สายเปย์เบอร์หนึ่ง นิยาย บท 48

บทที่ 48 หนีไม่พ้น

“นายเนี่ยนะเป็นคนขุด?” หลีชิงเยียนประหลาดใจ เธอมองไปที่รอยยิ้มลึกซึ้งของเฉินเป่ย และหัวเราะเยาะอย่างดูถูก

“ถ้านายบอกว่านายเป็นคนสับเปลี่ยนเพชรโลหิตนั่นยังจะดูน่าเชื่อกว่าอีก” แขนขาวเรียวของหลีชิงเยียนยกขึ้นกอดหน้าอก เธอยิ้มอย่างน่าขัน

หลีชิงเยียนจะเชื่อคำพูดของเฉินเป่ยได้อย่างไร เพชรโลหิตมีมูลค่าสูงเสียขนาดนั้น แม้ว่าเพชรลูกจะมีคุณภาพแย่อย่างไร แต่ก็มีมูลค่าหลายล้านซึ่งเป็นมูลค่าที่หลายคนไม่กล้าใฝ่หา

ของที่เป็นสมบัติล้ำค่าแบบนี้ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ายังกล้าพูดอย่างหน้าด้านๆว่าเขาเป็นคนขุดมาเองกับมือ?

เชื่อกับผีน่ะสิ!

เฉินเป่ย ยิ้มอย่างเฉยเมยและไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ อันที่จริงตอนนั้นเฉินเป่ยมีภารกิจลับในแอฟริกาใต้ เขาบังเอิญเจอเพื่อนของเขาในแอฟริกาใต้ และได้ช่วยขุดเพชรโลหิตออกมา ดังนั้นเขาจึงพูดเรื่องเพชรเเม่ลูกอย่างมั่นใจต่อหน้าคุณชายหลี...เพราะเขาเป็นขุดมันออกมาเองกับมือจึงเข้าใจทุกอย่าง

แม้กระทั่งเพชรแม่ลูกถูกขนไปที่งานประมูลที่แอฟริกาใต้ เฉินเป่ยก็อยู่ระหว่างการลำเลียงตลอดทางจึงรู้เกี่ยวกับเพชรโลหิตเป็นอย่างดี ทว่าคุณชายหลีรู้เพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น

เฉินเป่ยไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง เขารู้ดีว่าไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร หลีชิงเยียนก็ไม่มีทางเชื่อ...

  …………

ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถไมบัคก็จอดอยู่ตรงหน้าประตูคฤหาสน์ หลีชิงเยียนค่อยๆก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในคฤหาสน์

หลังจากที่เฉินเป่ยจอดรถเสร็จเรียบร้อย เขาก็เดินตามเข้าไปและเห็นว่าซูเสี่ยวหยุนกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เธอถือจานผลไม้อยู่ในมือและเพลิดเพลินกับความหวานและชุ่มฉ่ำของผลไม้นำเข้า

“เป็นยังไงบ้าง?” ซูเสี่ยวหยุนเอ่ยถามหลีชิงเยียนซึ่งมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี

“เธอถามเขา?” หลีชิงเยียนพูดด้วยความเย็นชาและเดินขึ้นบันได

“ประธานหลีเจอคุณชายหลีที่นั่น” เฉินเป่ยพูด

เฉินเป่ยและซูเสี่ยวหยุนคุยเรื่องทั่วไปไม่กี่ประโยค จากนั้นก็เดินเข้าห้องของตัวเอง หลังจากที่ปิดประตูก็ต่อสายโทรศัพท์หาคนคนหนึ่ง

“ลูกพี่ เมื่อไหร่จะกลับมา ผมอยู่เมืองเมืองหู้ไห่จนเซ็งแล้วนะ ผับในเมืองเมืองหู้ไห่ผมเที่ยวมาหมดแล้วเนี่ย” เสียงความข้องใจของชายหนุ่มคนหนึ่งลอยเข้ามาทางโทรศัพท์

“อย่ามาไร้สาระน่า นักฆ่าที่ตามสังหารเมียฉัน แกสืบได้หรือยัง?” เฉินเป่ยตะคอกอย่างเย็นชา

“นั่น...ลูกพี่ มันสืบยากมาก ผมเช็คตระกูลน้อยตระกูลใหญ่หลายตระกูลในเยี่ยนจิงมานานแล้ว นักฆ่าพวกนั้นต่างก็ติดต่อหลายตระกูลมาก ยังไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน” ชิงเหนียนพูดบ่น

