จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 317

รองเสนาบดีกรมโยธาธิการรีบมายังวัดชิงหยุน เห็นภาพลูกชายตนโดนห้อยแขวนไว้กับต้นไม้ใหญ่หน้าวัดแต่ไกล เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด บนพื้นยังมีกองเลือดกองหนึ่ง ดูน่าตกใจนัก

ซูเหล่าซานกับโจวเทียนหู่ทั้งสองคนในตอนนี้หายใจรวยริน แม้แต่คำพูดขอร้องอ้อนวอนก็พูดไม่ออก เหมือนซากศพ อนาถยิ่งนัก

และใต้ต้นไม้ก็มีองครักษ์จวนซื่อจื่อยืนอยู่ ด้านข้างมีชาวบ้านมายืนห้อมล้อมพลางชี้นิ้วบ่นพร่ำมากมาย ล้วนแต่ดูถูกกล่าวโทษโจวเทียนหู่กับซูเหล่าซานทั้งนั้น

สองคนนี้ปกติก็ชอบรังแกชาวบ้าน ฉุดคร่าหญิงชาวบ้าน ทำเรื่องชั่วช้ามากมาย เพียงแต่ติดที่ฐานะของทั้งสองคน ทุกคนเลยได้แต่เก็บความโกรธหากไม่กล้าพูดเท่านั้นเอง

แต่ไม่คิดเลยว่า ครั้งนี้เขาสองคนกลับหาเรื่องคุณหนูหยุน หาเรื่องตายเองแท้ๆ ถึงวิธีการที่ซื่อจื่อสั่งสอนคนจะอำมหิตมาก แต่ก็ทำให้ทุกคนพร้อมใจกันปรบมือชมเชย ช่างสาแก่ใจนัก

รองเสนาบดีกรมโยธาธิการซูเซินเห็นภาพเลือดเต็มร่างลูกชาย เจ็บปวดใจนัก รีบพุ่งเข้าไปหา

“ลูกพ่อ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

ซูเหล่าซานเห็นพ่อตนมาแล้ว ตื่นเต้นจนน้ำตาไหลพราก เขาอยากขยับแต่ไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย เสียงลร้องขอความช่วยเหลืออย่างคนหายใจรวยรินดังมา “ท่านพ่อ ช่วยข้าที ขอร้องท่านล่ะช่วยข้าด้วย!”

“ลูกพ่อเจ้าวางใจเถอะ พ่อต้องหาทางช่วยเจ้าแน่ ตอนนี้ข้าจะไปขอร้องจวินซื่อจื่อ!” ซูเซินพูดพลางทำท่าจะเดินไป

แต่กลับโดนองครักษ์ของจวนซื่อจื่อขวางไว้ “ซื่อจื่อของข้าสั่งการไว้แล้วว่าไม่พบผู้ใดทั้งนั้น รองเสนาบดีกรมโยธาธิการ หากไม่อยากบ้านแตกสาแหรกขาด ก็อย่าไปรบกวนซื่อจื่อเด็ดขาด มิเช่นนั้นผลลัพธ์มิใช่อะไรที่ท่านจะรับได้เลย!”

คำพูดเด็ดขาดคำเดียวทำเอาซูเซินงงเป็นไก่ตาแตกไปเลย

“นี่จะทำอย่างไรดี ข้ามีบุตรชายคนนี้คนเดียวนะ” ซูเซินบอกอย่างทำอะไรไม่ถูก เหล่เห็นรถม้าที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ก็พุ่งเข้าไปเหมือนเห็นพระมาโปรดพอดี

“กระหม่อมถวายบังคมซวนอ๋อง ขอซวนอ๋องช่วยชีวิตลูกชายกระหม่อมด้วย กระหม่อมเองก็ไม่คิดว่า เจ้าลูกทรพีนี่จะกล้าทำให้จวินซื่อจื่อไม่พอใจ ขอซวนอ๋องเห็นแก่ที่กระหม่อมจงรักภักดีต่อท่านมาตลอด ช่วยบุตรชายกระหม่อมด้วย” รองเสนาบดีกรมโยธาธิการคุกเข่าลงทันที

โม่เหลิ่งเหยียนมองเขาอย่างเย็นชา ระหว่างทางที่มาเขาได้ยินลูกน้องรายงานสถานการณ์ทางนี้ให้ฟังแล้ว

“กล้ามาหาเรื่องหยุนถิง เขาหาเรื่องตายเอง จวินหย่วนโยวไม่ได้ฆ่าล้างตระกูลเจ้าก็ถือว่าเมตตาที่สุดแล้ว ข้าจะเตือนเจ้าไว้นะ อย่าหาเรื่องผูกคอตนเองตายเลย

บุตรชายไม่มีแล้วยังมีอีกได้ หากเจ้าไปหาจวินหย่วนโยว อย่าว่าแต่รองเสนาบดีกรมโยธาธิการอย่างเจ้าเลย น่ากลัวว่าตระกูลซูทั้งตระกูลของเจ้าน่ะคงไม่ได้อยู่เห็นดวงตะวันของพรุ่งนี้แล้วล่ะ” โม่เหลิ่งเหยียนทิ้งไว้หนึ่งคำ ก่อนมุ่งหน้าเดินไปที่วัด

องครักษ์ด้านหลังอดสงสัยไม่ได้ “ท่านอ๋อง ปกติท่านไม่สนใจความเป็นความตายของผู้อื่นมิใช่รึ เหตุใดถึงเอ่ยเตือนซูเซินเล่า?”

“จะพูดอย่างไรเขาก็เป็นคนที่ข้าสนับสนุน หลายปีมานี้ก็จงรักภักดีต่อแคว้นต้าเยียนยิ่งนัก เป็นขุนนางตงฉินมือใสสะอาด แต่หวังว่าเขาจะไม่หาเรื่องตายเอง” โม่เหลิ่งเหยียนตอบ

“ท่านอ๋องเฉลียวฉลาดนัก”

ซูเซินฟังคำพูดซวนอ๋องแล้ว สีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนัก มองดูซูเหล่าซานที่โดนห้อยโหนบนต้นไม้ วินาทีนี้เขาพลันเข้าใจการตัดสินใจของจงซูลิ่งแล้ว

ก่อนที่จะมาที่นี่เขายังรู้สึกว่าจงซูลิ่งไร้หัวใจ ตอนนี้พอมองดูแผ่นหลังที่เย็นชาของซวนอ๋อง ซูเซินสูดลมหายใจเข้าปอดลึก กลั้นใจหลับตาลง หมุนตัวเดินจากไปทันที

“ท่านพ่อ ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย ท่านพ่อ---“ ซูเหล่าซานร้องอย่างโหยหวน

ซูเซินฟังแล้วปวดใจนัก แต่เพื่อทั้งตระกูลซู เขาได้แต่ตัดใจและเลียนแบบจงซูลิ่ง ไม่เช่นนั้นด้วยฝีมือจวินซื่อจื่อ น่ากลัวว่าทั้งตระกูลซูคงโดนหางเลขไปด้วยแน่

เฮ้อ ถึงจะปวดใจ แต่ก็ทำได้แค่ทำเหมือนไม่มีลูกชายคนนี้แล้วล่ะ

อีกทาง โม่เหลิ่งเหยียนเข้าไปในวัด หาพระของวัดมาถาม ถึงรู้ว่าจวินหย่วนโยวกำลัง่งสมาธิกับเจ้าอาวาส ส่วนหยุนถิงไปที่เขาด้านหลัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