจะมีฝีปากดีเพียงใดแต่มันก็ไม่เปิดออกอีกเลย

“พวกเขาจะยอมแพ้หรือ?” ลู่จื่ออวิ๋นถาม

“เจ้าคิดว่าเช่นไรเล่า?” มู่ซืออวี่ถามกลับ

“ไม่เจ้าค่ะ” ลู่จื่ออวิ๋นส่ายหัว “หากพวกเขามีทางอื่นจริง ๆ ก็คงไม่มาซื้อหมูตุ๋นในราคาที่สูงขนาดนั้น ต้องเป็นเพราะไม่มีวิธีอื่นแล้วถึงได้มา พวกเขาจะต้องมาอีกรอบแน่เจ้าค่ะ”

“หากครอบครัวเรามีหมาโง่ก็ดีน่ะสิ” มู่ซืออวี่พูดกับตัวเอง “เห็นคนที่เกลียดก็แค่ปิดประตูหนี แล้วปล่อยสุนัขไล่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย