ตอนที่ 66คุณว่าใครว่าไม่เข้าใจแต่แสร้งทำเป็นเข้าใจ?
ทันใดนั้น ทุกคนในร้านอาหารต่างก็มองตามเสียงที่ดังขึ้น เห็นรอยยิ้มที่มุมปากของ เฉินเป่ย ดูมั่นใจมาก
"อย่างคุณเนี่ยนะ" ป้าใหญ่ใหญ่เอามือคาดเอวพูดยิ้มเยาะ "แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในเยี่ยนจิงและในต่างประเทศยังทำไม่ได้ คุณมาอวดเก่งอะไรที่นี่?"
"นั่นสิ พ่อได้จ้างผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมมากมายจากต่างประเทศยังไม่มีใครทำได้ คุณมองอะไรมอง ยังไม่ได้เข้าประตูตระกูลหลี ก็คิดจะมายุ่งเรื่องของตระกูลหลี คุณมีคุณสมบัตินี้หรือไม่?" ป้าสองกล่าว
หลีเช่าเทียนจ้องไปที่เฉินเป่ย ซึ่งดูเย็นชาและพูดอย่างไม่ไยดี "งั้นก็ให้เขาลองดู ผมก็อยากรู้เหมือนกัน คนขับรถอย่างคุณเฉิน ... จะรู้ทักษะทางการแพทย์ด้วยหรือ?"
เฉินเป่ยกวาดมองไปที่หลีเช่าเทียนพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ "รู้นิดหน่อย"
“ ชอบติดทองบนหน้าตนเอง สำคัญตนเอง” ป้าหัวเราะเยาะเย้ย“ คนขับรถไม่ตั้งใจขับรถ อวดเก่งอะไรกัน บอกว่าตัวเองรู้เรื่องแพทย์ ... ฉันยังจะบอกว่าฉันเป็นหมอเทวดาฮัวโต๋กลับชาติมาเกิด!”
หลีเซิ่งขมวดคิ้วและมองไปที่หลีชิงเยียน“ ชิงเยียน สามีของคุณปกติก็ไร้ยางอายแบบนี้เหรอ?
ใบหน้าสวยงามของหลีชิงเยียนเหม่อ อันที่จริงเธอไม่เข้าใจการกระทำตอนนี้ของเฉินเป่ยเธอรู้สึกงงไปหมด
ไอ้หมอนี่ ทำตัวเด่นอะไรของเขาเนี่ย? ด้วยฐานนะของหลีหง แน่นอนว่าต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มาหลายคนอยู่แล้ว แต่พวกเขายังทำอะไรไม่ได้เลย
เฉินเป่ย อย่างคุณจะมีปัญญาเหรอ?
มืออ่อนนุ่มที่อยู่ใต้โต๊ะของหลีชิงเยียน ดึงมุมเสื้อของเฉินเป่ยเบาๆ จิเขาด้วยสายตาที่ดุแล้วถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ”คุณกำลังทำอะไรของคุณ?”
เฉินเป่ยยิ้มจาง ๆ "ก็รักษาโรคไง"
"รัก ... รักษาโรค" ใบหน้าของหลีชิงเยียนหยุดนิ่ง เธอจ้องไปที่เฉินเป่ยด้วยใบหน้าที่ไม่น่าเชื่อ ผู้ชายคนนี้ เอาจริงหรือ?
"คุณไม่สร้างปัญหาจะตายเหรอ?กินอาหารมื้อนี้เสร็จก็กลับกับฉันเลย" หลี่ชิงเยียนกัดฟันแน่น เธอมีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง การปรากฏตัวของหลีหงนั้นต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
แต่แล้ว เฉินเป่ยทำตัวเหมือนไม่ได้ยิน มองไปที่หลีหง "ดูสิ้นหวังแล้ว ดังนั้น ให้ผมลองเสี่ยงโชคดูสักครั้ง ผมเคยรู้จักหมอยาจีนชราคนหนึ่ง ได้เรียนรู้เรื่องนี้มาเล็กน้อยมันอาจจะใช้ประโยชน์ได้"
"แหม รู้จักหมอจีนชรา ทำไมคุณถึงไม่บอกว่าคุณเป็นหมอล่ะ" ป้าสองหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม
เฉินเป่ยเพิกเฉยต่อสายตาที่ดูหมิ่นของป้าสอง มองไปที่การจ้องมองของหลีหง สงบและลึกซึ้ง
หลีหงโบกมือ ในห้องอาหารก็เงียบลง หลีหงถามด้วยสีหน้าจริงจัง "คุณรู้เรื่องแพทย์จริงๆหรือ?"
เฉินเป่ยพยักหน้าในเวลานี้แม้แต่หลีเซิ่งก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างดูถูก เฉินเป่ยเสแสร้งเก่งเกินไปแล้ว เขากล้าโกหกหลีหง... เขาตายแน่!
"โอเค" หลีหงตอบอย่างไม่ลีลา ปรบมือ "ผมให้โอกาสแก่คุณ ครั้งนี้ก็ฝากคุณด้วยนะ"
หา!