“ตอนนี้ฉันจะแจ้งเบาะแสให้แกไปสืบเรื่องตระกูลหลีที่เมืองเมืองหู้ไห่แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่ง...คุณชายหลีคนนั้นที่อยู่เยี่ยนจิง ตอนนี้มาที่เมืองเมืองหู้ไห่แล้ว” เฉินเป่ยพูดจบก็วางสายไป

  …………

วันหยุดสุดสัปดาห์ พอเฉินเป่ยทำอาหารเช้าเสร็จ หลีชิงเยียน ซูเสี่ยวหยุนและซูเหลยก็เดินลงมาชั้นล่างและเดินมาที่โต๊ะอาหาร

ตามปกติซูเหลยเป็นคนที่ลงมาเช้าที่สุด ลำดับต่อไปก็จะเป็นซูเสี่ยวหยุน จนกระทั่งซูเหลยทานข้าวใกล้จะเสร็จแล้ว หลีชิงเยียนถึงจะสวมรองเท้าแตะเดินลงมาจากชั้นสอง

หลังจากที่หลีชิงเยียนเดินลงมา ดวงตาสวยก็มองอาหารเช้าที่วางอยู่บนโต๊ะ และบังเอิญที่ที่นั่งข้างๆเฉินเป่ยยังว่างอยู่อีกที่หนึ่ง

หลีชิงเยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็เดินไปนั่งข้างๆเฉินเป่ย

“โล่เยียน ลองชิมนี่ดูสิ นี่เป็นแซนวิชไก่พริกไทยดำที่ผมเพิ่งหัดทำ” เฉินเป่ยยิ้มร่า เขาหยิบแซนวิชที่ตั้งใจทำอย่างพิถีพิถันวางไว้บนจานของหลีชิงเยียน

หลีชิงเยียนมองเฉินเป่ยและพูดอย่างเย็นชา “อย่าเรียกฉันแบบนี้ ให้เรียกว่าประธานหลี!”

“โอเคๆ” เฉินเป่ยยิ้มเบิกบาน หลังจากนั้นเขารอให้หลีชิงเยียนกัดแซนวิชเสร็จก็พึมพำเล็กน้อย “คุณเป็นเมียผม ไม่ใช่คนนอกเสียหน่อย”

“นายพูดอะไร?” ทันใดนั้นก้มีเสียงหลีชิงเยียนลอยเข้ามา

“ไม่มีอะไร” เฉินเป่ยยิ้มอย่างกระดากอาย หลีชิงเยียนจ้องเขาอยู่ครู่หนึ่ง เฉินเป่ยคิดในใจ...ยังโชคดีที่ชิงเยียนไม่ได้ยินที่เขาพูด...

“เสี่ยวเยียน ดูทีวี” ซูเสี่ยวหยุนพูด

หลีชิงเยียนเงยหน้าขึ้นและเห็นรายงานการออกอากาศทางโทรทัศน์

“คืนนี้มีงานประมูลการกุศล เธอจะไปไหม?” ซูเสี่ยวหยุนถาม

หลีชิงเยียนจ้องไปที่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่สุดหรูสักครู่แล้วเอ่ยคำพูดอย่างเด็ดขาด

“ไป”

หลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จหมดแล้ว ในขณะที่เฉินเป่ยกำลังจะเดินออกจากคฤหาสน์ เขาก็พบซูเหลยที่กำลังวิ่งจ๊อกกิ้งรอบคฤหาสน์เข้าพอดี เฉินเป่ยกวาดสายตามองรูปร่างที่ดูดีของซูเหลย ส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอเป็นผลมาจากการออกกำลังกายเป็นเวลานานจึงไม่มีไขมันส่วนเกิน ขาวเรียว สะโพกกลมกลึงเต็มไปด้วยพลัง

“ซูเหลย คุณออกกำลังกายเช้าขนาดนี้เลยหรือ?” เฉินเป่ยไล่ตามแล้วยิ้ม

ซูเหลยเหลือบมองเฉินเป่ยที่เดินอยู่ข้างๆ เธอจะรู้สึกดีกับคนหลอกลวงคนนี้ได้อย่างไร เธอพูดเรียบๆ “เกี่ยวอะไรกับนาย?”

“แปลกจัง ผมก็ออกกำลังกายทุกวัน แต่ไม่เคยเจอคุณเลย” เฉินเป่ยหัวเราะแหะแหะ

ซูเหลยขมวดคิ้ว ปกติเธอไม่เคยเห็นเฉินเป่ยออกกำลังกายมาก่อน เฉินเป่ยคนนี้ยังกล้าพูดโกหกต่อหน้าเธอ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายเปย์เบอร์หนึ่ง