ลูกเขยที่สมบูรณ์แบบหายไปทั้งแบบนี้ จะให้จางชิงหยู่ไม่รู้สึกโมโหได้อย่างไร
เดิมทีก็อัดอั้นความโกรธอยู่เต็มท้องไม่มีที่ระบาย ตั้งใจมาเยี่ยมลูกสาวของตนเองที่โรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าเจอเข้ากับหลินหยาง จะให้เธออดทนต่อไปไหวได้อย่างไร? เธอจึงเริ่มแหกปากตะโกนด่าทอหลินหยาง ระบายความอัดอั้นทั้งหมดออกมาทันที
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ…หลินหยางกล้าตบหน้าเธอ!
และยังพูดคำพูดแบบนี้ออกมา!
จางชิงหยู่ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าหลินหยางถึงขั้นกล้าลงมือ…
"แก…แกพูดอะไรของแก? พวกเราไม่เห็นแกเป็นลูกเขยยังไง? อีกอย่าง! ถึงพวกเราไม่เห็นแกเป็นลูกเขย แกก็ไม่มีสิทธิ์ลงมือทำร้ายคนแบบนี้! แกเป็นแค่เด็กรุ่นหลัง! ทำเรื่องที่ขาดคุณธรรมแบบนี้ได้ยังไง! แกเข้าใจหรือเปล่า?" ซูกวงรู้สึกโมโหมาก ตะคอกใส่หลินหยาง
"ดังนั้นผมจึงต้องยืนทนให้จางชิงหยู่ทุบตีด่าว่าอย่างเชื่อฟังงั้นเหรอ? และยังห้ามลงมืออีก?" หลินหยางถามกลับ
"แก…"
ซูกวงเริ่มไม่รู้ควรจะโต้แย้งยังไง
"ได้!"
ในตอนนั้นเอง จางชิงหยูตะโกนเสียงดังอย่างกะทันหัน
ซูกวงหันไปมองเธอ
เห็นเพียงเธอกุมใบหน้าของตนเอง ในแววตาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ
เธอในตอนนี้แทบอยากจะวิ่งเข้าไปถลกหนังของหลินหยางเดี๋ยวนี้ แต่หลังจากเห็นร่างกายที่สูงใหญ่ของหลินหยาง สุดท้ายจึงทำได้แต่ปัดความคิดนี้ทิ้งไป
บวกกับโดยรอบมีผู้คนมากมายและยังอยู่ในโรงพยาบาล จางชิงหยู่รู้ดี ถ้าหากโวยวายแบบนี้ต่อไป คนที่เสียเปรียบคือเธอแน่นอน
เธอจ้องหลินหยานเขม่น กัดฟันแน่นแล้วพูด "คนแซ่หลิน! แกแน่มาก ฉันจำเอาไว้แล้ว!"
หลินหยางเงยหน้าขึ้นมอง
"ที่เมื่อก่อนเสี่ยวเหยียนไม่ยอมหย่าเป็นเพราะเธอโง่ และฉันก็ตามใจเธอ! แต่ครั้งนี้พูดอะไรมันก็ไม่มีประโยชน์! หลังเสี่ยวเหยียนออกจากโรงพยาบาล! มีฉันไม่มีแก มีแกไม่มีฉัน! ถ้าเธอไม่ยอมหย่า ฉันจะกระโดดตึกตายให้เธอดูเอง!"
จางชิงหยู่พูดด้วยความโกรธ กระชากแขนของซูกวง เดินเข้าไปด้านในด้วยความโมโห
หลินหยางมองคนทั้งสองด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
ผู้คนที่อยู่โดยรอบพากันวิพากษ์วิจารณ์
"นี่มันเวลาไหนแล้ว พวกเขายังมาห่วงเรื่องความเจริญก้าวหน้า เอาแต่สนใจเรื่องที่เสี่ยวเหยียนไม่ได้แต่งงานกับลูกเขยที่ร่ำรวย น่าเศร้าใจ" ลั่วเฉียนเดินเข้ามาพูดเสียงเบา
"ความคิดของทุกคนไม่เหมือนกัน ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของพวกเขา ผมแค่ทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดก็พอ" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
"แล้วถ้าหากคุณน้าจางบังคับเสี่ยวเหยียนหย่ากับคุณ ควรทำยังไงดี?" ลั่วเฉียนถามด้วยความระมัดระวัง
หลินหยางเงียบไปสักพัก "คงให้เสี่ยวเหยียนเป็นคนตัดสินใจมั้ง ถ้าหากเธอยินดี งั้นก็…หย่า"
ลี่วเฉียนไม่พูดอะไร แต่ในแววตากลับมีอารมณ์ของความซับซ้อนปรากฏขึ้น
หลังจากจัดการธุระที่โรงพยาบาลเรียบร้อย หลินหยางมาถึงละแวกของสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี
ก่อนหน้านี้ ที่นี่ถูกสั่งปิดผนึกไปแล้ว
มีตำรวจมาหาหลักฐานทุกวัน
หลินหยางแสดงตัวไม่ได้เด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น
เขายืนสูบบุหรี่อยู่ตรงตรอกข้างสถาบัน
ผ่านไปสักพัก มีคนคนหนึ่งปรากฏขึ้นที่ข้างกายของเขา คุกเข่าลงหนึ่งข้าง
"คำนับเจ้านิกาย!"
คนคนนี้คือเจี้ยนอั้นซิงหนึ่งในเจ็ดเงาทรราช
สีหน้าของเจี้ยนอั้นซิงในตอนนี้ดูซีดเซียว กลิ่นอายก็ไม่ได้หนักแน่นเหมือนเมื่อก่อน ในทางกลับกันยังให้ความรู้สึกที่อ่อนแอลง
หลินหยางเหลือบมองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ "คุณถูกพิษ?"
"ใช่" เจี้ยนอั้นซิงพูดเสียงเบา
"คนอื่นล่ะ?"
"รักษาตัวในนิกาย!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...