ในห้องอาหาร สายตาจ้องมองมากมาย ทันใดนั้นก็เต็มไปด้วยการตกตะลึง!
หลีหง เชื่อในคำพูดประจบของเฉินเป่ยจริงด้วย!
"พ่อ อย่าเชื่อคำพูดไร้สาระของเขาเลย เช่าเทียนเคยบอกแล้วว่า เขาเป็นแค่หลานเขยที่แต่งเข้ามาในบ้าน ปกติเป็นคนขับรถไปวันๆ อะไรก็ทำไม่เป็น เป็นเพียงขยะที่ไร้ประโยชน์" ป้าชี้ไปที่เฉินเป่ยและพูดเสียงกระแทก
"ใช่พ่อ ท่านได้จ้างผู้เชี่ยวชาญมากขนาดนี้ยังไม่มีใครทำได้ท่านเชิญขยะคนนี้ไปมันจะมีประโยชน์อะไร " ป้าสองกล่าว
“สิ่งที่เขาพูดแค่ฟังก็รู้แล้วว่าขี้โม้ “หลีเซิ่งพูดอย่างเย็นชา
หลีหงโบกมือและกล่าวว่า "เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ ตราบใดที่ยังมีความหวังอันริบหรี่ ก็ไม่ควรยอมแพ้ คุณเฉินไปกันเถอะ"
หลีหงก้าวขาออกไป เฉินเป่ยมองไปที่ร่างนั้นอย่างลึกซึ้ง มุมปากของเขาก็ค่อยๆยกขึ้นจนเป็นโค้ง
"ทางที่ดีคุณอย่ารักษาคนป่วยจนตายละกัน มิฉะนั้นคุณหลานเขยอย่างคุณอย่าได้คิดจะเข้าประตูตระกูลหลีอีก!" ป้าใหญ่เดินตามอย่างใกล้ชิด จ้องไปที่เฉินเป่ยด้วยความหยิ่งยโส
ดวงตาของเฉินเป่ยหรี่ลงเล็กน้อย หากไม่ใช่เพราะหลีชิงเยียนก็อยู่ที่นี่ เฉินเป่ยกลัวหลังจากเขาลงมือกับตระกูลหลี พวกเขาจะแอบทำเรื่องชั่วกับเธอ ไม่เช่นนั้นป้าใหญ่คงจะไม่สามารถมายืนดีๆอยู่ที่นี่ตั้งนานหรอก ยังจะสามารถเหิมเกริมเช่นนี้เหรอ? !
"ขอให้คุณโชคดีนะ" หลี่เช่าเทียนเดินตามป้าและป้าสองออกจากคฤหาสน์ ทันใดนั้น เขาหยุดเดิน หันหน้าไปมองเฉินเป่ยและส่งเสียงออกมาด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ
จากนั้นไม่นาน เขาก็เดินออกจากคฤหาสน์และเดินไปที่รถเบนซ์สีดำที่หน้าประตู
เฉินเป่ยเดินตามมา เพิ่งก้าวขาออกไป ทันใดนั้นเขาก็ถูกหลีชิงเยียนดึงไว้ "คุณต้องการทำอะไรกันแน่?"
เฉินเป่ยหยุดเดิน หันหน้าไปมอง สีหน้าประหลาดใจ "จะทำอะไรอีกละ ไปรักษาคนป่วยไง”
"พอเลยคุณ" หลีชิงเยียนยิ้มเยาะ คนอื่นไม่รู้ความเป็นจริงของเฉินเป่ย เธอจะเข้าใจหรือ? แม้ว่าบางครั้งเฉินเป่ยจะแปลกมาก แต่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จำนวนนับไม่ถ้วนยังยอมแพ้คนที่หายใจแขม่วๆ เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายเธอไม่เชื่อว่าเฉินเป่ยมีวิธีรักษาให้หาย
ถ้าเฉินเป่ยไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทำให้หลีหงขุ่นเคือง ... เขาจะถูกคนในตระกูลหลีปฏิเสธมากยิ่งขึ้น บางทีเขาอาจจะคิดบัญชีเก่าและบัญชีใหม่ด้วยกันไปเลย
“ คุณอยากรู้จริงๆหรือ?” เฉินเป่ยชะลอตัวลงและยิ้มอย่างขี้เล่นเล็กน้อย
"บอกมาเร็วๆ" ดวงตาของหลีชิงเยียนเย็นชา ดวงตาที่สวยงามของเธอจับจ้องไปที่ เฉินเป่ย ราวกับว่าถ้าเฉินเป่ยไม่พูด เธอจะไม่ปล่อยเฉินเป่ยไป
"ง่ายมาก ผมแค่ต้องการเอาสิ่งที่คุณควรจะได้จากตระกูลหลีกลับมา มีจุดยืนในตระกูลหลีเป็นของตนเอง" เฉินเป่ยกล่าวจางๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายเปย์เบอร์หนึ่ง